เสด็จอาเก้าหาได้สนใจคำคัดค้านจากเหล่าขุนนางพวกนั้นไม่ พร้อมทั้งดึงดันที่จะไปส่งเฟิ่งชิงเฉินที่เรือนเล็กซีซวีให้ได้ จากนั้นค่อยกลับไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทที่พระราชวัง
เขาหวังแต่เพียงว่า การกระทำของเขาในวันนี้ จะทำให้คนพวกนั้นเห็นได้ว่า น้ำหนักของเฟิ่งชิงเฉินที่อยู่ภายในใจของเขา หาได้เหมือนการก่อนไม่ หากคิดจะทำอันใดกับนาง ก็ควรจะประเมินตัวเองเสียก่อนว่า ยินยอมรับผลตอบแทนที่จะตามมาได้หรือไม่
ขุนนางบางรายเห็นเช่นนี้ ก็พลันหันไปขยิบตาใส่องค์รัชทายาท เพื่อให้องค์รัชทายาทเอ่ยห้ามเสด็จอาเก้า ถึงความเหมาะสมไม่เหมาะสม อย่าได้พูดเลยว่าเฟิ่งชิงเฉินเป็นถึงพระชายาเก้า ถึงแม้ว่านางจะได้เป็นก็หาได้มีเกียรติไม่
องค์รัชทายาทแสร้งทำเป็นมิเห็นสายตาเหล่านั้น เสด็จพ่อแท้ ๆ ยังไม่ชอบเขา ไม่ว่าเขาจะทำเช่นไรก็ไม่สนใจเขา เช่นนั้น ไม่สู้ทำตัวให้เสด็จอาเก้าเอ็นดูไม่ดีกว่าหรือ
ไม่ว่าฟ้าจะถล่มลงมาเช่นไร ก็ยังมีเสด็จอาเก้าอยู่ ขอเพียงแค่เขาไม่ทำการก่อกบฏ มีเสด็จอาเก้าอยู่ข้างเขาเช่นนี้ เสด็จพ่อย่อมไม่อาจไล่เขาลงจากตำแหน่งองค์รัชทายาทไปได้
หลังจากที่ทงจือทงเหยารอเสด็จอาเก้ากลับไปแล้วนั้น ก็พากันเข้ามาล้อมรอบตัวเฟิ่งชิงเฉิน จากนั้นก็รีบดึงเฟิ่งชิงเฉินที่อยู่ชุดอาภรณ์สีชาด โดดเด่นยิ่งกว่าดวงดาวบนฟากฟ้า รีบพานางเข้าไปในห้องโถงในทันที
ทั้งชุยห้าวถิง หยุนเซียว เซี่ยซาน ซูเหวินชิงและซุนซือสิง ล้วนแต่นั่งรอนางอยู่ภายในห้องโถง เมื่อเห็นเฟิ่งชิงเฉินเข้ามานั้น ทั้งซูเหวินชิงและซุนซือสิงต่างก็ลุกขึ้นยืนต้อนรับนางในทันที
ซูเหวินชิงที่เห็นปิ่นปักผมรูปหงส์เพลิงบนหัวของเฟิ่งชิงเฉินนั้น ก็พลันตกตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็หาเรื่องอื่นขึ้นมาหยอกล้อนางในทันที ทั้งชุยห้าวถิงและหยุนเซียวที่เห็นท่าทางของเฟิ่งชิงเฉินเดินทางมาเหนื่อย ๆ นั้น จึงได้เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเสียสองสามคำ แล้วจึงจากไป
เซี่ยซานกับซูเหวินชิงเองหาได้ต้องการอยู่นานไม่ เมื่อเห็นสีหน้าเลือดฝาดที่สุขภาพดีของเฟิ่งชิงเฉิน และท่าทีที่ไร้อารมณ์ทุกข์ร้อนของนางนั้น ทั้งสองคนก็จากไปด้วยความสบายใจ ทว่า ก่อนที่ออกไปนั้น เซี่ยซานพลันหันกลับมาถามเฟิ่งชิงเฉินว่า ท่าอาสะใภ้รองของเขาอาการไม่ค่อยสู้ดีนัก ต้องการเชิญเฟิ่งชิงเฉินไปดูอาการให้นางสักครู่หนึ่ง
เฟิ่งชิงเฉินจึงตอบกลับไปด้วยท่าทีสบายอารมณ์ว่า "ได้ หากอาสะใภ้รองของเจ้ารู้สึกดีขึ้นมาเมื่อใด ให้มาหาข้า" ความหมายของนางก็คือ นางจะไม่ไปที่ตระกูลเซี่ยอย่างแน่นอน
เซี่ยซานได้แต่พยักหน้าลง โดยมิได้พูดอันใดออกมาอีก
แต่เดิม ตระกูลเซี่ยต้องการที่จะใช้โอกาสนี้เพื่อให้เฟิ่งชิงเฉินมาที่ประตูจวน พร้อมทั้งจะได้ร่วมพูดคุย เพื่อร่วมมือกับนาง
เมื่อเฟิ่งชิงเฉินเป็นบุคคลที่รับความโปรดปรานจากเสด็จอาเก้าเช่นนี้ ย่อมต้องมีคนที่ต้องการกำจัดนางด้วยเช่นกัน แต่ทว่า ก็มีคนที่เหมือนตระกูลเซี่ยอยู่มาก ที่ต้องการประจบสอพลอนาง
หลังจากที่ฮองเฮาไร้อำนาจแล้วนั้น เซี่ยกุ้ยเฟยก็กำลังจะคลอดองค์ชายน้อยออกมาเร็ว ๆ นี้ พวกเขาตระกูลเซี่ยจึงต้องรับทำอันใดเสียหน่อยแล้ว บุตรที่คลานออกมาจากท้องของฮองเฮา กับบุตรที่เกิดออกมาจากหวังกุ้ยเฟยย่อมไม่มีทางเหมือนกันได้
ถึงแม้ว่าภายในวังหลังจะมีมารดาที่ฐานะสูงส่งอยู่มาก แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นบุตรนำมารดาขึ้นสู่อำนาจเสียมากกว่า หากว่ามารดาของตนมีฐานะสูงส่งแล้ว ทั้งยังได้รับความโปรดปรานจากองค์จักรพรรดิอีก บุตรที่คลอดออกมา ย่อมได้รับความสนใจจากองค์จักรพรรดิมากขึ้นไปอีก
น่าเสียดาย เฟิ่งชิงเฉินปฏิเสธได้อย่างไร้เยื่อใยยิ่งนัก ตระกูลเซี่ยที่เพิ่งได้รับผลกระทบมา ย่อมมิกล้าสู้เฟิ่งชิงเฉินเช่นกัน โดยเฉพาะเฟิ่งชิงเฉินที่มีเสด็จอาเก้าคอยปกป้องคุ้มครองอยู่เช่นนี้
การเปิดตัวที่ดูอลังการ หากจะกล่าวว่าเฟิ่งชิงเฉินเป็นฮองเฮาก็ดูจะไม่ผิดไปนัก อีกทั้งผู้ที่สามารถเดินเคียงข้างเสด็จอาเก้าเช่นนั้นได้ มีเพียงแค่องค์จักรพรรดิเท่านั้น เสด็จอาเก้าที่ให้เกียรติเฟิ่งชิงเฉินเช่นนี้ ตระกูลเซี่ยจะกล้าที่ทำให้เฟิ่งชิงเฉินไม่พอใจงั้นหรือ
หลังจากที่เซี่ยซานและซูเหวินชิงจากไปนั้น ซุนซือสิงก็ไม่กล้าอยู่รบกวนเฟิ่งชิงเฉินต่อไป เฟิ่งชิงเฉินกลับมาในยามนี้ ยังมีเวลาเหลือเฟือ เขามิได้มีเรื่องรีบร้อนอันใด
ชุนเซี่ยชิวตงทั้งสี่นางที่รู้ความนั้น ต่างก็ได้เตรียมน้ำร้อนไว้นานแล้ว เฟิ่งชิงเฉินจึงได้มีโอกาสอาบน้ำชำระล้างกายเสียที
หลังจากที่ชำระล้างกายเสร็จแล้วนั้น มิต้องรอให้เฟิ่งชิงเฉินสั่งการ ทงจือและทงเหยาที่อยู่ภายในห้องนั้น ก็ได้เอ่ยรายงานเรื่องราวภายในหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ให้กับเฟิ่งชิงเฉินในทันที
"คุณหนูเพคะ ครึ่งเดือนก่อนหน้านั้น ซีหลิงเทียนอวี่มาส่งองค์หญิงเหยาหวาที่ตงหลิงพร้อมทั้งสั่งให้มีการพยากรณ์ดูฤกษ์งามยามดี งานมงคลสมรสจะถูกจัดเดือนสิบสองวันที่สิบสองเพคะ นับว่าเป็นวันมงคล โดยผู้เป็นแม่งานในครานี้คือซูเฟยเหนียงเหนียงเพคะ"
"ท่านเจ้าเมืองเย่เฉิง องค์รัชทายาทซีหลิงและลั่วอ๋องกับโจวอ๋องกลับมาสมานฉันท์กันอีกแล้วเพคะ พร้อมทั้งกำลังร่วมมือกันกระทำอะไรบางอย่าง"
"หนึ่งเดือนที่ผ่านมา คุณชายหยวนซีมาหาท่านห้าครั้ง ทว่าเขามาหาเพียงคุณชายชุย จากการคาดคะเนของหม่อมฉันแล้วพวกเขาน่าจะรู้จักกันมาก่อนหน้านั้นแล้วเพคะ"
"จวนเฟิ่งได้มีการจัดการเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างยังคงตกแต่งเป็นเหมือนเดิมเพคะ หากคุณหนูมีเวลาละก็ เชิญท่านไปเดินดูด้วยตาของตนเองเถิดเพคะ จะได้ดูว่ามีที่ใดที่สมควรต้องปรับแก้อีกบ้าง"
"ตระกูลซูส่งสตรีมานางหนึ่งเพคะ นามว่าซูโหยว เพื่อมาประลองแทนที่คุณหนูซูหว่าน อีกทั้งตระกูลซูเองก็ได้ส่งคนมารับคุณหนูซูหว่านกลับไปแล้วด้วย แต่ถูกท่านเจ้าเมืองเย่เฉิงไล่กลับไป ท่านเจ้าเมืองเย่เฉิงเชิญท่านหมอมามากมาย แต่ก็ไม่มีผู้ใดสามารถรักษาใบหน้าของคุณหนูซูหว่านได้ ในยามนี้กำลังส่งคนไปเชิญปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีมาเพคะ"
"ภายในพระราชวังได้มีการคัดกรองนู๋ไฉ อีกทั้งทางฝั่งบ่อนพนันและโรงน้ำชาบางแห่งก็ได้ถูกสั่งให้ปิดลงเช่นกันเพคะ พวกเราจึงได้ใช้โอกาสนี้ในการลอบส่งคนเข้าไปในวัง พร้อมทั้งใช้เงินซื้อบ่อนพนันไปสามแห่ง รวมไปถึงโรงน้ำชาอีกหนึ่งแห่ง เพื่อสร้างไว้เป็นของตนเอง ขอให้คุณหนูโปรดลงโทษ ที่พวกเราทำลงไปโดยพลการด้วยเพคะ" ทงจือและทงเหยาต่างก็เลือกเหตุการณ์ที่สำคัญ ๆ นำมารายงานให้นางฟังเท่านั้น
หลังจากที่เฟิ่งชิงเฉินและเสด็จอาเก้าตั้งใจจะอยู่ด้วยกันนั้น นางก็ตั้งใจที่จะเพิ่มพูนอำนาจของตนเอง ถ้าหากนางเอาแต่พึ่งพาเสด็จอาเก้าละก็ ไม่เพียงแต่เสด็จอาเก้าที่รู้สึกเหนื่อย นางก็จะรู้สึกเหนื่อยเช่นเดียวกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...