ห้องเก็บศพมีขนาดใหญ่มาก ข้างในมีเนื้อที่กว้างขวาง แต่ละด้านของห้องมีหน้าต่างด้านละ 2 บาน บนหลังคามีช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ แม้การออกแบบจะเรียบง่ายแต่ทว่าช่างมีหลักการดีมาก
ห้องเก็บศพถูกออกแบบได้ไม่เลวเลย มีทั้งแสงสว่างที่เพียงพอและการระบายอากาศที่ดีเยี่ยม ความชื้นด้านในไม่สูงมาก เมื่อเดินเข้ามาในห้องแล้ว กลิ่นศพไม่รุนแรงเท่าไรนัก
เฟิ่งชิงเฉินพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ คนโบราณมีหัวคิดกว่าคนสมัยใหม่ โดยดูได้จากการออกแบบของห้องเก็บศพ
ไม่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย ทุกอย่างใช้ธรรมชาติล้วนๆ แต่กลับรักษาความสะอาดเอี่ยมภายในห้องได้ดีเยี่ยม
เมื่อเดินเข้ามาในห้องเก็บศพแล้ว ก็มองเห็นศพนอนเรียงรายเป็นแถวๆ เฟิ่งชิงเฉินหาได้ตึงเครียดแม้แต่น้อย
นางไม่ใช่ดอกไม้ที่ถูกเลี้ยงมาในห้องกระจก แต่นางเป็นหมอที่เคยผ่านสมรภูมิมาแล้ว ภาพที่น่าสยดสยองมากกว่านี้ นางก็เคยเห็นมาแล้ว
พวกศพที่แช่ฟอร์มาลินเอย ศพที่ตายด้วยท่าทางประหลาดเอย ล้วนผ่านตานางมาแล้วมากมาย
นางมีรุ่นพี่ที่เป็นแพทย์นิติเวช เวลานางว่างๆ ก็มักจะถูกรุ่นพี่คนนี้ยืมตัวไปช่วยงานอยู่บ่อยครั้ง
นางใช้เวลาไปกับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตมาเนิ่นนาน มากกว่าคนปกติเสียอีก
นางโค้งคำนับให้ร่างไร้วิญญาณ 3 ครั้ง เป็นการแสดงความเคารพเจ้าของร่าง ไม่ต้องอาศัยการนำจากเจ้าหน้าที่ เฟิ่งชิงเฉินก็สามารถหาศพของสาวใช้ตนเองเจอ
ร่างนั้นถูกคลุมด้วยผ้าขาว มีเพียงหลังมือยื่นออกมาเท่านั้น ที่หลังมือนางมีรอยฟกชํ้าเป็นจุดๆ มีบาดแผลเล็กๆปรากฏอยู่ ตอนนี้เป็นหนองสีขาว มองดูแล้วน่าสะอิดสะเอียนนัก
เฟิ่งชิงเฉินถอนหายใจเบาๆ ความโกรธแค้นที่เคยมีต่อสาวใช้คนนี้ ตอนนี้กลับหายไปจนหมดสิ้น
คนตายไปแล้วก็อย่าผูกเวรต่อกันอีกเลย!
จะให้นางเจ้าคิดเจ้าแค้นกับคนตายไปทำไม สาวใช้คนนี้ก็แค่ถูกหลอกใช้เท่านั้นเอง
คนที่สมควรตายควรจะเป็นผู้ที่หลอกใช้สาวใช้คนนี้เสียมากกว่า!
"นางมีของติดตัวอะไรบ้าง?" เฟิ่งชิงเฉินหันไปถามเจ้าหน้าที่ที่ยืนอยู่ข้างๆ
ที่นางมาดูศพด้วยตัวเอง ก็เพื่อต้องการตามหาร่องรอยจากสาวใช้คนนี้
"ไม่มีขอรับ ตอนที่คนนำร่างของแม่นางคนนี้ขึ้นจากน้ำ เอ่อ......นางแทบไม่มีเสื้อผ้าเลยขอรับ"
"นางถูกคนข่มขืนมางั้นหรือ?" เฟิ่งชิงเฉินหน้าเสีย แล้วเลิกผ้าคลุมหน้าศพออก
เฟิ่งชิงเฉินสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด
ร่างกายทั้งท่อนบนและท่อนล่างไม่มีชิ้นดีเลย มีแต่รอยฟกช้ำเต็มไปหมด รอยนิ้วมือของฝ่ายชายมีให้เห็นอยู่ทั่วร่าง ร่างกายท่อนล่างน่าอนาถยิ่งนัก นางถูกกระทำชำเราก่อนตาย
ดูจากรอยนิ้วมือที่ปรากฏตามร่างกายของนางแล้ว เฟิ่งชิงเฉินแน่ใจว่าฝ่ายชายคงไม่มีเพียงคนเดียวแน่นอน เมื่อมองดูหน้าของนางแล้ว แม้ว่าใบหน้าของนางจะบวมอืด แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความหวาดกลัวและความเจ็บปวดก่อนตาย
ดวงตาทั้งสองข้างเบิกโพลงมองขึ้นไปด้านบน นางนอนตายตาไม่หลับ
นี่นางถูกรุมโทรมเลยหรือนี่!
มันจะมากเกินไปแล้ว
เฟิ่งชิงเฉินกำหมัดแน่นในขณะที่มองร่างที่น่าสังเวชของหวั่นอิน
ฝ่ายตรงข้ามกล่าวเตือนนางใช่ไหมนะ?
ถัดจากหวั่นอินแล้ว คนต่อไปจะเป็นนางอย่างนั้นหรือ?
การส่งสัญญาณเตือนเช่นนี้มันดูมากเกินไปแล้ว
เจ้าหน้าที่เห็นเฟิ่งชิงเฉินยืนเหม่อก็นึกว่านางตกใจกลัว จึงรีบร้องเรียกนางในทันที "คุณหนูเฟิ่งขอรับ คุณหนูเฟิ่ง"
เฟิ่งชิงเฉินจึงได้สติคืนมา นางส่ายหน้าและกล่าวว่า "ข้าไม่เป็นไร"
เมื่อนางพูดจบก็เตรียมจะเดินออกไปด้านนอก แต่ในขณะนั้นเอง ไม่รู้ว่านางไม่ทันระวังหรือเป็นเพราะเหตุใด เฟิ่งชิงเฉินแข้งขาอ่อนแรง ร่างของนางทรุดลงไปอยู่ข้างๆศพที่อยู่ใกล้หวั่นอิน
"โอ๊ย......"
เฟิ่งชิงเฉินร้องออกมาในขณะที่นางพยายามจะทรงตัว แต่ก็ไม่ทันการเสียแล้ว นางเซล้มลงไปบนร่างของศพอีกศพหนึ่ง!
ฝุบ......เฟิ่งชิงเฉินล้มลงไปนอนทับบนศพที่อ่อนนิ่ม
"เอ๋ะ? ยังอุ่นอยู่เลยนี่? ศพนี่ยังอุ่นอยู่เลย?" เฟิ่งชิงเฉินยังคงนอนทับร่างไร้วิญญาณอยู่เช่นเดิม หูของนางเงี่ยฟังเสียงหัวใจเต้น
ชีพจรอ่อนมาก แต่ก็มีเสียงหัวใจเต้น
เฟิ่งชิงเฉินมีสีหน้าดีใจ นางรู้ว่าคนๆนี้ยังไม่ตายแน่นอน
เฟิ่งชิงเฉินเตรียมเปิดใช้งานกระเป๋าเครื่องมือแพทย์อัจฉริยะบนข้อมือของตนเอง นางอยากตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างคนๆนี้ แต่แล้วประตูห้องเก็บศพกลับเปิดออก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ