นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 130

ตระกูลเซี่ยมีกุ้ยเฟยเหนียงเหนียงคนหนึ่ง แต่กุ้ยเฟยผู้นี้เข้าไปอยู่ในพระราชวังนานถึงเจ็ดปีแล้วกลับไม่ให้กำเนิดบุตรธิดาแต่อย่างใด หลายปีมานี้ไม่ว่าจะเป็นหมอผู้โด่งดังหรือวิธีการรักษาใดๆ ตระกูลเซี่ยล้วนหามาจนสิ้นแต่ก็ไร้ผล

ทุกคนในตระกูลเซี่ยต่างพากันรีบร้อน

บัดนี้กุ้ยเฟยเหนียงเหนียงได้รับความรักไม่น้อย แต่บรรดาสตรีในวังหลังหากไม่มีโอรสจะได้รับความรักอีกนานเท่าไหร่?

เมื่อมีหญิงสาวอายุน้อยและหน้าตางดงามกว่าเข้าไปในพระราชวัง จะยังคงได้รับความรักอยู่หรือ

แม้จะกล่าวว่าบัดนี้บรรดาองค์ชายล้วนเติบใหญ่แล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าถ้าให้กำเนิดองค์ชายขึ้นอีกในเวลานี้แล้วจะไม่มีโอกาสขึ้นต่อสู้ตำแหน่งนั้น

บัดนี้องค์จักรพรรดิอายุเพียงสี่สิบต้นๆ พระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ สามารถนั่งอยู่บนบัลลังก์นี้ได้อีกนับสิบปีโดยไม่มีปัญหา

หากว่าเซี่ยกุ้ยเฟยให้กำเนิดโอรสขึ้นมาได้ และเนื่องด้วยยังอายุน้อยจึงไม่ถูกองค์จักรพรรดิสงสัยแต่อย่างใด หลังจากเวลาผ่านไปสิบกว่าปี เมื่อองค์ชายเติบใหญ่ก็มีอำนาจในการแย่งชิงตำแหน่งนั้นเช่นกัน

อย่าเห็นว่าบัดนี้องค์จักรพรรดิทรงเอ็นดูลั่วอ๋อง หากว่าองค์รัชทายาทสิ้นพระชนม์ ลั่วอ๋องขึ้นเป็นใหญ่ องค์จักรพรรดิก็คงคิดป้องกันเขา

ตระกูลในราชวังนั้นไร้ซึ่งความรู้สึกและโหดเหี้ยม การที่องค์จักรพรรดิสนับสนุนลั่วอ๋องก็เพียงแค่ต้องการจะจัดการกับองค์รัชทายาทเท่านั้น ต้องการทดสอบเสด็จอาก้าวเท่านั้นเอง

อย่าคิดว่าเป็นเพียงงานกวีเล็กๆ แต่ภายในนั้นมีความลับมากมายซ่อนอยู่

ในเมื่อเฟิ่งชิงเฉินไม่อาจจะตัดขาดจากพระราชวงศ์ได้ นางก็คงไม่อาจจะหลบหนี

หวังจิ่นหลิงหวังว่าเฟิ่งชิงเฉินจะเข้าไปในแวดวงนี้ มีเพียงเท่านี้จึงจะทำให้นางเข้าใจและเดินไปได้ไกลกว่าเดิม

เฟิ่งชิงเฉินต้องใช้โอกาสนี้ในการบุกเข้าไปปูทางในโลกกว้าง จวนเซี่ยต้องการจะผูกมิตรกับนาง ต้องการใช้ทักษะทางการแพทย์ของนางทำให้ตระกูลเซี่ยรุ่งโรจน์ยิ่งขึ้น

แต่ละคนล้วนมีกระดานหมากที่ตั้งใจเอาไว้เป็นของตนเอง เพียงแค่วางหมากให้ดี ล้วนเป็นประโยชน์สำหรับทุกคน

ชนชั้นสูง อำนาจของจักรพรรดิ สิ่งเหล่านี้หวังจิ่นหลิงไม่เคยคิดใส่ใจในตอนที่ดวงตาเขายังบอด แต่ทว่าบัดนี้ดวงตาเขารักษาหายดีแล้ว จะใช้ชีวิตเรียบง่ายสบายๆ เช่นเมื่อก่อนไม่ได้

เขาเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลหวัง เขาได้รับความมั่งคั่งและเกียรติยศมากมายจากการที่ได้ใช้นามสกุลหวังมาตั้งแต่กำเนิด ดังนั้นเขาจึงจำเป็นจะต้องทุ่มเทเพื่อตระกูลหวัง

บุคคลภายนอกที่คิดว่าเขาเป็นคุณชายคนโตของตระกูลหวัง คงจะมีแต่ความรุ่งโรจน์ ใครจะรู้เล่าว่าเขาจะต้องทุ่มเทมากมายเพียงใดเพื่อตระกูล

การโน้มน้าวใจของหวังจิ่นหลิงค่อนข้างจะได้ผล หลังจากที่เฟิ่งชิงเฉินครุ่นคิดดูแล้วนางก็ไม่ได้คิดปฏิเสธอีกต่อไป เมื่อสถานการณ์ค่อยๆ ดีขึ้น ชีวิตของนางก็ดีขึ้นมากเช่นกัน ดังนั้นงานเลี้ยงกวีเหล่านี้จะหนีตลอดไปคงไม่ได้

ในเมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะไปร่วมงานกวี เฟิ่งชิงเฉินจึงไม่ได้รีรอ นางเดินทางออกไปจากเรือนพักของหวังจิ่นหลิง ตรงไปที่ห้องโถง หวังว่าเซี่ยซานยังอยู่ที่นี่

"โจวสิง เจ้าจงไปบอกกับเฟิ่งชิงเฉินอีกครั้งว่างานกวีนี้สำคัญยิ่งนักนางจำเป็นต้องเข้าร่วม" ท่าทางของเซี่ยซานดูกระตือรือร้น

"โจวสิง เจ้าให้ข้าไปพบกับเฟิ่งชิงเฉินได้หรือไม่ ให้ข้าโน้มน้าวใจนางด้วยตนเอง งานกวีครั้งนี้สำคัญยิ่งนักสำหรับนาง ไม่ว่าเฟิ่งชิงเฉินจะมองตระกูลเซี่ยเช่นไร แต่ข้าก็ไม่อยากจะให้นางพลาดโอกาสนี้ไป พลาดโอกาสที่จะฟื้นฟูชื่อเสียงของนางขึ้นมาได้ ต้องรู้ว่าหากครั้งนี้เฟิ่งชิงเฉินปฏิเสธตระกูลเซี่ย ครั้งต่อๆ ไปคงจะไม่มีจดหมายมาเชิญเฟิ่งชิงเฉินอีกแล้ว"

เซี่ยซานยื่นจดหมายเชิญฉบับนั้นไปให้โจวสิงด้วยแววตาอ้อนวอน

หากไม่ใช่เพราะว่าตระกูลเซี่ยทำผิดต่อเฟิ่งชิงเฉินละก็ คุณชายสามเช่นเขาผู้มีเกียรติจะยอมทำท่าทางต่ำต้อยเช่นนี้หรือ?

"คุณชายสาม พี่สาวของข้าตกน้ำและเป็นไข้ นางไม่สะดวกจะพบผู้ใด" โจวสิงยังคงปฏิเสธอย่างถ่อมตน พร้อมกับผลักหนังสือเชิญนั้นกลับไป

"งานกวีนี้เพื่อร่วมมือกับหวังจิ่นหลิง จึงจัดหลังจากนี้อีกเจ็ดวัน และหลังจากนี้เจ็ดวันไม่ว่าเฟิ่งชิงเฉินป่วยเป็นอะไรคงหายแล้ว" เซี่ยซานรู้สึกอึดอัดใจยิ่งนัก

และนี่ก็เพราะว่าเป็นเขา หากเป็นคนอื่นๆ ล่ะก็ได้ยินว่าเฟิ่งชิงเฉินไม่ยอมไปก็คงจะดึงหนังสือเชิญแล้วกลับไปทันทีโดยไม่สนใจเฟิ่งชิงเฉินแม้แต่น้อย

งานกวีเช่นนี้ไม่ใช่ว่าผู้ใดก็สามารถเข้าร่วมได้ การที่มอบหนังสือเชิญมา นับว่าเป็นการยอมรับบุคคลคนนั้น

หากจะพูดง่ายๆ ก็คือ ตระกูลเซี่ยมอบหนังสือเชิญนี้มาให้เฟิ่งชิงเฉินก็เพื่อไว้หน้าเฟิ่งชิงเฉิน ไม่อย่างนั้นจากชื่อเสียงของนาง และสถานการณ์ของตระกูลเฟิ่ง ต่อให้เฟิ่งชิงเฉินรักษาดวงตาของหวังจิ่นหลิงจนหายก็ยังไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมงานกวีเช่นนี้

"คุณชายสาม พี่สาวของข้านั้น......"

"ขอบพระคุณคุณชายสามเป็นยิ่งนัก อีกเจ็ดวันงานกวีนี้คาดจะเข้าร่วมอย่างแน่นอน" เฟิ่งชิงเฉินเดินตรงออกมาแล้วรับหนังสือเชิญจากบนโต๊ะไป

"ท่านพี่?" โจวสิงรู้สึกสงสัยยิ่งนัก ผ่านไปเพียงเวลาเท่าไหร่เอง เฟิ่งชิงเฉินกลับเปลี่ยนใจอย่างนั้นหรือ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ