นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1180

สรุปบท บทที่ 1180 เสด็จอาเก้า ทุกคนล้วนอยากให้พระองค์สินพระชนม์: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

สรุปเนื้อหา บทที่ 1180 เสด็จอาเก้า ทุกคนล้วนอยากให้พระองค์สินพระชนม์ – นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย

บท บทที่ 1180 เสด็จอาเก้า ทุกคนล้วนอยากให้พระองค์สินพระชนม์ ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย อาช้าย อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ทั้งซีหลิงเทียนเหล่ยและไป่หลี่หวู่เยียน ต่างให้ความสำคัญกับการต่อสู้ครั้งสุดท้ายอย่างสุดกำลัง การต่อสู้ครั้งนี้เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของพวกเขาในอนาคต

“ไม่มีเสบียงอาหาร และไม่มีมาเพิ่ม พวกเราติดอยุ่ที่นี่มันคือทางตันไม่มีทางรอด นอกจากจะสู้ นอกจากจะตีกองกำลังคนของตงหลิงและหนานหลิงให้ถอยร่นออกไป พวกเราไม่มีทางเลือกอื่นอีก ” วันรุ่งขึ้น ซีหลิงเทียนเหล่ยเลี้ยงข้าวคนสามแสนคนที่อยู่ภายใต้บัญชาของเขา ให้พวกเขากินจนอิ่ม หลังจากนั้นพวกเขาก็เริ่มกล่าวถึงความมุ่งมั่นร่วมกันที่จะทำภารกิจสำคัญให้สำเร็จ

“อาหารในมือของพวกเจ้าคือทั้งหมดที่เรามี หากกินอย่างประหยัดจะอยู่รอดได้อีกสองวัน หากต้องการมีชีวิตรอดต่อไป พวกเราจำเป็นต้องออกไปสู้ ออกไปปล้น และฆ่าคนของตงหลิงและหนานหลิงซะ แล้วปล้นเสบียงของพวกเขามา” ซีหลิงเทียนเหล่ยสร้างแรงกดดันยั่วยุให้คนสามแสนคนเหล่านี้ที่อยากจะมีชีวิตรอดซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ในตอนแรก ทหารเหล่านี้ยังคงหวาดกลัวและไม่สบายใจ และพวกเขาทั้งหมดมองไปที่ซีหลิงเทียนเหล่ย

อย่างขุ่นเคือง

พวกเขาไม่ต้องการทรยศต่อชาติบ้านเมืองเลย และพวกเขาไม่อยากไปตายร่วมกับซีหลิงเทียนเหล่ย แต่หน้าที่ผูกมัดของพวกเขาในฐานะทหารบังคับให้พวกเขาต้องเชื่อฟังคำสั่งของผู้บังคับบัญชา

แต่ในฝูงชน มีคนบางคนคำรามเสียงดัง และบอกว่าเป็นเพราะตงหลิงและหนานหลิงที่บีบพวกเขาให้มาถึงจุดนี้ เป็นเพราะตงหลิงและหนานหลิงได้ปล้นเสบียงของพวกเขาไป ถ้าหากว่าไม่มีการโจมตีของตงหลิงและหนานหลิงแล้ว พวกเขาก็สามารถกลับบ้านได้ ด้วยคำพูดเหล่านี้ ก็ทำให้คนบางคนหวั่นไหว

ใช่ กลับบ้าน ถึงแม้อยู่ที่นี่จะมีซีหลิงเป็นผู้จัดหาอาหารให้ แต่พวกเขาก็ยังอยากกลับบ้าน กลับไปที่เมืองซีหลิง

ซีหลิงเทียนเหล่ยเฝ้าดูทั้งหมดนี้ด้วยความพึงพอใจ และไม่อยากพลาดโอกาสใด ๆ ไป รีบปลุกปั่นทหารอีกครั้ง

"สู้! เพื่อที่จะกลับไปยังเมืองซีหลิง พวกเราต้องต่อสู้ ขับไล่ทหารของตงหลิงและหนานหลิงให้ถอยกลับไป ฆ่าให้เลือดไหลนองเป็นสายปูทางกลับไปเมืองซีหลิง"

นี่เป็นครั้งแรกที่ซีหลิงเทียนเหล่ยพูดถึงการกลับไปที่เมืองซีหลิง แม้ว่าเขาจะรู้อยู่ก่อนแล้วว่าจะไม่มีทางได้กลับไปอีกแล้ว แต่ในเวลานี้ เขาจำเป็นต้องให้ความหวังแก่ทหารเหล่านี้ ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่เขาจะต่อสู้อย่างสุดกำลังได้

“สู้ สู้เพื่อมีชีวิตรอด! ไม่สู้ก็ตาย! ฆ่า ฆ่าให้เลือดไหลนองเป็นสาย พวกเราต้องกลับบ้าน พวกเราต้องกลับไป!” เพื่อที่จะมีชีวิตรอดต่อไปได้ พวกเราจำเป็นต้องสู้ จำเป็นต้องออกไปจากที่นี่เท่านั้น พวกเราถึงจะมีชีวิตรอด

"ฆ่า ฆ่าให้หมด! เพื่อที่จะมีชีวิตรอด พวกเราต้องชนะ เอาชนะตงหลิง เอาชนะหนานหลิง และกลับสู่เมืองซีหลิง" คนสามแสนคนถูกปลูกปั่นได้สำเร็จ พวกเขาทั้งหมดโบกมือและตะโกนเสียงดัง

“เพื่อมีชีวิตรอดต่อไป และเพื่อได้กลับบ้าน ฆ่า!” ไม่ใช่เพื่ออำนาจ ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ แค่ทำเพื่อให้ทหารได้มีชีวิตอยู่และกลับบ้าน

คำพูดนี้สะเทือนอารมณ์ทหารเหล่านี้มากที่สุด ทหารสามแสนคนโห่ร้องคำว่าฆ่า ดังก้องไปทั่วท้องฟ้าและก้องอยู่ในป่าพิษเป็นเวลานานไม่สลายหายไป

ต้องบอกว่า ซีหลิงเทียนเหล่ยช่างเป็นคนที่เหมาะสมจะเป็นผู้นำจริงๆ เขาแค่พูดเพียงไม่กี่คำ เขาทำให้คนสามแสนคนเชื่ออย่างปักจิตปักใจ

เลือดอันเร่าร้อนนี้หากไม่เคยได้สัมผัสมันด้วยตัวเองแบบนี้ และไปอยู่ท่ามกลางคนพวกนี้ จะไม่มีวันเข้าใจว่าทำไมคนจำนวนมากถึงเต็มใจสู้ตายเพื่อโอกาสที่อาจจะเป็นไปได้ในความเป็นไปไม่ได้

ไม่สู้ก็ตาย ถ้าสู้แล้วยังมีโอกาสรอด นี่คือภาพของทหารซีหลิง พวกเขาไม่มีทางถอย

ตีเหล็กต้องตีขณะที่เหล็กยังร้อน ในขณะนี้ทหารของซีหลิงเต็มไปด้วยแรงใจ ฉวยโอกาสในตอนนี้รีบออกจากป่าพิษ มันจะทำให้ตงหลิงและหนานหลิงต้องสาหัสมากอย่างแน่นอน

หลังจากที่ซีหลิงเทียนเหล่ยได้กล่าวความมุ่งมั่นปฎิบัตภาระกิจสำคัญร่วมกันเสร็จแล้ว เขาก็สั่งให้ทหารเข้าแถวและเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตี แม้ว่ากองทัพจะอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของไป่หลี่หวู่เยียน แต่เขาเป็นผู้นำหลัก

การเคลื่อนไหวนี้ ทำให้ทหารซีหลิงบ้าคลั่งมากยิ่งขึ้น แม้แต่องค์รัชทยาทพวกเขายังไม่กลัว พวกเขาจะกลัวอะไร?

“ซีหลิงต้องชนะ!”

ฉันไม่รู้ว่าใครเป็นผู้นำในการตะโกนประโยคนี้ จากนั้นเสียงตะโกนก็ดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ละครั้งมีพลังมากขึ้น และหนทางที่มืดมนข้างหน้าดูเหมือนจะสว่างขึ้นในขณะนี้

“ซีหลิงต้องชนะ!”

โต้วโต้วจากที่หาวนอนด้วยความเบื่อหน่าย แต่กลับมีความสนใจขึ้นมาทันที และถามว่า "เสด็จอาเก้า ว่าแต่พระองค์ไปทำเรื่องอะไรไว้กี่เรื่องกันแน่ ถึงทำให้คนเกียดและโกรธพระองค์จนอยากให้พระองค์สิ้นพระชนม์ และพวกเขาดูเหมือนจะดีใจมากเมื่อรู้ว่าพระองค์สิ้นพระชนม์แล้ว ถ้าหากพวกเขารู้ว่าพระองค์ยังไม่ตาย พระองค์คิดว่าพวกเขาจะทำยังไง”

พวกเขาก็ได้แต่ดีใจเก้อสิ? เมื่อพบว่าตัวเองมุมานะแล้วไม่ได้ประโยชน์อะไร? จากนั้นพวกเขาต่างจ้องมองไปที่เสด็จอาเก้า สีหน้าพวกเข้ามิเปลี่ยนเป็นบ้าคลั่งหรือ?

เมื่อคิดถึงฉากนี้โต้วโต้วก็รู้ว่ามันดูตลกมาก เสด็จเอาเก้าไม่พูดอะไรเลย เขาก็นั่งอยู่ตรงนั้นขำออกมาเหมือนคนบ้า

เสด็จอาเก้าเหลือบมองโต้วโต้วด้วยสายเย็นชา: " ทำไม? หรือเจ้าก็คิดอยากจะให้ข้าสินพระชนม์เหมือนกันรึ?"

โต้วโต้วตกใจมากจนส่ายหัวอย่างรวดเร็ว: " ไม่ได้คิด ข้าอยู่ของข้าดี ๆ ทำไมถึงคิดอยากให้พระองค์สิ้นพระชนม์กันล่ะ ความเป็นความตายของพระองค์มาเกี่ยวอะไรกับข้า? แทนที่ข้าจะคิดถึงการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ สู้คิดถึงการตายของเฟิ่งชิงเฉินยังจะดีกว่า มันสมองของเฟิ่งชิงเฉินนั้นสามารถเอาไปแลกทองคำได้แล้ว”

ไม่มีผลประโยชน์ร่วมกัน ใครจะไปสนใจความเป็นความตายของใครกัน

โต้วโต้วพูดความจริง และไม่ได้พูดเพื่ออยากเอาใจทั้งสองฝ่าย เสด็จอาเก้าถึงกับเตือนด้วยสายตาแข็งกร้าวว่า: "เจ้าอย่ายุ่งกับเฟิ่งชิงเฉิน ระวังข้าจะโค่นบ้านเกิดของเจ้าซะ"

ถึงแม้ว่าเสด็จอาเก้าก็เคยคิดว่าพันธมิตรนักฆ่ามีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับตระกูลเฟิ่งหลี แต่เขาไม่ได้ปักใจ แต่เขาก็ไม่สามรถปล่อยเรื่องนี้ไปได้ ถ้าหากเกิดอะไรขึ้น เขาไม่สามารถแบกรับมันไว้ได้

นี่เป็นครั้งแรกที่เสด็จอาเก้าพูดอย่างตรงไปตรงมา จนโต้วโต้วผงะเมื่อได้ยินว่าเขาต้องการที่จะโค่นพันธมิตรนักฆ่า แต่เขาก็ตอบสนองอย่างรวดเร็วและพูดด้วยความอวดดีว่า: " ข้าไม่กลัว เจ้าไม่รู้ว่าพันธมิตรนักฆ่าอยู่ที่ไหน?”

เสด็จอาเก้าไม่ได้ตอบโต้กลับ แค่เพียงมองดูโต้วโต้วอย่างลึกซึ้ง โต้วโต้วไม่เข้าใจสายตานั้นสื่อความหมายอะไรไว้บ้าง โต้วโต้วไม่เข้าใจ แต่เฟิ่งชิงเฉินกลับเข้าใจ...

เสด็จอาเก้าในตอนนี้ไม่เพียงแต่สามารถค้นหาว่าพันธมิตรนักฆ่าอยู่ที่ไหน แต่ยังมีความแข็งแกร่งในการทำลายพันธมิตรนักฆ่าอีกด้วย!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ