นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1055

สาวใช้สะอื้นเบา ๆ หมอหลวงหญิงก็เช็ดน้ำตาเงียบ ๆ แต่จู่ ๆ น้ำตาของสนมเอกเซี่ยก็หยุดไหล นอนสงบนิ่งอยู่บนเตียง จ้องมองไปทางหัวเตียงอย่างว่างเปล่า ราวกับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด

ไม่ว่าจะร่างกายหรือจิตใจ นางเจ็บปวดจนชินชา!

“ข้าไม่อยากตาย ข้าอยากเห็นลูกข้าเติบใหญ่” จู่ ๆ สนมเอกเซี่ยก็ตะโกนออกมา เสียงไม่ได้ดังมาก แต่เป็นน้ำเสียงที่ได้ยินชัดเจน

แม้เป็นเพียงสาวใช้ในพระราชวังยังรู้สึกเจ็บปวดไปกับนาง แต่พ่อของลูกในท้องของนางกลับไม่เป็นห่วงเลยแม้แต่น้อย จักรพรรดิไม่สนใจว่านางจะเป็นหรือตาย แต่นางไม่อาจเมินเฉยต่อชีวิตของตนเองได้

สนมเอกเซี่ยสงบสติอารมณ์ พูดกับนางผดุงครรภ์ที่อยู่ข้าง ๆ ว่า “ไปกราบทูลฝ่าบาท บอกว่าข้าไม่สามารถให้กำเนิดลูกได้ จักรพรรดิน้อยก็ตกอยู่ในอันตราย กราบทูลให้จักรพรรดิไปตามเฟิ่งชิงเฉินกลับมา และถือว่านี่เป็นคำขอสุดท้ายของข้า”

ตอนแรกนางไม่อยากให้เฟิ่งชิงเฉินเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนั้นจึงเชิญเฟิ่งชิงเฉินมาพบก่อนที่นางจะคลอดเพื่อช่วยดูอาการของนาง ทำให้นางไร้ความกังวล แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจู่ ๆ จะเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น บีบบังคับให้นางต้องเอาเด็กในท้องมาเป็นเครื่องเดิมพัน

“เหนียงเหนียง......” นางผดุงครรภ์ไม่มีความสุข แม้นางจะได้ประโยชน์จากสนมเอกเซี่ย แต่นางก็ไม่กล้าโกหกจักรพรรดิ อีกอย่างนางเองก็ได้ประโยชน์จากฮองเฮาเช่นกัน

“ไป ไม่เช่นนั้นชีวิตของพวกข้าทั้งสองก็อย่าหวังว่าจะเหลือแม้แต่ชีวิตเดียว” สนมเอกเซี่ยตัดสินใจแล้ว หากนางไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ เช่นนั้นลูกของนางก็ไม่จำเป็นต้องมีชีวิตอยู่ นางไม่ยอมให้ลูกของนางเรียกหรือนับถือผู้อื่นเป็นแม่

“เพ......เพคะ” นางผดุงครรภ์เกรงว่าสนมเอกเซี่ยจะทำในสิ่งที่พูด เช่นนั้นจะทำให้นางต้องลำบากไปด้วย นางจึงรีบวิ่งออกมา

“เหนียงเหนียง ท่านไม่ต้องเป็นกังวล แม่นางเฟิ่งจะต้องมาช่วยท่านเป็นแน่” สาวใช้ที่อยู่อยู่ข้างกายสนมเอกเซี่ยเห็นว่าสนมเอกเซี่ยปรารถนาที่จะมีชีวิตรอด นางก็รีบเช็ดน้ำตาทันใด

ต่อให้จักรพรรดิจะไม่เห็นใจเหนียงเหนียง แต่พวกนางเห็นใจเหนียงเหนียงเป็นอย่างมาก

“อือ” สนมเอกเซี่ยตอบรับกลับมา สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ระงับความเจ็บปวดของร่างกายท่อนร่างที่เหมือนกับกำลังจะฉีกขาดเป็นชิ้น ๆ แต่นี่มันก็เทียบไม่ได้กับความเจ็บปวดในหัวใจของนาง

“ไป ไปนำตังเซียมทั้งหมดมาให้ข้า ข้าจะใช้เรี่ยวแรงที่มีในการรอให้เฟิ่งชิงเฉินมาถึง ข้าไม่มีวันยอมตายไปทั้งแบบนี้เป็นอันขาด” สนมเอกเซี่ยรู้สึกว่าไม่มีตอนไหนที่นางอยากจะมีชีวิตอยู่เท่ากับเวลานี้มาก่อน

“เหนียงเหนียง ท่านไม่ต้องกังวล แม่นางเฟิ่งใกล้จะมาถึงแล้ว” สาวใช้รีบไปนำตังเซียมมาให้สนมเอกเซี่ย ในตอนที่นางเดินออกไปด้านนอก นางก็เห็นเฟิ่งชิงเฉินกำลังล้างมือและเปลี่ยนเสื้อผ้า

“แม่นางเฟิ่ง เหตุใดท่านจึงมาถึงเร็วถึงเพียงนี้?” สาวใช้เห็นเฟิ่งชิงเฉิน ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความดีใจ นางเห็นว่าเฟิ่งชิงเฉินค่อย ๆ แอบหนีออกไป คิดไม่ถึงว่า......

“ข้าเป็นห่วงเหนียงเหนียง จึงคอยเฝ้าดูอยู่รอบ ๆ มาโดยตลอด” เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ ย่อมมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ที่สนมเอกเซี่ยต้องคลอดก่อนกำหนดก็เพราะช่วยเหลือนาง

“แม่นางเฟิ่ง ท่านช่างเป็นคนดีเหลือเกิน เหนียงเหนียงของพวกข้ามองคนไม่ผิดจริง ๆ แม่นางเฟิ่งช่างเป็นคนที่มีคุณธรรมยิ่งนัก พวกข้าจะจดจำท่านไว้ในใจตลอดไป” สาวใช้คุกเข่าลงต่อหน้าเฟิ่งชิงเฉิน จากนั้นก้มหน้าให้กับเฟิ่งชิงเฉิน

สนมเอกเซี่ยนั้นคลอดยาก คนที่มีสมองแม้เพียงน้อยนิดก็พยายามตีตัวออกหาก เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ปัญหามาถึงตนเอง แต่เฟิ่งชิงเฉินกลับเผชิญหน้ากับมัน นี่ไม่ใช่แค่ความเมตตาเพียงอย่างเดียว

“ข้าเป็นหมอ จะปล่อยให้คนตายโดยไม่ช่วยอะไรได้อย่างไร” เฟิ่งชิงเฉินเปลี่ยนเสื้อผ้า มัดผมอย่างรวดเร็ว และในเวลานั้นขันทีน้อยก็นำกล่องยาของนางมาให้พอดี

“เอาล่ะ เลิกคุกเข่าได้แล้ว ตามข้าไปด้านใน เหนียงเหนียงของเจ้ายังต้องการเจ้าอยู่” เฟิ่งชิงเฉินยกกล่องยา เข้าไปในห้องคลอดราวกับสายลมที่พัดผ่าน

บรรยากาศในห้องคลอดร้อนผ่าว อากาศแออัด ขนาดเฟิ่งชิงเฉินยังรู้สึกหายใจลำบาก คงไม่ต้องพูดถึงผู้ที่จะทำการคลอด

“เหนียงเหนียง ข้ามาแล้ว” ทันทีที่เฟิ่งชิงเฉินเข้ามา นางก็เดินมาด้านข้างของสนมเอกเซี่ย กุมมือของนางไว้ จากนั้นกล่าวให้กำลังใจและปลอบโยน

“ชิงเฉิน ข้าเจ็บปวดเหลือเกิน......” หยดน้ำตาที่หยุดไหลของสนมเอกเซี่ยไหลออกมาอีกครั้ง ความพยายามทั้งหมดเพื่อที่ระงับความรู้สึกหายไปทันทีเมื่อได้เห็นเฟิ่งชิงเฉิน ราวกับเด็กน้อยที่ทำความผิด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ