นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1152

เจ๋อเจ๋อเป็นเหมือนตุ๊กตาเศษผ้า เขาอยู่ในอาการมึนงง นั่งคุกเข่าอยู่ในห้องโถง ไร้ซึ่งพลังแห่งชีวิต

ในตอนที่สายลับเดินออกไป พวกเขายกร่างของเจ๋อเจ๋อออกไปด้วย เจ๋อเจ๋อก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด

เสด็จอาเก้าเดินออกมาจากห้องโถง ถอดชุดคลุมสีดำที่อยู่ด้านนอกออกและเดินตรงไปหาเฟิ่งชิงเฉิน เมื่อเห็นด้วยตาที่เป็นกังวลของเฟิ่งชิงเฉิน เสด็จอาเก้าก็กล่าวออกมาว่า “ลัทธิปีศาจถูกทำลาย ผู้นำลัทธิปีศาจเป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่รู้ ของมีค่าในวังปีศาจก็ถูกเผาทำลายจนสิ้น”

หรือพูดอีกอย่างก็คง เหล่าพวกที่มาบุกโจมตีลัทธิปีศาจเหล่านั้น พวกเขานำของมีค่าทั้งหมดที่สามารถขนไปได้ออกไป ที่เหลือก็เผาทำลายมันทิ้ง

วีรบุรุษแห่งยุทธจักรเองก็ต้องกินข้าว ในเมื่อบุกโจมตีลัทธิปีศาจแล้ว แน่นอนว่าพวกเขาไม่มีทางปล่อยสิ่งของมีค่าของลัทธิปีศาจหลุดมือไป อีกอย่าง ต่อให้พวกเขารังเกียจลัทธิปีศาจจนไม่อยากใช้ประโยชน์กับของเหล่านั้น แต่พวกเขาก็ไม่มีทางทิ้งมันไว้ที่นี่ เพราะมันก็ถือเป็นการป้องกันไม่ให้ลัทธิปีศาจมีโอกาสกลับมามีอำนาจอีกครั้ง

“เช่นนั้นสิ่งของที่เจ้าต้องการ?” แม้เฟิ่งชิงเฉินจะรู้ว่าเสด็จอาเก้าต้องการสิ่งของบางอย่างจากลัทธิปีศาจ แต่ของสิ่งนั้นคืออะไร เรื่องนี้นางเองก็ไม่รู้

เสด็จอาเก้าไม่ได้พูดอะไร นางก็ไม่ได้ถามออกมา

เสด็จอาเก้าส่ายหน้า “ยังหาไม่เจอ”

“แล้วทางด้านของเซวียนเส้าฉีเป็นอย่างไรบ้าง?” ไม่ได้ถูกคนอื่นแย่งไปก่อนใช่ไหม

“ไม่มี” เรื่องแผนที่จิ่วโจว เสด็จอาเก้าไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเซวียนเส้าฉี และคนในโลกแห่งศิลปะการต่อสู้ พวกเขาก็ไม่รู้ว่าลัทธิปีศาจมีแผนที่นี้อยู่

“เช่นนั้นมันจะต้องยังอยู่ในลัทธิปีศาจ ผู้นำลัทธิปีศาจอยู่ที่ไหนไม่มีใครรู้ ขอแค่พวกเราหาเขาเจอ สิ่งของที่เจ้าต้องการก็อยู่แค่เอื้อม” เส้นทางที่ผ่านมา พวกเขาเผชิญหน้ากับปัญหามากมาย หากไม่ได้อะไรกลับไปเลย เช่นนั้นทุกอย่างก็จะสูญเปล่า

“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น” ไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยก็รู้ร่องรอยของแผนที่แผ่นนี้ เมื่อเทียบกับแผนที่แผ่นอื่นที่ยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน มันก็คือว่าดีกว่ามาก

ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีหยิบยาขวดหนึ่งมอบให้กับทุกคน “ยาป้องกันพิษจากศพ พวกเราไม่ควรอยู่ที่นี่นาน ออกไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน”

ยาที่พิลึกพิลั่นเช่นนี้ มีเพียงปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีเท่านั้นที่สามารถทำออกมาได้

หลังจากที่ทุกคนใช้ยาเป็นอันเรียบร้อย ทุกคนก็เตรียมตัวออกเดินทาง แต่ในเวลานั้นถึงพบว่า “โต้วโต้วล่ะ? เหมือนว่าเขาจะยังไม่กลับมา”

“หลงทาง” สำหรับผู้ชายที่ชอบแยกตัวออกไปจากส่วนรวม การแสดงออกของเสด็จอาเก้า หากไม่เห็นแก่หน้าอาจารย์ของโต้วโต้ว เขาคงไม่สนใจ

รู้ทั้งรู้ว่าตนเองจะหลงทาง แต่กลับไม่มาอยู่กับส่วนรวม

“อ่า มีความเป็นไปได้มากว่าเขาจะหลงทาง พวกเราไม่ต้องไปสนใจเขา เขามักจะหลงทางอยู่เป็นประจำ เขาสามารถเดินวนอยู่ในบ้านได้เป็นปีโดยที่หาทางออกไม่เจอ” สำหรับความสำเร็จในการหลงทางของโต้วโต้ว อาจารย์ของโต้วโต้วรู้เป็นอย่างดี และเขาก็คุ้นชินกับมันแล้ว

อา......เส้นเลือดสีดำปรากฏขึ้นบนศีรษะของเฟิ่งชิงเฉิน “เช่นนั้นเขามาถึงเมืองหลวงได้อย่างไร?”

“มีผึ้งนำทาง แต่......เขาก็ใช้เวลาถึงสามเดือน” อาจารย์ของโต้วโต้วอายจนไม่อยากจะพูดมันออกมา

จากพันธมิตรนักฆ่ามาถึงเมืองจักรพรรดิตงหลิง เร็วสุดก็ใช้ระยะเวลาประมาณยี่สิบวัน ช้าสุดก็ไม่เกินหนึ่งเดือน

ภายใต้การนำทางของผึ้งนำทาง โต้วโต้วยังใช้เวลานานถึงเพียงนี้ เห็นได้ชัดว่าเขามีพรสวรรค์ในเรื่องนี้มากเพียงใด

“เอาล่ะ พวกเราไม่ต้องไปสนใจเขา ไปกันก่อนเถอะ” เฟิ่งชิงเฉินล้มเลิกความตั้งใจ แต่ในตอนที่ทุกคนกำลังจะขึ้นรถม้า มันก็มีเสียงร้องดังขึ้นมาจากด้านในของวังปีศาจ

“ช่วย ช่วย......ช่วยด้วย ช่วยข้าด้วย” หลังจากนั้นเปลวไฟที่สว่างจ้าก็พุ่งออกมาจากมุมหนึ่งของวังและลอยอยู่กลางอากาศ

“นั่นมันโต้วโต้ว เขากำลังตกอยู่ในอันตราย” อาจารย์ของโต้วโต้ว ภายใต้อิทธิพลของพวกเฟิ่งชิงเฉิน เขาก็เลิกใช้คำว่าโอวหยาง และเรียกคำว่าโต้วโต้วออกมาในที่สุด

“พวกเจ้าอยู่ที่นี่ ข้าจะเข้าไปเอง” ผู้นำลัทธิปีศาจยังไม่ตาย เช่นนั้นจะต้องมีกลุ่มผู้ติดตามเขาอยู่เป็นแน่ เพื่อความปลอดภัย ทางที่ดีพวกเขาอยู่รวมกันเป็นกลุ่มจะดีกว่า

แม้สายลับจะไม่เห็นด้วยที่จะปล่อยให้เสด็จอาเก้าไปเสี่ยงอันตรายเพียงลำพัง แต่เมื่อนึกถึงความห่างชั้นระหว่างตนเองกับเสด็จอาเก้า พวกเขาก็ทำได้เพียงเชื่อฟัง

“รบกวนเจ้าแล้ว” อาจารย์ของโต้วโต้วเองก็กล่าวออกมาอย่างไว้ใจ

เสด็จอาเก้าไม่มีได้แสดงออกแต่อย่างใด เพียงแค่เหลือบตามองเฟิ่งชิงเฉิน บอกให้นางวางใจ จากนั้นหันหลังและพุ่งออกไปอย่างไร้ร่องรอย

“ไม่รู้ว่ากำลังเผชิญหน้าอยู่กับสิ่งใด” ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีกล่าวออกมาด้วยความสงสัย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ