อ่านสรุป บทที่ 1312 เดินทาง, ช่วยตามหาฆาตกรที่แท้จริง จาก นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย
บทที่ บทที่ 1312 เดินทาง, ช่วยตามหาฆาตกรที่แท้จริง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายInternet นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย อาช้าย อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
เหตุใดกระบวนท่าของอีกฝ่ายช่างคุ้นเคยยิ่งนัก?
โจ่วอั้นและโต้วโต้วมองไปที่อีกฝ่ายพร้อมกัน แต่ที่นี่นั้นมืดสนิท ประกอบกับอีกฝ่ายโจมตีเข้ามาอย่างหนักหน่วง ทำให้โจ่วอั้นและโต้วโต้วหมดโอกาสที่จะพูดคุยหรือสื่อสารกัน
ทั้งสองคนหมดหนทาง ทำได้เพียงเพ่งสมาธิไปกับการต่อสู้ สายลับหลายคนต่อสู้กับคนเพียงคนเดียว เมื่อเวลาผ่านไป โจ่วอั้นและโต้วโต้วก็ยากที่จะรับมือ
คนกลุ่มหนึ่งต่อสู้กันในความมืดอย่างดุเดือด หลังจากนั้นไม่นาน องครักษ์และทหารม้าสิบแปดแห่งตระกูลซื่อก็ปรากฏตัว
ทหารม้าสิบแปดแห่งตระกูลซื่อรู้ตำแหน่งของอีกฝ่ายตั้งนานแล้ว พวกเขาหยิบคันธนูขึ้นมาเล็งไปยังเงาของผู้บุกรุก องครักษ์เองก็ปฏิบัติหน้าที่ของตนเองเป็นอย่างดี เข้าไปล้อมที่เกิดเหตุเอาไว้
คบเพลิงส่องสว่างทั่วทั้งลานราวกับแสงในตอนกลางวัน แม้แต่หลังคาเองก็ยังส่องสว่าง อย่างไรก็ตาม ทุกคนตกตะลึงเมื่อเห็นภาพนี้
“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?” โจ่วอั้นและโต้วโต้วเห็นอีกฝ่ายเป็นคนคุ้นเคย เขาจึงรีบหยุดมือในทันที แต่สายลับไม่อาจหยุดมือไว้ได้ทัน ดาบของเขาพุ่งออกไปแล้ว หลังจากได้เห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใคร สายลับก็ทำได้เพียงเบี่ยงวิถีดาบ หลังจากนั้น......
เนื่องจากรากฐานไม่มั่นคง ทำให้เขาล้มลงไปในทันใด
โจ่วอั้นและโต้วโต้วไม่มีเวลามาเห็นใจพวกเขา ในขณะที่สายลับตกอยู่ในความงุนงง จากนั้นก็เตะอีกฝ่ายไปทีละคน “ปีกกล้าขาแข็ง ใช้กระบวนท่าที่ข้าสอน มาต่อกรกับข้า”
โต้วโต้วสบถออกมา บ่งบอกถึงความไม่พอใจของเขา
สายลับถูกเตะลงมาจากด้านบน ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่เมื่อเผชิญหน้ากับโจ่วอั้นและโต้วโต้ว สายลับก็ทำได้เพียงระงับความโกรธเอาไว้ เนื่องจากพวกเขาก็ทนทุกข์ทรมานด้วยเนื้อมือของโจ่วอั้นและโต้วโต้วมาไม่น้อย
ทหารม้าสิบแปดแห่งตระกูลซื่อเป็นคนฉลาด เมื่อเห็นว่าไม่เป็นอันตรายก็รีบถอยไปในทันใด
ในบางครั้ง ยิ่งคนรู้น้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งปลอดภัย
“เสด็จอาเก้าอยู่ที่นี่?” โจ่วอั้นไม่ได้หน้าด้านเหมือนกับโต้วโต้วที่จะระบายความโกรธใส่สายลับ ตอนนี้เรื่องที่เกิดขึ้นกับตงหลิงสำคัญกว่า
“ใช่ เสด็จอาเก้าและแม่นางเฟิ่งอยู่ที่นี่ คุณชายโจ่วกรุณารอสักครู่ ข้าจะเข้าไปรายงาน” หัวหน้าองครักษ์เองก็รู้จักโจ่วอั้น แต่โจ่วอั้นกลับไม่รู้จักเขา
“ไม่เป็นไร พวกข้าเข้าไปเองก็ได้ เจ้าแค่บอกข้าว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน” โต้วโต้วทำเป็นสนิทมากกว่า
เขาคิดจะทำให้เฟิ่งชิงเฉินตกใจกับการปรากฏตัวของเขา
เมื่อเห็นสีหน้าที่ดูลำบากใจของหัวหน้าองครักษ์ โจ่วอั้นก็อยากจะตบปากของโต้วโต้วในทันที
ในเวลาเช่นนี้ เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินต้องกำลังนอนอยู่เป็นแน่ เมื่อสักครู่ที่พวกเขาเข้ามาตรวจสอบ ก็ไม่เห็นว่าจะมีห้องไหนเปิดไฟแม้แต่ห้องเดียว
โจ่วอั้นส่งสายตาไปยังโต้วโต้ว แต่โต้วโต้วกลับมองไม่เห็น เขาเอาแต่เร่งให้องครักษ์พาเขาไปหาเสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉิน และเน้นย้ำองครักษ์ว่า ไม่บอกเฟิ่งชิงเฉินให้รู้เกี่ยวกับการมาถึงของพวกเขา ไม่เช่นนั้นนางคงไม่รู้สึกตกใจอะไร
องครักษ์ทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงส่งสายตาให้สายลับ ให้สายลับเข้าไปรายงานก่อน เพื่อป้องกันให้โต้วโต้วผู้นี้บุกเข้าไปในห้องของแม่นางเฟิ่งกับท่านอ๋อง
ต้องรู้ก่อนว่าโต้วโต้วเป็นคนที่ทำเรื่องเช่นนั้นออกมาได้
องครักษ์ไม่มีความกล้ามากพอที่จะพาโต้วโต้วเข้าไปในห้องของเฟิ่งชิงเฉิน พวกเขาโน้มน้าวทุกวิถีทาง ภายใต้ความช่วยเหลือของโจ่วอั้น ในที่สุดโต้วโต้วก็ยอมจำนน และยอมไปรอพวกของเฟิ่งชิงเฉินอยู่ที่เรือนดอกไม้
เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินเองก็เดินออกมาอย่างรวดเร็ว ไม่ปล่อยให้โต้วโต้วรอนาน
เมื่อโต้วโต้วได้เห็นเฟิ่งชิงเฉินก็ถึงกับนั่งไม่ติด พุ่งตรงไปข้างกายของเฟิ่งชิงเฉิน ไม่เห็นใบหน้าอันเยือกเย็นของเสด็จอาเก้าอยู่ในสายตา ดึงแขนของเฟิ่งชิงเฉินและกล่าวออกมาว่า “เฟิ่งชิงเฉิน ดูเร็ว ดูเร็ว ข้าช่วยเจ้าพาโจ่วอั้นกลับมาแล้ว”
ท่าทางที่ภาคภูมิใจของเขา ช่างทำให้รู้สึกคันไม้คันมือยิ่งนัก
“โต้วโต้ว เจ้าช่างน่าทึ่งยิ่งนัก” เฟิ่งชิงเฉินกระตุกริมฝีปากเพื่อเอาใจเขา
“มันแน่นอนอยู่แล้ว ข้าเองก็คิดว่าข้านั้นสุดยอด เพียงแต่......เฟิ่งชิงเฉิน ข้าบอกไปแล้วว่าอย่าเรียกข้าว่าโต้วโต้ว เรียกข้าว่าโอวหยาง ไม่เช่นนั้นข้าจะไม่ไว้หน้า” สำหรับชื่อเรียก โต้วโต้วค่อนข้างแน่วแน่เป็นอย่างมาก
เส้นเลือดสีดำปรากฏบนใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉิน แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่มีความสุขของเฟิ่งชิงเฉิน อารมณ์ของนางก็ดีขึ้นไม่น้อย
เฟิ่งชิงเฉินเล่าเรื่องการตายของผู้อาวุโสเหวินหยวนออกมา โต้วโต้วได้ยินเช่นนี้ก็พอเข้าใจเรื่องราวอยู่บ้าง แต่โจ่วอั้นกลับรู้สึกแปลกใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เขาจึงถามออกมาว่า “นี่ไม่ใช่นิสัยของเจ้าเลย เสด็จอาเก้า เหตุใดเจ้าถึงเปิดช่องโหว่ให้ผู้อื่นโจมตีได้ถึงเพียงนี้”
แม้ว่าจะไม่สามารถปกปิดเรื่องที่ตงหลิงเดินทางไปรับผู้อาวุโสเหวินหยวนได้ การเดินทางจำเป็นต้องเปิดเผย เพื่อแสดงให้เห็นว่าตงหลิงนั้นให้ความสำคัญกับผู้อาวุโสเหวินหยวน แต่ด้วยความสามารถและความเข้าใจของเสด็จอาเก้า เขาไม่น่าจะปล่อยให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น เมื่อถึงพื้นที่ของตงหลิงก็ลงมือสังหารผู้อาวุโสเหวินหยวน มันเป็นเรื่องที่อยู่ใต้จมูกของตงหลิง
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเสด็จอาเก้า ทั้งหมดเป็นเพราะผู้อาวุโสเหวินหยวนใจร้อนและลงมาจากรถม้า และห้ามไม่ให้คนรอบกายของเขาไปหาเสด็จอาเก้า” เฟิ่งชิงเฉินกล่าวออกมาเพื่อช่วยเสด็จอาเก้าอธิบาย
ผู้อาวุโสเหวินหยวนเป็นคนอย่างไร เฟิ่งชิงเฉินรู้และเข้าใจดี เรื่องที่เขาอยากทำ ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถมาขวางเขาได้ทั้งนั้น
“ผู้อาวุโสเหวินหยวน? เขาไม่รู้หรืออย่างไรว่าเขาอยู่ในตำแหน่งที่อันตรายมากเพียงใด? หรือว่าเขาอยากตาย?” โจ่วอั้นไม่เข้าใจ ด้วยอาชีพมือสังหารที่เขาทำมาเป็นเวลาหลายปีมันทำให้เขารู้ว่า ยิ่งมีอำนาจมากขึ้นเท่าไหร่ คนพวกนั้นก็ยิ่งกลัวความตายมากขึ้นเท่านั้น
การที่ผู้อาวุโสเหวินหยวนทำเช่นนั้น ในสายตาของเขามันก็ไม่ตายอะไรกับการรนหาที่ตาย
เสด็จอาเก้าหลับตาลงพร้อมกล่าวว่า “บางทีก็อาจจะเป็นเช่นนั้น เขาคิดว่าไม่มีใครกล้าทำอะไรเขา เพราะตัวตนของเขายากที่จะเข้าถึง”
ใช่ ไม่มีใครกล้าแตะต้องผู้อาวุโสเหวินหยวน แค่ลงมือก็จะเหลือร่องรอยเป็นแน่ ขอแค่หาผู้ลงมือเจอ ชื่อเสียงของอีกฝ่ายก็จะสูญสิ้นในทันใด
ผู้อาวุโสเหวินหยวนเป็นเพียงแค่บัณฑิตคนหนึ่ง เขาไม่เป็นมิตรกับผู้มีอำนาจใด ๆ ชีวิตและความตายของเขาไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์โดยรวม ดังนั้นจึงไม่มีใครคิดที่จะเข้ามาทำร้านผู้อาวุโสเหวินหยวน
“สุภาพบุรุษนั้นกล้าหาญ ผู้อาวุโสเหวินหยวนเองก็คิดไม่ถึงว่าจะมีใครมาลอบสังหารเขาเช่นนี้ เขาเพิ่งจะถึงตงหลิง มีลูกศิษย์เข้ามาไถ่ถามความเป็นอยู่ของเขา หากเขาปฏิเสธออกไปคงไม่ใช่เรื่องดี” เฟิ่งชิงเฉินคิดว่าการที่ผู้อาวุโสเหวินหยวนลงไปจากรถม้านั้นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
สำหรับบัณฑิต ชื่อเสียงเป็นสิ่งสำคัญ มารยาทเองก็สำคัญมากเช่นกัน มีบัณฑิตชื่อดังมากมายต้องการที่จะมาพบกับผู้อาวุโสเหวินหยวน หากผู้อาวุโสเหวินหยวนไม่ยอมลงจากรถม้า เขาก็จะถูกคนเหล่านั้นสาปแช่งนินทา กล่าวหาว่าเขาถือตัวและเย่อหยิ่ง
การเป็นคนมีชื่อเสียงก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน
“ตอนนี้ ถามเรื่องพวกนี้ออกมาก็ไม่มีประโยชน์ ไม่ว่าตอนนั้นผู้อาวุโสเหวินหยวนจะลงจากรถม้าด้วยเหตุผลอะไร มันก็ไม่สามารถเปลี่ยนความจริงที่ว่าเขาตายไปแล้วกลับมาได้ เวลานี้สิ่งที่พวกเราต้องทำคือการหาตัวฆาตกร คนของตระกูลจ้านกำลังเดินทางมา ข่าวการตายของผู้อาวุโสเหวินหยวนไม่อาจปกปิดเอาไว้ได้” เฟิ่งชิงเฉินเห็นเสด็จอาเก้าและโจ่วอั้นไม่พูดอะไร นางจึงกล่าวเสริมออกมา
โจ่วอั้นยิ้มอย่างนิ่งสงบ มองไปที่เสด็จอาเก้าและกล่าวออกมาว่า “เรื่องนี้ไม่แน่ว่าข้าอาจจะช่วยเจ้าได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...