นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1007

หลังจากจัดการเรื่องราวต่าง ๆ บนเกาะเสร็จสิ้น เสด็จอาเก้าก็ไม่อยู่ที่นี่อีกต่อไป พาเฟิ่งชิงเฉินและโจ่วอันกลับขึ้นไปบนฝั่ง และในขณะเดียวกัน “เสด็จอาเก้า” ที่เฝ้าฟื้นตัวอยู่ในเมืองเล็ก ๆ เวลานี้ได้ประกาศออกเดินทางสู่ซานตงอย่างเป็นทางการแล้ว

หลังจากหายจากอาการป่วย เสด็จอาเก้าเปลี่ยนการกระทำทุกอย่างของเขาจากก่อนหน้านี้ ทุกเมืองที่เขาเดินทางผ่าน เหล่าขุนนางออกมาต้อนรับเขาเป็นอย่างดี และรับของขวัญจากขุนนางเหล่านั้นโดยไม่คิดมาก เฟิ่งชิงเฉินถึงแอบถามเขาว่าสามารถปฏิเสธของขวัญเหล่านั้นได้หรือไม่?

“ไม่ได้ หากไม่รับของขวัญจะเกิดปัญหา ข้าไม่อยากให้เกิดปัญหา” การไม่รับของขวัญอาจมองดูเป็นผู้บริสุทธิ์ในสายตาของคนอื่น แต่อาจจะทำให้คนบางกลุ่มไม่พอใจกับเจ้า ต่อให้เป็นชินอ๋อง เขาก็ไม่สามารถขุ่นเคืองกับคนเหล่านั้นได้

“มันจะลำบากอย่างไร?” ในฐานะสามัญชนทั่วไป แม้เฟิ่งชิงเฉินจะรู้ถึงความมืดมนของราชสำนัก และสามารถปรับตัวได้ดี แต่นางก็ไม่เข้าใจกับพฤติกรรมการรับของขวัญเช่นนี้ นางไม่คิดว่าขุนนางพวกนี้จะสามารถทำอะไรเสด็จอาเก้าได้

ต้องรู้ก่อนว่าของขวัญเหล่านี้นั้นล้ำค่า ไม่สามารถหาซื้อได้ด้วยเงินที่ได้จากอาชีพที่พวกเขาทำ สิ่งเหล่านี้ล้วนมาจากการโกงกินและภาษีจากประชาชน

“รอให้ถึงเมืองเหลียวเฉิง เจ้าจะได้รู้ว่าหากข้าไม่รับของขวัญจากขุนนางในพื้นที่จะเป็นเช่นไร” เสด็จอาเก้าไม่ได้อธิบายอะไรออกมาจากปากของเขาอย่างเป็นทางการ เขาเพียงต้องการให้เฟิ่งชิงเฉินได้เห็นด้วยตาของตัวเอง

แม้จะบอกว่าขุนนางที่บริสุทธิ์นั้นดี แต่ทั่วทั้งใต้หล้ามีขุนนางมากมายกองอยู่บนภูเขาแห่งจักรพรรดิ ทุกคนจะชัดเจนได้อย่างไร น้ำใสจะไร้ซึ่งตัวปลา เสด็จอาเก้าไม่รังเกียจที่ขุนนางเหล่านั้นจะไม่โปร่งใส แต่จงจำไว้ว่า เจ้าจงทำหน้าที่ของเจ้าให้ดี อย่าให้ประชาชนร้องเรียนเป็นอันขาด

เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกได้ถึงความคิดบางอย่างของเสด็จอาเก้า แต่เมื่อเห็นใบหน้าอันซื่อตรงของเสด็จอาเก้า นางก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ยิ่งไปกว่านั้นนางเองก็อยากรู้ หากเสด็จอาเก้าไม่รับของขวัญ ความยุ่งยากที่เสด็จอาเก้ากล่าวถึงนั้นมันคือสิ่งใด

ตลอดเส้นทางที่พวกเขาเดินทางมา ของขวัญที่พวกเขาได้รับนั้นแทบจะเต็มลำเรือ เฟิ่งชิงเฉินมีความคิดขึ้นมา หากในอนาคตไร้ซึ่งเงินทาง นางก็แค่ให้เสด็จอาเก้าออกเดินทางสักครั้ง เพียงเท่านั้นก็สามารถหาเงินได้มากมาย เพียงพอที่จะใช้ชีวิตไปอีกหลายสิบปี

หลังจากพักผ่อนในจวนขุนนางมาเป็นเวลาหนึ่งวัน เสด็จอาเก้าออกเดินทางตั้งแต่เช้าตรู่ ขุนนางในพื้นที่นำของขวัญมากมายมามอบให้เสด็จอาเก้าพร้อมกับรอยยิ้มอันแสนถ่อมตน

เสด็จอาเก้าไม่เคยเห็นคนพวกนี้อยู่ในสายตา แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ขุนนางในพื้นที่ก็ดีใจเหมือนกับได้ประโยชน์อะไรบางอย่าง เฟิ่งชิงเฉินรู้ว่านี่เป็นนิสัยเสียของขุนนาง อย่างไรเมื่อรับของขวัญจากอีกฝ่ายก็ต้องแสดงท่าทีพอใจเป็นธรรมดา

ทั้งสามออกเดินทางไปพร้อมกับเหล่าองครักษ์อีกครั้ง การออกเดินทางอย่างเปิดเผยเช่นนี้ก็มีข้อดีเช่นกัน ตลอดระยะทางที่ผ่านมา อย่าว่าแต่กองทัพทหาร แม้แต่โจรก็ไม่เจอแม้แต่คนเดียว นอกจากพวกพ่อค้า ทุกคนก็หลีกทางให้ ไม่มีใครกล้าเข้ามาสร้างปัญหา แน่นอนว่าจะไม่มีใครขวางทางและร้องขอความอยุติธรรม

เฟิ่งชิงเฉินเคยถามเสด็จอาเก้าว่าเหตุใดจึงเดินทางอย่างโอ้อวดเช่นนี้ เหตุใดจึงไม่ปกปิดตนเองเหมือนแต่ก่อน การหยุดพักทุกหัวเมืองเช่นนี้ทำให้เสียเวลาเป็นอย่างมาก

เสด็จอาเก้าตอบกลับมาว่า เกิดเป็นสุภาพบุรุษไม่อาจเอาแต่หลบซ่อนเพียงอย่างเดียวได้ บางครั้งก็ต้องเผชิญหน้ากับสิ่งต่าง ๆ อย่างหาญกล้า แม้ว่าการปกปิดตัวตนจะค่อนข้างสะดวกกว่า แต่ก็มีอันตรายที่ซ่อนอยู่อีกมากมาย และทำให้จักรพรรดิรู้สึกหวาดระแวง

ทุกอย่างกระทำออกมาอย่างเปิดเผย จักรพรรดิไม่เพียงแต่หาข้ออ้างไม่ได้เท่านั้น พวกเขายังสามารถรับประกันเรื่องความปลอดภัยได้ ในแผ่นดินแห่งตงหลิง ด้วยสถานะของเสด็จอาเก้า การเดินทางจะต้องปลอดภัยเป็นแน่ ไม่มีใครกล้าทำอะไรกับเขา และจักรพรรดิเองก็ไม่สามารถส่งทหารมาได้

เสด็จอาเก้าผู้สง่างามภายใต้การคุ้มกันของเหล่าองครักษ์ หากต้องมาจบชีวิตลงในแผ่นดินตงหลิง นั่นเป็นโทษที่ไม่มีขุนนางผู้ไหนสามารถรับไหว และตงหลิงก็ไม่สามารถสูญเสียคนผู้นี้ไปได้

ตามที่เสด็จอาเก้าได้พูดเอาไว้ หลังจากแสดงตัวออกมาอย่างชัดเจน ไม่เพียงแค่เดินทางอย่างราบรื่นเท่านั้น ไม่ว่าจะผ่านไปหัวเมืองใด เขาต่างได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี เมื่อเทียบกับช่วงเวลาที่ผ่านมา มันดีกว่าที่จะต้องระมัดระวังทั้งค่ำคืนเป็นอย่างมาก

หลังจากเพลิดเพลินกับการเดินทางแบบสบาย ๆ การแสดงออกของเฟิ่งชิงเฉินดีขึ้นมาก ตลอดระยะทางเต็มไปด้วยอาหาร เสื้อผ้าและสิ่งของต่าง ๆ และนางก็สองคิดว่าจะลงมือที่ไหนเมื่อถึงซานตง

เนื่องจากท้ายที่สุดแล้ว ซานตงไม่ใช่เพียงแค่การต่อสู้ระหว่างเสด็จอาเก้ากับตระกูลลู่เท่านั้น แต่ยังเป็นการต่อสู้ระหว่างเสด็จอาเก้ากับจักรพรรดิอีกด้วย

หลังจากเดินทางมาสองวัน พวกเขาก็มาพักอยู่บนบ้านหลังบนภูเขาเล็ก ๆ ลูกหนึ่ง ในบ่ายของวันรุ่งขึ้น เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินก็เดินทางมาถึงเมืองเหลียวเฉิง

ขุนนางประจำเขตมารออยู่หน้าประตูตั้งแต่เช้า เมื่อเห็นรถม้าของเสด็จอาเก้ามาถึง เขาไม่คำนึงถึงความเหนื่อยล้า รีบพาเหล่าขุนนางใต้บังคับบัญชาคุกเข่า คลานเข้าไปหาเสด็จอาเก้าทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ