นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1313

แม้ว่าเสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินจะมีคำพูดมากมายที่จะพูดเพื่อผู้อาวุโสเหวินหยวน แต่ในใจก็ไม่เชื่อว่าอยู่ดี ๆ คนอย่างผู้อาวุโสเหวินหยวนจะปลีกตัวออกไปจากการคุ้มกันขององครักษ์ และเอาตัวเองเข้าไปสู่อันตรายเช่นนั้น

เรื่องนี้จะต้องมีอะไรลับลมคมในเป็นแน่ เพียงแต่ไม่สามารถพูดออกมาอย่างเปิดเผยได้ อย่างแรกก็เพื่อปกป้องชื่อเสียงของตัวเอง อย่างที่สองก็เพื่อส่อให้เห็นว่าเสด็จอาเก้าปัดความรับผิดชอบ

เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินเข้าใจเรื่องนี้ดี เพื่อระงับเรื่องนี้เอาไว้ พวกเขาจึงพาโจ่วอั้นไปดูศพของผู้อาวุโสเหวินหยวน

ศพของผู้อาวุโสเหวินหยวนถูกห่อหุ้มไว้ด้วยน้ำแข็ง ป้องกันการเน่าสลายในช่วงระยะเวลาอันสั้น โจ่วอั้นมองดูบาดแผลที่ร้ายแรง เขาก็พูดออกมาอย่างมั่นใจว่า “ผู้อาวุโสเหวินหยวนเสียชีวิตด้วยหยดน้ำ”

“หยดน้ำ? มันคืออะไรงั้นหรือ?” เฟิ่งชิงเฉินถามออกมา

“เป็นอาวุธลับชนิดหนึ่ง หลังจากมันเข้าไปในร่างกายของมนุษย์ มันก็เหมือนกับหยดน้ำที่หยดลงบนกระดาษ สาดกระเซ็น…...” เพื่อให้เฟิ่งชิงเฉินเข้าใจได้มากขึ้น โจ่วอั้นจึงสาธิตด้วยหยดน้ำ

หยดน้ำหยดลงบนโต๊ะ มันสาดกระเซ็นไปรอบด้าน คล้ายกับบาดแผลของผู้อาวุโสเหวินหยวน

“การพึ่งพาอาวุธลับชนิดนี้ ไม่จำเป็นต้องเข้ามาในระยะใกล้ ขอแค่ลงมืออย่างแม่นยำก็เพียงพอแล้ว ส่วนคนที่ลงมือ ไม่ใช่คนที่อยู่ข้างกายของผู้อาวุโสเหวินหยวนเป็นแน่” โจ่วอั้นสร้างหยดน้ำและยิงมันไปบนกำแพง ผลลัพธ์ที่ออกมาก็เหมือนเดิม

“อ่า ข้านึกออกแล้ว ท่านอาจารย์เคยพูดถึงคนที่มีความสามารถในเรื่องการใช้หยดน้ำอยู่คนหนึ่ง” จู่ ๆ โต้วโต้วก็สะดุ้งขึ้นมา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “ชิงเฉิน ข้าสามารถช่วยเจ้าตามหาฆาตกรได้”

โจ่วอั้นเหลือบตามองโต้วโต้ว จากนั้นก็ขัดคำพูดของโต้วโต้ว “เจ้ากำลังพูดถึงซานชุนติ่งใช่ไหม”

“ใช่ ใช่ ใช่ ข้ากำลังพูดถึงเขา ท่านอาจารย์บอกว่าวิชาหยดน้ำของเขาแข็งแกร่งดุจเทพ ในยุทธจักร แทบจะไม่มีใครต่อกรกับเขาได้ แม้อยู่ในระยะมากกว่าร้อยเมตร เขาก็สามารถพรากชีวิตคนได้” โต้วโต้วพยักหน้าอย่างแรง พูดจบถึงนึกขึ้นได้ว่าโจ่วอั้นแย่งผลงานของเขาไป เขาจึงสาปแช่งออกมาด้วยความโกรธ “เจ้าบ้าโจ่วอั้น เห็นได้ชัดว่าข้านึกถึงเจ้านั่นได้ก่อน เหตุใดเจ้าถึงมาแย่งข้าตอบ”

“......” โจ่วอั้นมองไปที่เขาเงียบ ๆ และไม่ได้พูดอะไรออกมาทั้งนั้น เฟิ่งชิงเฉินพูดปลอบใจออกมาเล็กน้อย โต้วโต้วถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ จากนั้นเสด็จอาเก้าก็เอ่ยปากถามออกมา “ซานชุนติ่งผู้นี้เป็นใครงั้นหรือ?”

“เขาคือคนที่มีความสูงไม่ถึงสามฟุต และเป็นคนที่มีชื่อเสียงในพันธมิตรนักฆ่า” เห็นบาดแผลดังกล่าว โจ่วอั้นก็มั่นใจเป็นอย่างมากว่าผู้ที่ลงมือจะต้องเป็นซานชุนติ่ง

สามฟุตเท่ากับหนึ่งเมตร หรือพูดอีกอย่างก็คือ อีกฝ่ายได้โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่ส่วนสูงของเขายังไม่เหมือนผู้ใหญ่

“พวกเรากลับมองข้ามความเป็นไปได้เช่นนี้ไป เอาแต่ตามหาผู้ที่เป็นผู้ใหญ่ แต่ดันลืมไปว่าโลกนี้ยังมีสิ่งที่เรียกว่าคนแคระอยู่” เฟิ่งชิงเฉินนำมือขึ้นมาก่ายหน้าผาก

น่าละอายใจยิ่งนัก น่าขายหน้าสิ้นดี หากศิษย์พี่ของนางรู้เรื่องนี้ คงจะสังหารนางด้วยมีดผ่าตัด

ไม่ปล่อยความเป็นไปได้ใด ๆ ให้เล็ดลอดไปได้! บ้าที่สุด......

“นี่เป็นสถานการณ์พิเศษ คิดไม่ถึงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร” นี่ถือเป็นคำปลอบใจของเสด็จอาเก้า เฟิ่งชิงเฉินสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ พร้อมกับพยักหน้า

“ไปจับตัวอีกฝ่ายกันเถอะ เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์มันแย่ไปมากกว่านี้” เฟิ่งชิงเฉินรู้ว่าตนเองไม่ใช่ผู้ที่มีหน้าที่สืบค้นเกี่ยวกับคดีความ เมื่อพลาดไปแล้ว นางก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากถึงเพียงนั้น

“ข้าจะไปกับพวกเจ้า คนผู้นั้นเจ้าเล่ห์เป็นอย่างมาก วรยุทธ์ก็ไม่ธรรมดา เขาชอบทำตัวเหมือนเด็ก หากปล่อยให้เขาหนีไปได้ คงยากที่จะจับตัว” เด็กคนหนึ่ง เมื่ออยู่ในฝูงชนจำนวนมาก แน่นอนว่าจะถูกมองว่าไม่เป็นอันตราย และคนจำนวนมากก็มักจะถูกเขาหลอก

ในคืนนี้ ทุกคนคงจะไม่ได้นอนเป็นแน่ เพื่อป้องกันอันตราย เสด็จอาเก้าจึงพาคนของเขาออกไปตามสิ่งที่เรียกว่า “เด็ก” เป็นการส่วนตัว

ในเมื่อแห่งนี้ มู่เหลียวได้ทำการตรวจสอบมาอย่างชัดเจนแล้วว่า ในบ้านแต่ละหลังมีใครอาศัยอยู่บ้าง ในวัดที่รกร้างมีคนประเภทไหนอาศัยอยู่ ทันทีที่เสด็จอาเก้าเอ่ยถึงลักษณะของซานชุนติ่ง มู่เหลียวก็ออกไปตามหาที่วัดหลาย ๆ แห่ง

“คนที่เดินทางมาจากด้านนอก ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ พวกเขาต่างมาอาศัยอยู่ที่นี่เป็นเวลาชั่วคราว”

“โจ่วอั้น โต้วโต้ว พวกเจ้าพาคนไปยังสองสถานที่นี้” เสด็จอาเก้านำแผนที่ออกมา ชี้ไปยังสถานที่สองแห่งบนแผนที่ แบ่งให้เป็นหน้าที่ของโจ่วอั้นและโต้วโต้ว ส่วนอีกสองสถานที่ที่เหลืออยู่ เขาจะเป็นไปตรวจสอบด้วยตัวเอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ