นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1283

สรุปบท บทที่ 1283 คืนของ,ล้างแค้นศัตรูก่อนออกเดินทาง: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

ตอน บทที่ 1283 คืนของ,ล้างแค้นศัตรูก่อนออกเดินทาง จาก นางสนมแพทย์อัจฉริยะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1283 คืนของ,ล้างแค้นศัตรูก่อนออกเดินทาง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายInternet นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ที่เขียนโดย อาช้าย เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ดวงตาของเฟิ่งชิงเฉินเบิกกว้าง กัดฟันขณะที่มองดูชายคนที่กดเขาลงไปใต้ร่าง.....

นี่มันไม่เกินไปหรือ?

เมื่อคืนเธออุตส่าห์ขอร้องเขา แต่เขากลับเพิกเฉยต่อเธอ แม้ว่าเธอต้องการที่จะเริ่มก่อนเขากลับปฏิเสธ ถ้าเขาไม่ต้องการที่จะทำ เขาก็จะไม่ทำ แต่ตอนนี้เขาเอาเปรียบเธอจริงๆ ที่กลั่นแกล้งไม่ใส่ใจ มันช่างน่าอายจริงๆ

อยากทำก็ทำ ไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ เธอดูเป็นคนรังแกง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?

เฟิ่งชิงเฉินระงับความโกรธด้วยความทำอารมณ์ให้ดี ยื่นมือออกเพื่อผลักเสด็จอาเก้า เสด็จอาเก้ากลับกลับทำบางอย่างด้วยการดันส่วนนั้นทั้งหมดเข้าไปในร่างกายของเธอ

“อา... เบาหน่อย เบา! มันลึกเกินไป” แรงที่ถูกดันเข้ามาทำให้เฟิ่งชิงเฉินเปลี่ยนไปกอดเสด็จอาเก้าแนบแน่นแทน

ไม่ใช่เพราะความใจร้อนของเธอ แต่เกิดจากการกระทำรุนแรงของเขา เสด็จอาเก้าจึงอุ้มเธอขึ้นมานั่งโยให้เธอนั่งคร่อมเขาไว้

ท่าทางนี้ทำให้เธอไม่สามารถผลักเสด็จอาเก้าออกไปได้ เธอรู้ว่าท่านอนแบบนี้ไม่เป็นไปตามหลักที่ควรจะเป็น ไม่ว่าจะเช้าขนาดไหนเสด็จอาเก้าก็สามารถกลืนกินเธอจนสะอาดสะอ้านไม่เหลือแม้กระทั่งกระดูก

“ไม่...” เสด็จอาเก้าตอบทันทีและเพื่อพิสูจน์คำพูดของเขา เขาจึงขยับอย่างรุนแรงทุกครั้ง

เขาดึงออกแรงๆ แล้วกระแทกกลับเข้าไปแรงๆ แต่ละครั้งเขาต้องดันเข้าไปให้ถึงในตำแหน่งที่อยู่ด้านในสุดของเฟิ่งชิงเฉินก่อน เขาจึงจะพอใจ

ปากเล็กๆ ของเฟิ่งชิงเฉินกัดแน่น หลังจากทำมาเป็นเวลาสองเดือน ที่ตรงนั้นดูจะแน่นยิ่งกว่าเดิม ทุกครั้งที่เขากระแทกลงไป มันทำให้เสด็จอาเก้าพอใจมาก

หากรู้ก่อนหน้านี้ เมื่อคืนก็ทนไม่ไหว จะกักเอาไว้นานๆ

“อย่าคิดถึงคนอื่นเลย” เสด็จอาเก้าจับหน้าเฟิ่งชิงเฉิน หลังจากกระแทกเข้าไปอย่างรุนแรง เขาจูบซับริมฝีปากของเฟิ่งชิงเฉิน จูบเอาคำบ่นทั้งหมดของเฟิ่งชิงเฉินออกไป

วันนี้เขาต้องการที่จะคิดบัญชีรวบทั้งเมื่อคืนและคืนก่อนหน้า เขาจะสนุกไปกับมันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม สำหรับการร้องขอของเฟิ่งชิงเฉิน เขาได้ปิดปากของเฟิ่งชิงเฉินไปแล้ว เธอจะว่าอย่างไรอีก.....

เมื่อพูดถึงการไม่ยึดติดกับมารยาททางสังคม เสด็จอาเก้าถือเป็นคนแรกๆอย่างแน่นอน เขาไม่สนใจว่าจะกลางวันหรือกลางคืน ถ้าหากเขาต้องการ เฟิ่งชิงเฉินก็ต้องอยู่เคียงข้างเขา และเขาจะทำตามความปรารถนาของหัวใจตัวเอง

เมื่อเวลายามเย็น ในที่สุดเสด็จอาเก้าก็ลุกจากเตียงด้วยสีหน้าพึงพอใจ เฟิ่งชิงเฉินนอน ไม่มีแรงอยู่บนเตียง ร่างกายเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ รวมถึงบริเวณต้นคอระหงด้วย

เฟิ่งชิงเฉินนอนบนเตียงโดยขณะที่ยังเปลือยอยู่และมองดูเสด็จอาเก้าลุกขึ้นมารินน้ำ เธอจิบชาจากมือของเสด็จอาเก้ามาดื่มให้ชุ่มคอ “แบบนี้ข้าจะออกไปเจอคนอื่นได้อย่างไร?”

ร่างกายเต็มไปด้วยรอยคมเขี้ยวของเสด็จอาเก้า คนที่ไม่รู้จักคงคิดว่าเสด็จอาเก้าเป็นสุนัขชอบกัดคนเป็นแน่

“อย่างนั้นก็ไม่ต้องออกไป” เสด็จอาเก้าวางถ้วยไว้ข้าง ๆ แล้วกอดไว้ในอ้อมแขน ปลายนิ้ว ลากรอยรอยจูบสีม่วงคล้ำบนหลังของเฟิ่งชิงเฉิน รอยยิ้มในดวงตาของเขาส่องประกายชัดเจน

หญิงสาวคนนี้มีร่องรอยของเขาอยู่ทั่วร่างกายของนาง

เฟิ่งชิงเฉินตีหลังมือเสด็จอาเก้าด้วยความโกรธ: “ท่านก็รู้ว่าข้ามีนัดกับเหวินหยวน ที่ต้องไปเจอเขาบ่ายนี้”

“บอกเหวินหยวนว่าเจ้าไม่สบายแล้วไปวันอื่น” หลังมือของเสด็จอาเก้าแดงเพราะถูกเฟิ่งชิงเฉินตี เขาไม่ได้โกรธ เขากลับจับมือของเฟิ่งชิงเฉิน แล้วตรวจดูซ้ำแล้วซ้ำเล่าพร้อมทั้งตำหนิ: “คราวหน้าอย่าตีข้าแรงๆ แบบนี้นะ เจ็บมือคงไม่ดี”

เฟิ่งชิงเฉิน ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง มองดูใบหน้าด้านข้างขอของเสด็จอาเก้าโดยที่ไม่กระพริบตา ดูเหมือนว่าหัวใจจะถูกกระแทกอย่างแรงด้วยบางสิ่ง ทำให้หายใจไม่ออก จมูกแสบแทบจะน้ำตาไหล

แม้ว่าชายคนนี้จะไม่เคยพูดคำหวานๆสักคำ แต่การกระทำอันอ่อนโยนและคำพูดง่ายๆ สามารถทำให้เธอประทับใจไปได้อีกนาน

“ข้าไปก่อน รอจนกว่าฉันจะกลับมา” ก่อนที่เฟิ่งชิงเฉินจะจากไป ได้จูบไปที่ใบหน้าของเสด็จอาเก้า เสด็จอาเก้าตกตะลึงทันที เมื่อเขาตั้งสติได้ เฟิ่งชิงเฉินก็ออกจากประตูไปแล้ว

เสด็จอาเก้ายืนอยู่ที่เดิม เอื้อมมือออกไปแตะจุดที่เฟิ่งชิงเฉินจูบเขาอย่างล่องลอย และแอบตัดสินใจแล้วว่าไม่ว่าพวกเขาจะออกไปไหนต่อจากนี้ พวกเขาจะจูบกันก่อนที่จะออกไป แม้ว่ามันจะไม่สมเหตุสมผลก็ตาม แต่เขาชอบมัน.....

เฟิ่งชิงเฉินออกไปหาเหวินหยวนแล้ว เสด็จอาเก้าก็กลับไปศึกษาจัดการเรื่องที่ยังทำไม่เสร็จต่อจากเมื่อวาน

แม้ว่าเหวินหยวนตกลงที่จะไปที่ตงหลิง ใช้เวลาไม่เกินหนึ่งถึงสองในการไป การฉวยโอกาสนี้ เสด็จอาเก้าต้องวางแผนที่จะสรุปในสิ่งที่เขาทำ

หนานหลิงจินฝาน เมื่อตอนเขาเข้าเมืองไปได้ให้ของขวัญชิ้นใหญ่แก่เขา ก่อนที่เขาจะกลับไป เขาต้องคืนของขวัญให้หนานหลิงจินฝาน ไม่เช่นนั้นเขาไม่อาจจะไม่เคารพคำว่าตอบแทนซึ่งกันและกันต่อไปได้

เสด็จอาเก้าหยิบ “บันทึกประวัติศาสตร์” เล่มหนาออกมาจากชั้นหนังสือแล้วหยิบจดหมายออกมา สีและแผ่นหมึกบนจดหมายยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ มันไม่ได้ถูกเปิดออกอย่างแน่นอน

เสด็จอาเก้าหยิบหนังสือกลอนอีกเล่มหนึ่งออกมาจากชั้นหนังสือ สอดจดหมายลงในหนังสือ และเรียกหน่วยองครักษ์เงา: “มอบจดหมายนี้ให้ถึงมือองค์ชายจินซิง และบอกเขาว่านี่เป็นของขวัญแสดงความยินดีจากข้า ข้าขอแสดงความยินดีที่เสด็จขึ้นสู่การเป็นองครัชทายาท”

กล่าวอีกนัยหนึ่ง จดหมายฉบับนี้เพียงพอที่จะตัดสินว่าใครจะได้ครองตำแหน่งองค์ชายแห่งหนานหลิง

ดวงตาขององครักษ์เงาเบิกกว้าง เขารับไปด้วยความเคารพ และพูดอย่างเคร่งครัด: “ผู้ใต้บังคับบัญชาคนนี้จะมอบจดหมายนี้ให้ถึงมือขององค์ชายจินซิงอย่างแน่นอนขอรับ”

หลังจากที่หน่วยองครักษ์เงาจากไป เสด็จอาเก้าก็เรียกเจ้าหน้าที่ของเขาอีกครั้ง: “บอกกองทหารม้าดำว่าพวกเขาสามารถปรากฏตัว นำผู้คนจากเป่ยหลิงไปยังชายแดนตงหลิงและหนานหลิง จากนั้นลักลอบเข้าไปในหนานหลิงเพื่อเข้าไปพบอ๋องผู้นี้”

มีอันตรายระหว่างทางการเดินทางกลับ เสด็จอาเก้าต้องการทหารม้าดำเพื่อปกป้อง ส่วนวิธีที่ทหารม้าดำจะแอบเข้าไปในหนานหลิงนั้น ไม่จำเป็นต้องให้เสด็จอาเก้าต้องกังวล หนานหลิงจินซิงจะช่วยเขาอย่างดี......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ