นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1145

“เจ้าไม่มีสิทธิ์ที่จะได้รับรู้”

ฉึก......

ในตอนที่คนผู้นั้นยังตกอยู่ในอาการมึนงง ดาบของเสด็จอาเก้าก็ทะลุเข้าไปยังหน้าอกของเขาแล้ว จากนั้นก็ดึงออกมา เลือดสีแดงสาดซัด โปรยปรายลงมาผ่านอากาศอย่างงดงาม

คนของศาลาโลหิตสีชาดเห็นความเย่อหยิ่งของเสด็จอาเก้า พวกเขาจะไปทนได้อย่างไร พวกเขาเข้ามาล้อมเสด็จอาเก้าในทันที คิดจะปลิดชีวิตของเสด็จอาเก้าก่อน

แต่เสด็จอาเก้าได้มีความกลัวแต่อย่างใด เมื่อเห็นคนของศาลาโลหิตสีชาดเข้ามาล้อมตนเองไว้ เขาจึงโบกมือให้กับสายลับ บอกให้พวกเขาพาเจ๋อเจ๋อและปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีไปยังที่ปลอดภัย

หากสองคนนั้นอยู่ที่นี่ก็มีแต่เป็นตัวถ่วงของพวกเขาเท่านั้น

สายลับไม่เคยละเลยต่อคำสั่งของเสด็จอาเก้าแม้แต่ครั้งเดียว เวลานั้นสายลับที่เดินทางมาด้วยกันแปดคน เหลือเพียงแค่ห้าคนเท่านั้น สามคนวิ่งเปิดทางไปด้านหน้า หนึ่งคนคอยปกป้องปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยี ส่วนอีกคนเข้ามาแบกเจ๋อเจ๋อไว้ด้านหลัง

“ข้าจะช่วยพวกเจ้าเอง” โต้วโต้วเข้าใจว่าสายลับต้องการทำอะไร เขาจึงช่วยเปิดทางให้กับสายลับ ได้รับการช่วยเหลือจากโต้วโต้ว ทำให้สายลับถอยหนีไปได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

“ตามไป!” คนของศาลาโลหิตสีชาดรู้ว่าพวกของสายลับเป็นพวกที่อ่อนแอที่สุดสำหรับกลุ่มคนซึ่งอยู่ที่นี่ พวกเขาจะยอมปล่อยไปได้อย่างไร เวลานี้พวกเขาแยกตัวออกไปแปดคน สามคนพัวพันอยู่กับโต้วโต้ว อีกห้าคนไล่ตามพวกสายลับที่หนีไป

และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เฟิ่งชิงเฉินจะลงมือ เฟิ่งชิงเฉินรีบสิ่งเข้ามายังทิศทางที่สายลับหนีไป แต่สายลับและคนของศาลาโลหิตสีชาดนั้นอยู่ใกล้กันมากเกินไป เฟิ่งชิงเฉินจึงไม่อาจลงมือได้ ปืนกระบอกนั้นเล็งไปที่คนของศาลาโลหิตสีชาด ยังไม่ทันได้ลงมือเป้าก็เปลี่ยนเป็นสายลับ ซึ่งเป็นฝ่ายเดียวกับตนเองแทน

ช่วยไม่ได้ เฟิ่งชิงเฉินทำได้เพียงลองดู และแอบให้สัญญาณกับสายลับ

“ไปทางซ้าย” เฟิ่งชิงเฉินตะโกนออกมา สายลับพวกนั้นเงยหน้าขึ้น เข้าใจว่าเฟิ่งชิงเฉินต้องการทำอะไร พวกเขาจึงหลบไปทางซ้ายในทันที

คนของศาลาโลหิตสีชาดได้ยินเช่นนั้นเองก็รีบหลบไปทางซ้ายในทันใด แต่มันก็สายเกินไปแล้ว

ในตอนที่สายลับเบี่ยงไปทางซ้าย ร่างกายของเขามีขนาดเล็กลง ทำให้เปิดเผยตำแหน่งคนของศาลาโลหิตสีชาดได้อย่างเด่นชัด

“ทำได้ดีมาก” เฟิ่งชิงเฉินถือปืนไว้ในมือทั้งสองข้าง สายตามุ่งมั่น และเหนี่ยวไกปืนโดยไม่ลังเล

เสียงปืนดังขึ้น กระสุนพุ่งเฉียดศีรษะของสายลับ ตรงไปยังร่างของศาลาโลหิตสีชาดซึ่งอยู่ด้านหลัง

ต้องบอกเลยว่าสายลับกับเฟิ่งชิงเฉินเข้าขากันได้เป็นอย่างดี รู้ว่าไปทางซ้ายที่เฟิ่งชิงเฉินพูดถึงคือหลบกระสุนปืนของนางไปทางซ้าย

“ระวังอาวุธลับ” คนของศาลาโลหิตสีชาดตะโกนออกมาดังลั่น แต่แม้ความเร็วของพวกเขาจะมาแค่ไหน มันก็ไม่อาจสู้ความเร็วของกระสุนปืนได้ เสียง ปัง ดังขึ้นหนึ่งครั้ง กระสุนพุ่งทะลุฝ่ามือเข้าสู่สะบัก ทำให้มีดในมือของอีกฝ่ายหล่นลงพื้นในทันที

ปัง......เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้ค่อนข้างโชคดี กระสุนปืนพุ่งเข้าสู่ลำคอของอีกฝ่าย เลือดกระเซ็นออกมา คนที่ถูกยิงล้มลงพื้นในทันใด

“ไร้เงา เจ้าไปสังหารผู้หญิงคนนั้นก่อน” ฝ่ายตนเองสูญเสียไปสองคน ศาลาโลหิตสีชาดจะทำใจได้อย่างไร การต่อสู้เปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง สิ่งที่พวกเขาต้องการจัดการเป็นอย่างแรกคืออาวุธลับที่อยู่ในมือของเฟิ่งชิงเฉิน

“ขอรับ” ชายชุดดำผู้หนึ่งพุ่งออกมาจากวงล้อมแห่งการต่อสู้ ความเร็วของเขาเหมือนกับแสง เพียงชั่วพริบตาก็มาถึงหน้าเฟิ่งชิงเฉิน

“เป็นความเร็วที่ยอดเยี่ยมยิ่งนัก” จิตสังหารกระแทกใส่หน้า เฟิ่งชิงเฉินตกใจเป็นอย่างมาก แม้แต่หัวใจก็เต้นไม่เป็นจังหวะ ยิงไปที่ร่างเงาสีดำหลายครั้งติดต่อกัน

กระสุนถูกยิงออกไป แต่มันก็ไม่อาจหยุดการเคลื่อนไหวของร่างเงาสีดำนั้นได้ เพียงได้ยินเสียง เคร่ง กระสุนที่เฟิ่งชิงเฉินยิงออกไปถูกร่างเงาสีดำป้องกันเอาไว้ได้

“แย่แล้ว” สู้ไม่ได้ เช่นนั้นก็ต้องหนี

เฟิ่งชิงเฉินหันหลังและวิ่งหนี แต่ความเร็วของนางไม่อาจเทียบร่างเงาสีดำได้ เฟิ่งชิงเฉินวิ่งไปได้เพียงไม่กี่ก้าว ร่างเงาสีดำก็ปรากฏออกมาด้านหน้าของเฟิ่งชิงเฉิน ยกมีดขึ้นเตรียมที่จะสะบั้นร่างของเฟิ่งชิงเฉิน

“ชิงเฉิน ระวัง” เสด็จอาเก้าเตะคนที่เข้ามาพัวพันกับเขาออกไปทันที จากนั้นก็รีบพุ่งเข้าไป

สายลับและโต้วโต้วที่ได้เห็นฉากดังกล่าวก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก หัวใจของพวกเขาแทบจะทะลักออกมาจากอก และในเหล่าคนที่อยู่ในนั้น มีอยู่ผู้หนึ่งที่ตื่นตระหนกมากกว่าใครอื่น คนผู้นั้นก็คืออาจารย์ของโต้วโต้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ