นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา นิยาย บท 363

นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา บทที่ 363 ใกล้ชิด

เขายกมือขึ้นตีไปที่บั้นท้ายของม้าอย่างไม่พอใจเล็กน้อย ม้านั้นก็ยกขาขึ้นแล้ววิ่งไปข้างหน้า

โจวกุ้ยหลานจับจ้องไปที่ประตูนั้น แล้วยืนรอ

ผ่านไปมินานก็มีรถม้าอีกคันปรากฏขึ้น โจวกุ้ยหลานกางแขนออกแล้วทำท่าทางเช่นเดิม นางเข้าไปรั้งไว้ต่อหน้ารถม้า

คนขับรถม้ารีบดึงสายบังเหียนอย่างรวดเร็ว รถม้าจึงหยุดอยู่ตรงหน้าของนางอย่างพอดิบพอดี

“เจ้าอยากตายงั้นหรือ?”

คนขับรถผู้นั้นก็ตกอกตกใจเสียจนเหงื่อไหล เขาอดมิได้ที่จะหันไปตะโกนดุด่าโจวกุ้ยหลาน

โจวกุ้ยหลานมองไปทางเขา ริมฝีปากของนางขยับเขยื้อนเล็กน้อย แล้วพูดออกมาเบาๆ ว่า “ขออภัย”

แต่ว่าบัดนี้นางมิมีวิธีเลือกอื่นแล้ว นางมิอยากจะมองดูสีหน้าของศาลผีอีก แต่กลับมองเข้าไปในรถม้าอันสง่างาม กล่าวด้วยน้ำเสียงดูเหนื่อยล้าว่า “สวีฉางหลิน เจ้าจะมิออกมาพบข้าจริงหรือ?”

ผู้ที่อยู่ในรถยังคงนิ่งเงียบ มิมีเสียงตอบรับออกมา

“ถอยไปเสีย!” คนขับรถมองไปยังสตรีที่เข้ามาขวางทางไว้แล้วตะคอก

โจวกุ้ยหลานกัดฟัน นางกล่าวด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดว่า “หากในวันนี้เจ้ามิออกมาพบข้า เราสองจะตัดสัมพันธ์เพียงเท่านี้ จากนี้ไปจะเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้า และอย่าได้มารู้จักกันอีก!”

นางอดทนมามากพอแล้วกับชีวิตเช่นนี้ เหนื่อยมากแล้วกับการที่ต้องคาดเดาไปในทุกวัน และเหนื่อยกับการเย็นชาของเขา

นางพยายามเผชิญหน้ากับความวิตกกังวลกลัว พยายามที่จะเข้าใกล้เขา แต่ทุกครั้งกลับถูกเขาแสดงท่าทีอันเย็นชาตอกย้ำกลับมา มิว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม บัดนี้นางมิอยากจะเดินไปต่อแล้ว

“ผู้คุ้มกัน ช่วยข้าดึงนางออกไปที อีกประเดี๋ยวท่านนายพลจะไปประชุมราชวงศ์สาย เช่นนั้นคงแย่แน่”

เมื่อคนขับรถเห็นท่าว่าโจวกุ้ยหลานจะมิจากไปง่ายๆ จึงได้ตะโกนสั่งไปผู้คุ้มกันประตูทั้งสองที่ยืนอยู่ตรงด้านข้าง

หนึ่งในนั้นก้าวขาเดินเข้ามาทางโจวกุ้ยหลาน เมื่อพบว่าเขาจะใกล้เข้ามาถึงตัวนางแล้ว โจวกุ้ยหลานเพียงแค่เหลือบตามองเข้าอย่างเย็นชา แต่สายตาก็ยังคงจับจ้องไปยังม่านของรถม้านั้น

นางกำลังเดิมพัน เดิมพันกับความสำคัญในใจของสวีฉางหลินที่มีต่อนาง

ผู้คุ้มกันเดินมาข้างหน้าทีละก้าวทีละก้าวแล้วยื่นมือออกมาจับโจวกุ้ยหลาน ก่อนจะเหวี่ยงโจวกุ้ยหลานไปที่ด้านข้าง

“สวีฉางหลิน เจ้ารู้ดีว่าข้านั้นเอ่ยคำไหนคำนั้น รวมถึงเรื่องที่จะไปจากเจ้า!” น้ำเสียงที่โจวกุ้ยหลานตะโกนออกมานี้ดูสั่นคลอนเล็กน้อย

เมื่อเวลาเดินหน้าไปเรื่อยๆ นางก็ยิ่งมิแน่ใจนัก

ขณะที่ผู้คุ้มกันกำลังจะเข้ามาจับตัวนางอีกครั้ง ม่านของรถม้าก็ถูกเปิดออกจากด้านใน

ร่างของคนที่อยู่ด้านในนั้นค่อนข้างมืดมองมิชัดเจน แต่โจวกุ้ยหลานรู้ดีว่านั่นก็คือสวีฉางหลิน สวีฉางหลินผู้ที่มิยอมมาพบหน้านางเลย

“เจ้าเคยกล่าวไว้ว่าจะรอข้าอีกปี……”

ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่เผยให้เห็นถึงความรู้สึกอันน้อยเนื้อต่ำใจอย่างลึกซึ้ง

โจวกุ้ยหลานคิดมิถึงว่าสวีฉางหลินจะเอ่ยคำเช่นนี้ออกมาเป็นคำแรก นางจึงอดมิได้ที่จะหัวเราะออกมา ดวงตาอันแดงเรื่อ ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำตา ความรู้สึกของนางช่างย้อนแย้ง

ด้วยการกระทำเมื่อครู่ ผู้คุ้มกันจึงได้ปล่อยแขนของโจวกุ้ยหลานออก

สวีฉางหลินมองไปยังภรรยาของเขาที่ถูกชายหนุ่มจับเอาไว้ ความโกรธในใจก็เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ

สวีฉางหลินทำสีหน้ามืดมนแต่น้ำเสียงยังคงดูสงบดั่งเคย ทว่าภายใต้ความสงบนั้นเต็มไปด้วยความโกรธอย่างมหันต์ “ปล่อย”

ผู้คุ้มกันคนนั้นตกตะลึงไปครู่หนึ่ง มิรู้ว่าจะมีปฏิกิริยาตอบโต้เช่นไรดี

เมื่อเห็นว่าเขายังคงยืนงงอยู่ สวีฉางหลินก็มิอาจนั่งได้อีกต่อไป

เขาเดินมาจากรถม้า แล้วกระโดดลงไป ก่อนจะก้าวขาเข้าไปอย่างรวดเร็ว ดึงแขนของผู้คุ้มกันคนนั้นออกแล้วเดินมาหยุดอยู่ข้างกายโจวกุ้ยหลาน มือจับไปยังตำแหน่งของแขนที่ถูกผู้คุ้มกันคนเมื่อครู่จับเอาไว้ เขาถูมันอย่างแรง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา