สรุปตอน บทที่ 1110 กังวล,เมื่อเซียนถั่วได้พบกับเจ๋อเจ๋อผู้หลงใหลในการฆ่า – จากเรื่อง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย
ตอน บทที่ 1110 กังวล,เมื่อเซียนถั่วได้พบกับเจ๋อเจ๋อผู้หลงใหลในการฆ่า ของนิยายInternetเรื่องดัง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดยนักเขียน อาช้าย เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
แม้จะเป็นเพียงแค่สัมผัสที่หกและสัญชาตญาณอันล้ำลึก แต่เฟิ่งชิงเฉินก็เชื่อในสัมผัสเหล่านี้ นี่ไม่ใช่ความหวาดระแวง แต่มันเป็นความรู้สึกที่ไวต่ออันตราย เช่นเดียวกับสัตว์ที่สามารถตอบสนองต่อภัยธรรมชาติได้รวดเร็วกว่ามนุษย์
บางคนก่อนที่จะพบเจอกับอันตราย พวกเขาจะรู้สึกได้ถึงความไม่สบายใจบางอย่าง รู้สึกแน่นหน้าอก แม้ว่าความรู้สึกได้ถึงอันตรายเหล่านี้จะอ่อนไหว แต่มันก็ไม่ใช่ว่าทุกครั้งที่รู้สึกแบบนี้แล้วจะอันตราย แล้วจะต้องมีอันตรายทุกครั้ง แต่เมื่อมีความรู้สึกเช่นนี้เกิดขึ้น เฟิ่งชิงเฉินก็จะระมัดระวังตัวให้มากตามสัญชาตญาณ
ต้องรู้ก่อนว่าสถานการณ์ของนางในตอนนี้นั้นแย่มาก มีอันตรายถึงชีวิตเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา หากตนเองประมาทหรือไม่ระวัง คนข้างกายก็อาจจะถูกลูกหลงไปด้วย
ฮู้ว......เฟิ่งชิงเฉินถอนหายใจติดต่อกันหลายครั้งถึงจะสามารถลดความหดหู่ที่อยู่ในใจได้ เผชิญหน้ากับตาซึ่งเต็มไปด้วยความห่วงใยของเสด็จอาเก้า เฟิ่งชิงเฉินกล่าวออกมาว่า “จู่ ๆ ข้าก็นึกถึงเจ๋อเจ๋อขึ้นมา ไม่รู้ว่าเหตุใดหัวใจของข้าถึงได้รู้สึกเป็นกังวล”
“เจ๋อเจ๋อ? อยู่ในจวนเฟิ่ง เขาปฏิบัติตัวไม่เรียบร้อยอย่างนั้นหรือ?” เสด็จอาเก้าไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อเจ๋อเจ๋อเลยแม้แต่น้อย สำหรับเขาแล้ว ประโยชน์เพียงหนึ่งเดียวของเจ๋อเจ๋อก็คือช่วยในการตามหาลัทธิปีศาจ
“ก็เชื่อฟังดี ไม่ออกนอกลู่นอกทาง เขาเงียบมากจนข้าลืมไปเลยว่ามีเขาอยู่ด้วย” ยิ่งคิดเฟิ่งชิงเฉินก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ ซึ่งทำให้เสด็จอาเก้ารู้สึกเป็นกังวลเช่นกัน ได้ยินเฟิ่งชิงเฉินพูดเช่นนี้ออกมา เขาก็เรียกสายลับออกมาทันที ถามเกี่ยวกับเรื่องราวของเจ๋อเจ๋อในตอนที่อยู่ในจวนเฟิ่ง
“นายน้อยเจ๋อเจ๋อปกติดี ก่อนออกมาข้าน้อยเห็นนายน้อยเจ๋อเจ๋อหามถังน้ำอยู่เลย” นี่คือคำตอบของสายลับ เมื่อได้ยินคำตอบนี้ เฟิ่งชิงเฉินเริ่มรู้สึกสับสนขึ้นเล็กน้อย
หรือตนเองคิดมากเกินไป?
สิ่งที่เรียกว่าสัญชาตญาณมันไม่อาจใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์มาพิสูจน์ได้
“เจ้าเหนื่อยเกินไปหรือเปล่า? หรือว่าช่วงนี้กังวลเกี่ยวกับเรื่องอะไรมากเกินไป?” เสด็จอาเก้ารู้ว่าช่วงนี้เฟิ่งชิงเฉินกังวลเกี่ยวกับเรื่องพันธมิตรนักฆ่าที่ไล่ล่านางมาโดยตลอด
แม้ว่าหลังจากที่เจ้าคนที่ถูกเรียกว่าเจ้างั่งทำภารกิจล้มเหลวไปแล้วจะยังไม่ปรากฏตัวออกมาอีกเลย แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะวางใจได้ พันธมิตรนักฆ่าไม่มีทางปล่อยเฟิ่งชิงเฉินไปง่าย ๆ อย่างแน่นอน
“บางทีก็อาจจะใช่” ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเจ๋อเจ๋อไม่ได้ผิดปกติ เฟิ่งชิงเฉินไม่อาจอ้างถึงสัญชาตญาณของนางต่อไปได้ จึงทำได้เพียงยิ้มอย่างขมขื่น
หวังว่าทั้งหมดจะเป็นเพราะนางคิดมากเกินไป!
“เอาล่ะ อย่าคิดมากเลย และไม่ต้องกังวลด้วย ข้าจะเพิ่มสายลับมาคอยดูแลเจ้าอีกเท่าตัว อีกอย่างต่อให้เจ้ากังวลมันก็ไม่ได้ช่วยอะไร” เผชิญหน้ากับมือสังหารของพันธมิตรนักฆ่า ต่อให้เฟิ่งชิงเฉินเก่งกาจแค่ไหน แต่ตัวคนเดียวมันก็ไร้ประโยชน์
“ข้าเข้าใจแล้ว แม้ว่าข้าจะระมัดระวัง แต่ข้าก็ไม่ได้เอาแต่ตื่นตระหนกไปทั้งวัน เจ้าไม่เห็นหรือไงว่าเมื่อก่อนข้าใช้ชีวิตอย่างไร เวลานี้ข้าก็ใช้ชีวิตแบบนั้น แม้แต่จั่วอั้นยังบอกเลยว่าข้าช่างอวดดีเสียเหลือเกิน” จั่วอั้นบอกว่าไม่เคยมีผู้ใดที่รู้ว่า ตนเองถูกพันธมิตรนักฆ่าไล่ล่าแล้วยังสามารถกินอยู่หลับนอนได้อย่างสุขสบายถึงเพียงนี้ เฟิ่งชิงเฉินถือว่าเป็นคนแรก
ต้องรู้ก่อนว่าเมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ เหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าแห่งพันธมิตรนักฆ่าเพียงแค่กล่าวออกมาว่าต้องการชีวิตของหัวหน้าสำนักเล็ก ๆ ผู้หนึ่งในยุทธจักร คนผู้นั้นไม่รอให้สัตว์ประหลาดเฒ่าทั้งหกลงมือ เขาก็ตกใจจนตายไปก่อนแล้ว
เรื่องนี้ทำให้ชื่อเสียงของสัตว์ประหลาดเฒ่าทั้งหกโด่งดังขึ้นมาก และขณะเดียวกันก็รับรู้ได้ว่าเฟิ่งชิงเฉินนั้นหยาบกระด้างเพียงใด
เสด็จอาเก้าเองก็รู้สึกชื่นชมในจุดนี้ เขากล่าวออกมาว่า “เจ้าช่างอวดดีจริง ๆ ข้าคิดว่าเจ้าจะหวาดกลัวจนร้องไห้ออกมา หรือไม่ก็เข้ามาพัวพันกับข้า ไม่ยอมห่างจากข้าแม้เพียงครึ่งก้าว”
ลูกสาวของเฟิ่งหลี หากความกล้าแค่นี้ยังไม่มี เช่นนั้นก็คงไม่คู่ควรกับคำว่าเฟิ่งหลี
ลูกสาวของเฟิ่งหลีสามารถเกรงกลัวต่อความตายได้ แต่ไม่อาจสูญเสียความภาคภูมิใจในตัวเองเพราะความหวาดกลัวต่อความตาย จนทำให้กลายเป็นคนขี้ขลาด ตื่นตระหนก และหวาดระแวง
“หากต้องการให้ข้าตัวติดกับเจ้าทุกวัน เช่นนั้นเจ้าก็รอชาติหน้าเถิด ชาตินี้คงไม่มีวันเป็นไปได้ ต่อให้ข้าหวาดกลัวมากเพียงใด ข้าก็ไม่มีทางเข้าไปพัวพันกับเจ้าเพื่อที่จะให้เจ้าปกป้องข้าอยู่ข้างกาย” เฟิ่งชิงเฉินปล่อยวางเรื่องของเจ๋อเจ๋อและพูดหยอกล้อกับเสด็จอาเก้า
ที่จริงนางเองก็กลัว กลัวแทบตาย โดยเฉพาะสิ่งที่จั่วอั้นพูดออกมาเกี่ยวกับวิธีการลอบสังหารอย่างไร้ยางอาย มันทำให้เฟิ่งชิงเฉินยิ่งรู้สึกกลัวขึ้นไปอีก นางกลัวว่าตอนที่นางตายไปแล้วจะไม่รู้ว่าตนเองตายไปด้วยวิธีใด
ภายใต้การตรวจสอบครั้งแล้วครั้งเล่าของพ่อบ้านและองครักษ์ เซียนถั่วใช้ใบหน้าที่บริสุทธิ์ แววตาที่ใสซื่อ ร่างกายที่อ่อนแอ ร่วมถึงภูมิหลังที่น่าสงสารขจัดความสงสัยของทุกคนได้สำเร็จ จากนั้นก็ปะปนเข้าไปในห้องผู้ป่วยของเฟิ่งชิงเฉิน
จะโทษที่ซุนซือสิงถูกหลอกได้ง่ายก็ไม่ได้ และก็ไม่อาจโทษว่าพ่อบ้านและองครักษ์ทำหน้าที่ได้ไม่ดี ไม่มีใครสงสัยเด็กอายุสิบห้าปีที่ไม่รู้จักศิลปะการต่อสู้ ไม่มีใครสงสัยชายหนุ่มที่ไม่มีแม้แต่แรงลุกขึ้นยืนซึ่งมีบาดแผลรอยมีดอยู่บนร่างกาย
วิธีการของเซียนถั่วช่างสูงส่งยิ่งนัก เฟิ่งชิงเฉินและซุนซือสิงเป็นหมอ ประกอบกับซุนซือสิงไม่รู้เรื่องที่เฟิ่งชิงเฉินกำลังถูกพันธมิตรนักฆ่าไล่ล่าอยู่ แน่นอนว่าเขาจึงไม่ได้คิดอะไรมาก และคนรับใช้ของจวนเฟิ่งเองก็ไม่ได้มีนิสัยปฏิเสธคนที่เข้ามาขอความช่วยเหลือ
แต่อย่างไรก็ตาม เซียนถั่วสามารถปกปิดเรื่องของเขาจากทุกคนในจวนเฟิ่งได้ แต่ไม่อาจปกปิดเรื่องนี้กับคนที่เหมือนกับเขา หรือก็คือเจ๋อเจ๋อที่อยู่ในโลกมืดเหมือนกันกับเขาได้
เจ๋อเจ๋อได้ยินว่าซุนซือสิงกลับมา เขาจึงรีบออกไปต้อนรับทันที ในตอนที่คนรับใช้พาเขาไปหาซุนซือสิง ในเวลานั้นซุนซือสิงก็กำลังทำแผลให้กับเซียนถั่วอยู่
ซุนซือสิงมีมือที่สวยงามเฉกเช่นเดียวกันกับเฟิ่งชิงเฉิน มีแววตาที่มุ่งมั่นเหมือนกับเฟิ่งชิงเฉิน เมื่อเผชิญหน้ากับการบาดเจ็บ อาจารย์และศิษย์คู่นี้ก็ดูเข้มงวดจนน่าหวาดกลัว
เจ๋อเจ๋อชอบท่าทางตอนที่ซุนซือสิงรักษาคนไข้เป็นอย่างมาก ในตอนนั้นดวงตาของซุนซือสิงเปล่งประกายราวกับดวงดาว แต่วันนี้เจ๋อเจ๋อกลับไม่มีความสุข ใบหน้าน้อย ๆ ของเขาตึงเครียด มองไปที่เซียนถั่วอย่างจริงจัง
ไม่มีเหตุผลอะไรทั้งนั้น แต่เจ๋อเจ๋อรู้ได้ทันทีว่าผู้ชายที่กำลังบาดเจ็บคนนี้ ไม่ใช่คนดี
และในขณะเดียวกัน เซียนถั่วที่คอยระวังรอบ ๆ มาโดยตลอดพบถึงการมีอยู่ของเจ๋อเจ๋อ แววตาของทั้งสองประสานกัน จากนั้นก็แยกออกในชั่วพริบตา
เช่นเดียวกัน ไม่มีเหตุผลใดมารองรับ เซียนถั่วรู้ได้ทันทีว่าเด็กคนนี้นั้นไม่ใช่เด็กธรรมดาทั่วไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...