นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1141

เมื่อชายชราได้เห็นเฟิ่งชิงเฉิน เขาเสียสติไปชั่วขณะ ควบคุมแรงที่ฝ่ามือไม่ได้ ราคาที่ต้องจ่ายในการหันไปมอง มันเกือบจะทำให้หนานหลิงจิ่นฝานถึงแก่ความตาย

“เอือก......” ใบหน้าของหนานหลิงจิ่นฝานซีดเผือด รองแม่ทัพและคนของหน่วยพิทักษ์พยัคฆ์ร้ายตะโกนออกมา “ฝ่าบาท!”

เสียงตะโกนทำให้ชายชราได้สติกลับมา ชายชราเก็บสายตาของเขา กล่าวออกมาอย่างดุร้าย “โวยวายอะไรของพวกเจ้า แค่นี้ไม่ตายหรอก”

พูดจบเขาก็ลากหนานหลิงจิ่นฝานมาไว้ด้านหน้าของเขา “เอาม้ามาอีกตัว!”

นี่แสดงว่าต้องการหนีไปด้วยกัน ความเยือกเย็นปรากฏในแววตาของเสด็จอาเก้า แอบระแวดระวังอยู่ในใจ

“เอามาให้เขา!” ลังเลแต่ไม่กล้าขัดขืน หนานหลิงจิ่นฝานทำตามคำสั่งของอีกฝ่าย

คนของหน่วยพิทักษ์พยัคฆ์ร้ายจูงม้าเข้ามาอีกสองตัวทันที เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกสับสน ไม่เข้าใจว่าเหตุใดเมื่อชายชราสบตากับตนเองถึงเปลี่ยนความคิดและต้องการเดินไปพร้อมกับพวกเขา

แต่ก็ไม่มีเวลาให้คิดมา รู้เพียงแค่ว่าชายชรารู้จักนาง และรู้ว่าค่าหัวของนางมีค่ามากเพียงใด

เสด็จอาเก้ากุมมือของเฟิ่งชิงเฉินไว้ ปลอบใจโดยไม่ส่งเสียง เฟิ่งชิงเฉินหันกลับมาพร้อมรอยยิ้ม ทั้งสองพลิกตัวขึ้นไปบนหลังม้า เสด็จอาเก้าปกป้องเฟิ่งชิงเฉินไว้ในอ้อมแขน

ชายชราดึงร่างของหนานหลิงจิ่นฝานขึ้นไปบนหลังม้า แต่เขาก็ไม่ได้ล่วงเกินหนานหลิงจิ่นฝานมากเกินไป แค่วางร่างของอีกฝ่ายไว้บนหลังม้าเท่านั้น “เลือกมาสี่คน วางอาวุธทั้งหมดลง จากนั้นตามไปนำทางให้ข้า”

คำพูดนี้เป็นการบ่งบอกคนของหน่วยพิทักษ์พยัคฆ์ร้ายว่าเขาไม่สนใจที่จะเอาชีวิตของหนานหลิงจิ่นฝาน

พูดจบก็ไม่รอให้อีกฝ่ายเลือกคน ชายชราควบม้าไปด้านหน้า รุดหน้าเสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินไปก่อน จากไปอย่างก้าวร้าว

ทหารสองหมื่นนาย เฝ้ามองการจากไปของพวกเขาอย่างเงียบสงบ เมื่อเห็นเสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินจากไป หัวใจของพวกเขาก็เต้นแรงจนแทบจะระเบิดออกมา

ในตอนที่เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินออกจากค่าย รองแม่ทัพก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา “พี่น้องทั้งหลาย ไล่ตามไป!”

แม้จะบอกว่าไล่ตามไป แต่พวกเขาก็ไม่กล้าเข้าไปใกล้เกินไป เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ชายชราโกรธ และทำร้ายหนานหลิงจิ่นฝานจนถึงแก่ชีวิต

ขี่ม้าท่ามกลางค่ำคืนมันมืดมิด มุ่งไปด้านหน้าด้วยความเร็วเต็มที่ราวกับสายลม เฟิ่งชิงเฉินมองไม่เห็นทาง และไม่รู้ว่าคือทิศทางไหน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้กิ่งไม้ขีดข่วนใบหน้า เฟิ่งชิงเฉินจึงทำได้เพียงนำศีรษะซุกไว้ในอ้อมแขนของเสด็จอาเก้า

“มืดมิดถึงเพียงนี้ มองไม่เห็นถนนหนทาง หากพวกเรายังเดินทางต่อไปเช่นนี้ จะทำให้หลงทางหรือไม่?”

“หลงก็หลง พวกเราจะกลัวอะไร” เสด็จอาเก้าพาเฟิ่งชิงเฉินไปตามเส้นทางเล็ก ๆ ยังดีที่ม้ายังมีเรี่ยวแรงและไหวพริบ ไม่ได้ชนเข้ากับต้นไม้ข้างทางแบบโง่ ๆ

“แล้วพวกของโต้วโต้วล่ะ?” เฟิ่งชิงเฉินเกรงว่าเมื่อทุกคนแยกออกจากกันแล้วจะยากที่จะตามหา

“มีสายลับคอยคุ้มกัน เจ้าไม่ต้องกังวล ก่อนที่เรื่องจะเกิดขึ้นพวกเราได้ตกลงกันไว้เรียบร้อยแล้วว่าจะรวมตัวกันที่ใด” จากความคิดของหนานหลิงจิ่นฝาน เสด็จอาเก้าและโต้วโต้วได้พูดคุยถึงรายละเอียดต่าง ๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว เห็นได้ชัดว่าโต้วโต้วไม่ใช่เด็กที่โง่เง่าและไร้เดียงสา

เมื่อรู้ว่าทุกอย่างมีแผนการคอยรองรับ เฟิ่งชิงเฉินจึงไม่พูดอะไรมาก ไม่นานทั้งสี่คนก็เข้ามาในป่าลึก เสด็จอาเก้ายกบังเหียนขึ้นเพื่อหยุดม้า “ตรงนี้แหละ ลงม้า”

พูดจบก็ไม่รอให้เฟิ่งชิงเฉินได้ตอบสนอง เขากระโดดลงมาจากหลังม้าพร้อมกับโอบกอดเฟิ่งชิงเฉินไว้ในอ้อมแขน จากนั้นก็ชักดาบออกมาแทงเข้าไปยังท้องม้า ม้าตัวนั้นร้องออกมาอย่างเจ็บปวดและวิ่งต่อไปด้านหน้าอย่างบ้าคลั่ง

ชายชราเองก็ทำเช่นเดียวกับเสด็จอาเก้า แต่เขาไม่ได้ปล่อยหนานหลิงจิ่นฝาน เขากลับนำเชือดมามัดร่างของหนานหลิงจิ่นฝานไว้แน่น แบกหนานหลิงจิ่นฝานไว้บนด้านหลัง ยกบังเหียนขึ้น กระโดดลงมาพร้อมกับฟันเข้าไปที่หลังม้าด้วยมีด ทำให้ม้ารีบวิ่งหนีไปด้านหน้า

ในค่ำคืนที่มืดมิดเช่นนี้ หากทหารพวกนั้นต้องการตามหาคน พวกเขาก็ต้องฟังจากเสียงม้า พวกเขาลงมาจากหลังม้าแล้ว เข้าไปแอบในป่าลึกเพื่อความปลอดภัย มีเพียงหนานหลิงจิ่นฝานเท่านั้นที่ยังต้องทนทุกข์ทรมาน และเส้นทางก็ค่อนข้างเป็นหลุมเป็นบ่อ

“ไปกันเถอะ” เสด็จอาเก้าจูงมือเฟิ่งชิงเฉิน ปกป้องอยู่ข้างกายของเฟิ่งชิงเฉิน ระแวดระวังชายชราผู้นั้นเป็นอย่างมาก

เมื่อครู่ปฏิกิริยาที่ชายชราแสดงออกมาเมื่อได้เห็นเฟิ่งชิงเฉินนั้นช่างแปลกประหลาด ในสายตาของเสด็จอาเก้า แม้ตอนแรกจะระมัดระวังอยู่แล้ว แต่การที่เพิ่มความระมัดระวังก็ดีกว่า

ชายชราผู้นั้นดูเหมือนจะสัมผัสไม่ได้ถึงความระแวดระวังที่เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินมีต่อเขา เขาเดินเข้ามาข้างกายของเฟิ่งชิงเฉินโดยตรง ทั้งสองคนเดินไปด้านหน้าในความมืด และในบางครั้งชายชราก็แอบชำเลืองมองมาที่เฟิ่งชิงเฉิน

ท้องฟ้ามืดสนิท ประกอบกับดวงตาของชายชราที่ดูค่อนข้างลึกลับ ทำให้เฟิ่งชิงเฉินสัมผัสไม่ได้ถึงสายตาของเขา แต่เมื่อได้เดินทางร่วมกับชายชรา หัวใจของนางก็อดที่จะรู้สึกตื่นตระหนกไม่ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ