นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 605

โกรธหรือ? บางทีนางก็รู้สึกโกรธเช่นกัน ทว่า นางโกรธไปก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงสิ่งใดไปได้อยู่ดี?

หากเทียบกันแล้วนางย่อมรู้สึกดีใจมากกว่า ถ้าหากว่าเสด็จอาเก้าเอาแต่ปกป้องนางนั้น ให้นางซ่อนตัวอยู่แต่ในความมืด เช่นนี้นางถึงจะรู้สึกโกรธเคืองมากกว่านัก อีกทั้งการหลงรักนางมากเกินไป ย่อมมีเรื่องปวดหัวให้ตามมาทีหลังมากมาย หากเสด็จอาเก้าเอาแต่ปกป้องนางนั้น ย่อมหมายความว่าเสด็จอาเก้าคิดที่จะละทิ้งนางแล้ว

เรื่องพวกนี้ ทุกคนล้วนแต่เข้าใจมันเป็นอย่างดี ก่อนหน้านั้นเสด็จอาเก้ายังดีๆ อยู่เลย เหตุใดเมื่อเจอกับเหล่ามือสังหารถึงได้เอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมากัน หรือว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกับกับเสด็จอาเก้ากันแน่?

ยามที่ภายในใจมีข้อสงสัยมากมายนั้น เฟิ่งชิงเฉินกลับมิได้ถามมันออกมา. เพียงแค่เอ่ยถามเสด็จอาเก้ากลับไปว่า "ถ้าหากหม่อมฉันโกรธเล่า พระองค์จะยอมรามือหรือไม่?"

เสด็จอาเก้าหาได้ฉุกคิดไม่ พระองค์พลันส่ายหน้าไปในทันที "ไม่ หากเจ้าคิดจะยืนเคียงคู่เปิ่นหวางนั้น เจ้าจำเป็นต้องอดทนผ่านมันไปให้ได้" ไม่ว่าจะเจียงซานหรือสาวงามเขาก็ต้องการทั้งหมด หากเพื่อเจียงซานแล้วเขาละทิ้งสาวงามไป เขาก็ไม่เลือกสาวงามพร้อมกับละทิ้งยุทธจักรไปเช่นกัน

"ในเมื่อเป็นเช่นนี้ การถามย่อมมิเกิดอันใดขึ้นมา คำตอบของหม่อมฉันเป็นเช่นไร ย่อมไม่มีความสำคัญสำหรับท่าน" เสด็จอาเก้าที่ดื้อรั้นเช่นนี้ ย่อมไม่เปิดโอกาสให้นางปฏิเสธเป็นแน่

คำตอบของเจ้า แม้ไม่อาจเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของข้าไปได้ แต่สำหรับข้าแล้วมันสำคัญมาก!

คำพูดนี้ เมื่อมาถึงปากแล้ว เสด็จอาเก้ากลับไปอาจเอ่ยมันออกไปได้ จะพูดออกมาแล้วเป็นเช่นไร ในเมื่อทุกอย่างเป็นดั่งที่เฟิ่งชิงเฉินเอ่ยออกมา ในเมื่อพูดออกมาก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงอันใดได้นั้น สิ่งใดที่เขาตัดสินใจออกมาแล้ว ย่อมไม่มีผู้ใดเปลี่ยนแปลงมันไปได้

"ใช่ คำตอบของเจ้าหาได้สำคัญไม่ ไม่ว่าจะเป็นเช่นไร เจ้ามีหน้าที่อดทนต่อไปเท่านั้น" เสด็จอาเก้าพลันพูดออกมาด้วยความหนักแน่น ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอ่อนล้านั้นพลันค่อย ๆ สบตากับเฟิ่งชิงเฉิน แววตาพลันค่อย ๆ ฉายแววโหดเหี้ยมออกมา เพื่อเป็นการเตือนว่า เฟิ่งชิงเฉินนางไม่มีทางให้ถอยหนีอีกแล้ว

เหตุใดถึงได้เหมือนเด็กน้อยเช่นนี้ เฟิ่งชิงเฉินได้แต่ยิ้มออกมาด้วยความขมขื่น ในเมื่อเสด็จอาเก้ายืนยันในคำตอบของนางนั้น จนกระทั่งเฟิ่งชิงเฉินพยักหน้ารับเบา ๆ เสด็จอาเก้าถึงได้เก็บสายตากลับไป ทั่วร่างราวกับผ่อนคลายลง พร้อมทั้งเอื้อมมือมากอดเฟิ่งชิงเฉินเอาไว้

"เฟิ่งชิงเฉิน เปิ่นหวางเหนื่อยยิ่งนัก ให้เปิ่นหวางพักผ่อนเสียหน่อยเถิด!"

เขารู้เหนื่อยล้ายิ่งนัก ตั้งแต่ที่เขาก้าวเท้าเข้ามาในเมืองหลวง ก็ไม่อาจหยุดพักได้แม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว หลังจากเข้าวังไปพบกับเสด็จพี่นั้น ก็พลันมีเรื่องมากมายที่ต้องจัดการ พร้อมทั้งหอบร่างที่อ่อนล้าออกมาจากพระราชวัง ก็ยังมาพอกับฝูงมือสังหารมากมายอีก ชีวิตเช่นนี้เขารู้สึกคุ้นชินเป็นอย่างยิ่ง แต่ท้ายที่สุดก็ยังรู้สึกเหนื่อยอยู่ดี โดยเฉพาะวันนี้ เสด็จพี่ที่เขาเคารพรัก กลับใช้มีดควักหัวใจของเขาออกมา

"อื้ม ท่านพักผ่อนให้สบายใจเถิด หม่อมฉันจะอยู่ที่นี่เอง!" สายตาของเฟิ่งชิงเฉินรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก ยามที่ก้มหน้ามองเสด็จอาเก้าที่นอนหลับตาอยู่ในอ้อมกอดของตนนั้น ความรู้สึกสงสัยภายในใจยิ่งเพิ่มมากขึ้นเข้าไปอีก

เสด็จอาเก้าไปพบเจอเหตุการณ์เช่นไรภายในวังมากันแน่ เหตุใดถึงได้ดูอ่อนล้าเช่นนี้ เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกได้ว่า ต้องเป็นเพราะความเหนื่อยใจอย่างแน่นอน

ทั้งสองกอดกันนิ่ง ๆ เช่นนั้น จู่ๆ ทหารคนสนิทของเสด็จอาเก้าพลันเข้ามารายงานให้ฟังว่า สามารถจับมือสังหารที่ยังมีชีวิตอยู่ได้แล้ว เช่นนั้นเสด็จอาเก้าจึงได้ปล่อยเฟิ่งชิงเฉินไปแต่โดยดี ทั่วร่างพลันกลับมาเป็นเสด็จอาเก้าที่ดูน่าเกรงขามและเต็มไปด้วยความองอาจเช่นเดิม เสมือนกับว่าไม่เคยมีความอ่อนแอมาปรากฏให้เห็นมาก่อน

"ช่วงนี้เจ้าระมัดระวังตนเองไว้หน่อยก็ดี เปิ่นหวางคงจะยุ่งมากนัก อาจจะไม่มีเวลามาคอยดูแลเจ้า เรื่องของชนเผ่าเสวียนเซียวกงนั้น เจ้ามิอจำเป็นต้องสนใจ เปิ่นหวางจะรีบจัดการมันโดยเร็ว" เสด็จอาเก้าเพียงสั่งการไม่กี่คำ พร้อมกับหันกายจากไปในทันที

ชนเผ่าเสวียนเซียวกง ในเมื่อกล้าที่จะมาข่มขู่เขานั้น เช่นนั้นก็จงกล้าที่จะรับที่ตามมาด้วยก็แล้วกัน

นอกจากพยักหน้าลงแล้ว นางยังมิทันได้เอ่ยสิ่งใดออกมา ยามที่เสด็จอาเก้าเดินจากไปแล้วนั้น นางก็กลับมาคิดถึงคำพูดของเสด็จอาเก้าอีกที

ยามที่เสด็จอาเก้าเข้ามานั้น จิตใจว้าวุ่นยิ่งนัก อีกทั้งเขายังรู้สึกไม่มั่นใจอีกด้วย ประโยคสุดท้ายของเขาแสดงให้เห็นว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเสด็จอาเก้ากับชนเผ่าเสวียนเซียวกงดูจะทวีคูณความรุนแรงมากขึ้นไปอีก หาได้เป็นเพราะเซวียนเฟยไม่

เฟิ่งชิงเฉินครุ่นคิดเกี่ยวกับมันอยู่นาน ก็คิดไม่ออกว่าเกิดเหตุการณ์อันใดขึ้น พร้อมทั้งกดปุ่มภายในห้องครู่หนึ่ง ทงเหยาก็รีบมาหานางในทันที

"คุณหนู?" ทงเหยามิค่อยเข้าใจนัก ว่าเหตุใดเฟิ่งชิงเฉินถึงเรียกหานางในยามนี้ ทว่าก็ยืนรอนางโดยไม่เอ่ยถามอันใดออกมา

"ไปสืบหาดูซิว่า เกิดเรื่องอันใดขึ้นภายในวังวันนี้ สิ่งที่สำคัญคือคำพูดของเสด็จอาเก้าและองค์จักรพรรดิ" เฟิ่งชิงเฉินรู้ดีว่า การจะสืบหาคงเป็นไปได้ยากนัก ทว่า

เสด็จอาเก้าผิดปกติไปยามที่ออกมาจากวังหลวง ภายในนั้น ย่อมต้องเกิดเรื่องขึ้นอย่างแน่นอน

"เพคะ คุณหนู" ทงเหยามิกล้า ร้องโอดครวญออกมา การที่จะไปสืบหาคำพูดของเสด็จอาเก้ากับองค์จักรพรรดิเป็นเรื่องที่ยากยิ่งนัก แต่ทว่า นางก็หันกายกลับไปสั่งลูกน้องของตนให้ไปดักฟังในทันที

แต่เดิมเฟิ่งชิงเฉินคิดว่า ยามที่เสด็จอาเก้าและองค์จักรพรรดิพูดคุยกันจะไม่มีผู้ใดอยู่ภายในห้อง ทว่า ผ่านไปวันที่สองข่าวคราวที่ทงเหยาไปสืบมาก็ได้ความในทันที พร้อมทั้งยังทำให้เฟิ่งชิงเฉินอดที่จะรู้สึกไม่ได้ว่า นี่เป็นความจงใจของฝ่าบาทหรือไม่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ