สรุปเนื้อหา บทที่ 1041 ลอบสังหาร,ชีวิตของสามียังคงอยู่ในเงื้อมมือของฮูหยิน – นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย
บท บทที่ 1041 ลอบสังหาร,ชีวิตของสามียังคงอยู่ในเงื้อมมือของฮูหยิน ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย อาช้าย อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
และซุนซือสิงก็เป็นอีกคนที่รู้สึกหดหู่ใจ......
ซุนซือสิงมองมาที่ชื่อเลี่ยนฉุ่ยและกัวเป่าจี้ พูดออกมาพร้อมกับใบหน้าที่ยุ่งเหยิง “องค์รัชทายาทไม่ไป พวกเราก็ไม่สามารถไปไหนได้อย่างนั้นหรือ? อาการป่วยขององค์รัชทายาทเองก็หายดีแล้ว ข้าอยู่ที่นี่ต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ ข้าอยากกลับเมืองจักรพรรดิเสียเหลือเกิน”
“เรื่องนี้......พวกเราก็ส่งจดหมายไปหาเสด็จอาเก้าแล้วไม่ใช่หรือ? ข้าคิดว่าน่าจะอีกไม่นาน” เห็นซุนซือสิงไม่มีความสุข ชื่อเลี่ยนฉุ่ยเองก็ปวดใจ เกลียดจนอยากจะเตะองค์รัชทายาทสักครั้ง
ไม่มีเรื่องแล้วจะแสร้งทำเป็นเศร้าเพื่ออะไร เกิดมาในตระกูลอันร่ำรวย แต่มีโรคหัวใจมารุกราน เดิมทีมันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับคนตาย เวลานี้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกหลายสิบปี ยังมีอะไรที่ทำให้เขาไม่พอใจ ในหนึ่งวันตั้งแต่เช้าจรดค่ำ เอาแต่คิดเรื่องอะไรที่ไม่ควรคิด
“นานถึงเพียงนี้แล้วองค์รัชทายาทยังไม่สามารถตัดสินใจได้ เช่นนั้นคำพูดของเสด็จอาเก้าจะทำให้องค์รัชทายาทเคลื่อนไหวได้อย่างนั้นหรือ? หากองค์รัชทายาทยังไม่เคลื่อนไหว เช่นนั้นพวกเราจะต้องรออีกนานเพียงใด” ซุนซือสิงอยากจะร้องไห้ออกมา เขายังมีคำถามอีกมากมายที่อยากจะถามอาจารย์ อยู่ที่นี่เป็นเพื่อนองค์รัชทายาท วันทั้งวันเขาไม่ได้ทำอะไร ช่างเป็นการปล่อยเวลาให้สูญเปล่าเสียเหลือเกิน
ชื่อเลี่ยนฉุ่ยไม่อยากให้ซุนซือสิงรู้สึกลำบากใจ เขาจึงลองถามออกไปว่า “หรือว่า......เจ้าจะออกเดินทางก่อน ระหว่างทางมีองครักษ์คอยปกป้องคงไม่มีปัญหาอะไร ส่วนองค์รัชทายาทปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเราสองคน ก็คงไม่มีปัญหาอะไร”
“แบบนี้ได้งั้นหรือ?” ดวงตาของซุนซือสิงเป็นประกาย จ้องมองมาที่กัวเป่าจี้และชื่อเลี่ยนฉุ่ย
ไม่ใช่ว่าเขาเอาแต่ใจเกินไป แต่เป็นเพราะเขาจากบ้านมานานแสนนาน ทำให้เขาอยากกลับไปเหลือเกิน นอกจากนั้นอยู่ที่นี่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ มันช่างเป็นการเสียเวลายิ่งนัก
ไม่มีใครปฏิเสธคำขอ “เล็กน้อย” ของซุนซือสิง กัวเป่าจี้พยักหน้า จากนั้นก็จัดแจงให้คนพาซุนซือสิงกลับไปส่งยังเมืองหลวง......
ซานตงไม่ค่อยสงบ นี่เป็นโอกาสดีที่เสด็จอาเก้าจะเดินทางออกจากซานตง และเสด็จอาเก้าเองก็ไม่มีเวลาอยู่ที่ซานตงอีกต่อไป หลังจากมอบหน้าที่ให้ปู้จิงหยุนเป็นอันเรียบร้อย เสด็จอาเก้าก็พาเฟิ่งชิงเฉินเดินทางกลับไปยังคอกม้า
เนื่องจากหัวไหล่ของเฟิ่งชิงเฉินได้รับบาดเจ็บ เสด็จอาเก้าจึงไม่ได้เดินทางตลอดวัน และความเร็วของรถม้าก็ไม่ได้ถือว่าเร็วเสียเท่าไหร่
“ด้วยความเร็วนี้ พวกเราจะกลับไปถึงเมืองหลวงตอนไหน?” เฟิ่งชิงเฉินกล่าวอย่างเฉื่อยชา เอนกายลงบนตักของเสด็จอาเก้าพร้อมกล่าวอย่างเกียจคร้าน
นั่งอยู่บนรถม้ามาตั้งนาน กระดูกจะแหลกอยู่แล้ว
“ไม่ต้องรีบ” เสด็จอาเก้านำมือวางไว้บนหลังของเฟิ่งชิงเฉิน และลูบมันเป็นครั้งคราวราวกับว่าเขากำลังปลอบโยนสัตว์เลี้ยง เฟิ่งชิงเฉินเองก็ให้เกียรติเสด็จอาเก้า หาวออกมาด้วยความสบายใจ
“ข้าเองก็ไม่รีบ แต่เกรงว่าเจ้าจะรีบ จักรพรรดิกำลังเร่งเจ้าอยู่ไม่ใช่หรือ” จักรพรรดิอยากให้เสด็จอาเก้าเข้าเมืองมากไม่ใช่หรือ เป็นเพราะอยากให้นำตัวของท่านอ๋องสามเข้าเมือง หากไม่ได้เห็นหน้าท่านอ๋องสาม จักรพรรดิคงไม่มีทางสบายใจ
“ไม่ต้องไปสนใจเขา” เสด็จอาเก้ากล่าวอย่างไม่ใส่ใจ หากเขาเชื่อฟังคำสั่งของจักรพรรดิถึงเพียงนั้น จักรพรรดิก็คงไม่อยากสังหารเขาถึงเพียงนี้
“ก็ได้ ไม่สนก็ไม่สน เพียงแต่ถนนสายนี้ไม่ค่อยสงบ ความเร็วนี้ของพวกเขาจะไม่ตกเป็นเป้าหมายของคนอื่นอย่างนั้นหรือ” ไม่ว่าจะเป็นฮองเฮา หรือว่าคนของท่านอ๋องสาม ไม่ว่าใครก็ไม่ปล่อยพวกเขาทั้งนั้น
เมื่อเสียงของเฟิ่งชิงเฉินเงียบลง จู่ ๆ รถม้าก็หยุดลงอย่างกะทันหัน แปดแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ก้าวออกมาด้านหน้า ล้อมรอบรถม้าเอาไว้ “ท่านอ๋อง พวกเราถูกซุ่มโจมตี”
เสด็จอาเก้าก้มหน้า มองมาที่เสด็จอาเก้าอย่างมีความหมาย ใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉินแข็งทื่อ กล่าวออกมาอย่างงุนงง “อือ......พูดอะไรได้อย่างนั้น”
“พูดอะไรเจออย่างนั้นจริง ๆ” เสด็จอาเก้าเคาะศีรษะของเฟิ่งชิงเฉินเบา ๆ ไม่ได้คิดจะออกไปแต่อย่างใด เพียงสั่งให้แปดแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่คุ้มกันรถม้าที่อยู่ด้านหลังของพวกเขาไว้ให้ดี
พบการซุ่มโจมตีในเขตของซานตง อีกฝ่ายน่าจะเป็นคนของท่านอ๋องสาม ตั้งแต่ท่านอ๋องสามตกอยู่ในกำมือของเขา เขาก็พบกับการลอบสังหารมานับครั้งไม่ถ้วน เวลานี้เขาต้องการกลับเมืองหลวง คนเหล่านี้คงไม่มีทางปล่อยให้โอกาสหลุดมือไป
“ขอรับ” แปดแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่กระจายตัวกันทันใด สี่คนอยู่อารักขาเสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉิน ส่วนอีกสี่คนไปยังด้านหลังของรถม้า แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าหลังรถม้ามีเพียงแค่ก้อนหินก็ตาม
เสด็จอาเก้าไม่เคลื่อนไหวแต่อย่างใด ไม่เห็นอันตรายที่อยู่ด้านนอกอยู่ในสายตา เมื่อได้ยินคำถามของเฟิ่งชิงเฉิน เขาเพียงตอบกลับมาว่า “เป็นเรื่องปกติ คนที่ต้องการชีวิตข้ามีอยู่มากมาย หากท่านอ๋องสามไม่ได้ตกอยู่ในกำมือข้า ไม่แน่ว่าพวกที่มาอาจจะเป็นคนของจักรพรรดิ”
“พัฟ พัฟ” สี่แม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ฟันคนใช้มีดในมือฟันชายผู้นั้น เลือดสาดออกมาจากร่างกายของเขา แต่คนผู้นั้นก็ยังไม่ยอมหยุดมือ เฟิ่งชิงเฉินได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวที่อยู่ด้านนอก นางจึงคำนวณทิศทางปืนของนาง “ปัง” ลูกกระสุนพุ่งออกไปจากรถม้า ทะลุเข้าไปยังหัวใจของชายผู้นั้น
เลือดกระฉูดออกจากหัวใจ ชายผู้นั้นใช้มือกดทับหัวใจและล้มลงกับพื้น
“เข้าหัวใจพอดี” ด้านนอกรถม้า มีเสียงตะโกนออกมา
“แม่นมาก” เสด็จอาเก้าเหลือบมองปลายกระบอกปืนที่ยังมีควันคลุ้งอยู่ เขาชื่นชมออกมาจากหัวใจ ใบหน้าของเสด็จอาเก้ากลายเป็นสีแดง พร้อมกล่าวออกมาว่า “ข้าเล็งหัว”
สุดท้ายกลับทะลุไปที่หัวใจ แต่มันก็แม่นมาก......
เสด็จอาเก้าอดหัวเราะออกมาไม่ได้ จากนั้นกล่าวออกมาด้วยใบหน้าจริงจัง “ฮูหยินจะแม่นแบบนี้ไม่ได้ เนื่องจากชีวิตของข้าอยู่ในมือของฮูหยิน ต่อให้ฮูหยินจะทำเพื่อความปลอดภัยของข้า แต่ก็ยังจำเป็นต้องฝึกฝนให้มาก”
“ใครเป็นฮูหยินของเจ้า อย่าพูดซี้ซั้ว” เฟิ่งชิงเฉินกัดฟันและวางปืนลงบนรถม้า
การเดินทางครั้งนี้ไม่ค่อยปลอดภัย เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องเก็บมัน......
เสด็จอาเก้าเองก็ไม่ได้โกรธ เพียงพูดติดตลกออกไปว่า “ฮูหยินเองก็รู้ ว่าฮูหยินของข้าคือใคร”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...