นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 3

"อย่ามาแตะต้องตัวข้า"

เฟิ่งชิงเฉินตวาดอย่างโกรธเคือง ก่อนที่ผู้คุ้มกันจะเข้ามา นางก็รีบฉวยโอกาสที่พวกเขายังไม่ทันตั้งตัวยื่นมือออกไปกดไหล่ของพวกเขาและทุ่มพวกเขาลงกับพื้นอย่างแรง

เสียง "ตึง…" ดังขึ้น เมื่อทุ่มคนหนึ่งลงไปแล้ว เฟิ่งชิงเฉินก็หันไปหาผู้คุ้มการอีกคนที่มุ่งหน้าเข้ามา นางยกเท้าขึ้นถีบทำให้ผู้คุ้มกันเซถลาไปทางภูมิคุ้มกันอีกคนหนึ่ง

เสียงตึงดังขึ้น ผู้คุ้มกันอีกคนก็ล้มลงไปกองกับพื้น ท่าทางเจ็บปวดจนต้องบิดตัวไปมา

เฟิ่งชิงเฉินพยักหน้าอย่างพอใจ การป้องกันตัวแบบไอคิโดได้ผลไม่เลวเลย! โชคดีที่ตอนแรกที่นางอยู่ในค่ายทหารยามว่างได้ศึกษากับเหล่าทหารไว้นิดหน่อย

"โอ๊ย ช่วยด้วยๆ เจ็บจะตายอยู่แล้ว…" ผู้คุ้มกันทั้งสองที่นอนอยู่บนพื้น ผู้ที่รับร่างของผู้คุมการอีกคนหนึ่งร้องอย่างโหยหวนเป็นที่สุด

"ไสหัวไป…" หลังจากเคลื่อนไหวมากมาย เฟิ่งชิงเฉินก็หอบเล็กน้อย ผ้าบางๆ บนกายของนางช่างอันตรายนัก มันพาดอยู่บนร่างกายโดยจะหลุดมิหลุดแหล่…

เฟิ่งชิงเฉินเอื้อมมือไปมัดผ้าบางๆ ให้กระชับขึ้นพลางจ้องมองคนตรงหน้าอย่างโกรธเกรี้ยว

ผู้คนที่มามุงดูถูกสองมือของเฟิ่งชิงเฉินทำให้ตกตะลึง มีเพียงคุณชายเหยียนที่ทั้งร่างเต็มไปด้วยกลิ่นสุราเมามาย ความหื่นกระหายบดบังความมีเหตุผล ตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้ตัวว่าไม่ควรไปหาเรื่องเฟิ่งชิงเฉินในยามนี้เป็นอย่างยิ่ง

"แหมๆๆ เป็นคนที่ดุเดือดเสียด้วย ไม่เป็นไร… ข้าชอบสั่งสอนคนแบบเจ้าอยู่แล้ว ยังจะยืนนิ่งทำไมอีก? เข้าไปรุมพร้อมกันซี่… พาแม่นางผู้นี้กลับไปให้ข้าให้ได้ นางทำลายความสงบในเมืองหลวง ข้าจะต้องไต่สวนนางด้วยตนเอง"

เมื่อคุณชายเหยียนยกมือขึ้น เหล่าผู้คุ้มกันที่เพิ่งจะหยุดมือไปก็กรูกันเข้าไปอีก

สายตาของเฟิ่งชิงเฉินฉายแววกังวล แต่นางก็ไม่ได้ยอมศิโรราบ นางมัดผ้าบางบนเรือนร่างและแสดงท่าทางพร้อมสู้ออกมา

ในเมื่อไม่มีทางใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว เช่นนั้นก็ลองสู้ดูสักตั้งเถอะ

ไม่ว่านางจะอยากแต่งงานหรือไม่ แต่ในเมื่อวันแต่งงานประสบพบเจอกับเรื่องเช่นนี้ เฟิ่งชิงเฉินกำลังเดือดดาลเป็นอย่างยิ่ง ในเมื่อมีคนอยากมาเป็นกระสอบทรายของนาง นางย่อมไม่เกรงใจแล้ว

สู้เลย นางจะสู้อย่างดุเดือด!

"เข้ามาเถอะ" เฟิ่งชิงเฉินกล่าวโดยไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย ในเมื่อไปไหนไม่ได้ ในเมื่อแยกตัวออกไปไม่สำเร็จ ในเมื่ออ้อนวอนไปก็คงไม่เป็นผล เช่นนั้นก็มาสู้กันสักตั้ง ให้นางได้ระบายอารมณ์ก่อนแล้วค่อยว่ากัน

ส่วนที่ว่าต่อไปจะเป็นอย่างไรก็ค่อยคิดไปทีละก้าวก็แล้วกัน!

นางเป็นแพทย์ทหารที่คอยช่วยชีวิตคนในสนามรบ เพียงแค่จับทุ่มและการต่อสู้นางก็ทำเป็น จะทุ่มผู้คุ้มกันเหล่านี้ไม่ได้มีปัญหาเลย

สู้ วันนี้นางจะสู้อย่างดุเดือดสักตั้ง หากนางไม่ได้ต่อยตีจนคุณชายเหยียนกลายเป็นหมู นางก็จะไม่ใช้สกุลเฟิ่งอีก

"เข้าไป เข้าไปเลย… ระวังหน่อย อย่าทำให้คนสวยของข้าบาดเจ็บ"

"หยุด หยุดเดี๋ยวนี้ พวกเจ้าหยุดเดี๋ยวนี้นะ คุณหนูของข้าคือคุณหนูเฟิ่งชิงเฉินแห่งตระกูลเฟิ่ง เป็นคนที่ลั่วอ๋องจะแต่งงานด้วยในวันนี้…"

หวั่นอินยังคงถูกทหารจับตัวไว้อยู่ แต่นางก็ยังไม่ลืมตะโกนฐานะที่แท้จริงของเฟิ่งชิงเฉินออกมา ความดังของเสียงนั้นทำให้ร้านค้าแถวนั้นล้วนได้ยินหมด

"คุณหนูตระกูลเฟิ่ง? ใครจะไปเชื่อ แม้ว่าจะเป็นคุณหนูตระกูลเฟิ่งจริงๆ แล้วอย่างไร สภาพอย่างนี้ยังจะแต่งงานได้อีกหรือ? นำตัวไปให้ข้า หากมีเรื่องอะไรข้าจะรับผิดชอบเอง"

คุณชายเหยียนมีท่าทางไม่กริ่งเกรง เขาตะโกนเสียงดังที่หน้าประตูเมืองไปพร้อมกับหวั่นอิน

เฟิ่งชิงเฉินกลับไม่อยากได้ยินอะไรทั้งนั้น นางรู้เพียงแต่ว่าต้องสู้เท่านั้น…

ระบายความกราดเกรี้ยวในใจออกมา…

ระบายความโกรธแค้นที่ถูกทรยศออกมา…

หวั่นอิน!

ชื่อนี้นางจะจำไว้

"เพี๊ยะๆๆ …"

เฟิ่งชิงเฉินราวกับจะบ้าคลั่งไปแล้ว นางทุ่มผู้คนที่อยู่รอบตัวทีละคน หญิงสาวผู้บอบบางคนหนึ่ง อาศัยทักษะพิเศษและความเย่อหยิ่งทำให้นางสามารถทุ่มชายร่างใหญ่กว่าสิบคนลงกับพื้นได้

"เหลือแต่เจ้าแล้ว คุณชายเหยียน ไม่ใช่จะนำตัวข้าไปหรอกหรือ?" เฟิ่งชิงเฉินมีเหงื่อโทรมกาย ผ้าผืนบางเปียกเหงื่อชุ่มจนแนบกาย ยิ่งทำให้ดูน่าอับอาย

แต่เมื่อเผชิญหน้าเฟิ่งชิงเฉินที่เป็นเช่นนี้ คุณชายเหยียนกลับกลัวจนเดินถอยหลังไปหลายก้าว "คุณหนูเฟิ่งโปรดไว้ชีวิตข้าด้วย ข้าไม่กล้าแล้ว ไม่กล้าอีกแล้ว…"

"ไว้ชีวิตงั้นหรือ? เมื่อครู่ทำไมมิเห็นเจ้าจะปล่อยข้าไปบ้าง?" เฟิ่งชิงเฉินย่างสามขุมเข้าไป ทหารเฝ้าเมืองคิดจะเข้ามาข้างหน้า แต่กลับถูกสายตาคมปลาบของเฟิ่งชิงเฉินมองจนล่าถอยไป

เฟิ่งชิงเฉินในยามนี้เป็นดังเทพสังหาร หรือพูดง่ายๆ ก็คือนางต่อตีกับผู้คนจนตาแดง ใครกล้าเข้ามาก็ไม่รอดทั้งนั้น

"คุณหนูเฟิ่งไว้ชีวิตข้าด้วย บิดาของข้าคือหัวหน้าสำนักซุ่นเทียนฝู่ หากเจ้าตีข้า เจ้าตายแน่"

คุณชายเหยียนเป็นเพียงเสือกระดาษเท่านั้น เมื่อเผชิญหน้ากับความดุร้ายของเฟิ่งชิงเฉิน เขาก็น้ำมูกน้ำตาไหลพราก หรือแม้กระทั่งประกาศออกมาว่าบิดาของเขาเป็นใคร

"หัวหน้าซุ่นเทียนฝู่ ช่างใหญ่โตเสียเหลือเกิน" เฟิ่งชิงเฉินพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

เสียง "ตึง…" ดังขึ้น ร่างอวบอ้วนเหมือนหมูของคุณชายเหยียนก็ล้มลงกับพื้น เฟิ่งชิงเฉินพูดอย่างเยาะเย้ย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ