นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1311

เฟิ่งชิงเฉินดีกับเจ้า?

กำลังล้อเล่นกับข้าอยู่หรือไง เฟิ่งชิงเฉินก็แค่ไม่สังหารโต้วโต้วเท่านั้น หากการไว้ชีวิตเรียกว่าดี เช่นนั้นในโลกนี้ยังมีสิ่งใดที่เรียกว่าไม่ดีอีกอย่างงั้นหรือ?

อีกอย่าง ที่เฟิ่งชิงเฉินไม่สังหารโต้วโต้ว มันก็ไม่ใช่เพราะว่านางดีต่อโต้วโต้ว แต่เป็นเพราะนางไม่กล้าลงมือสังหารโต้วโต้วมากกว่า

โจ่วอั้นสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ระงับความโกรธในหัวใจ กัดฟันและพูดออกมาว่า “ใครบอกเจ้าว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของเสด็จอาเก้า?” ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ เขายังไม่เคยพูดเช่นนั้นออกมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว

“มันคือการคาดเดาของข้า ข้าเก่งใช่ไหม?” ความภาคภูมิใจปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของโต้วโต้ว ยืดอกรับคำชื่นชมอย่างผ่าเผย ทำท่าเหมือนอยากให้โจ่วอั้นรีบกล่าวชื่นชมเขา

หากไม่ใช่เพราะยังอยากถามเรื่องของเด็กคนนั้นจากปากของโต้วโต้ว โจ่วอั้นคงต่อยเขาไปตั้งนานแล้ว

ใบหน้าของโต้วโต้วมันช่างน่าล่อตาล่อใจยิ่งนัก!

“ตอนนี้เด็กคนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง?” ความริษยาในใจของผู้หญิง เขาเคยเห็นมาก่อน แม่ที่เป็นองค์หญิงของเขา ได้ทรมานพ่อที่เป็นอัครมหาเสนาบดีไม่น้อย ไม่อย่างนั้นพ่อของเขาคงไม่มีทายาทจำนวนมาก และแต่ละคนก็ไม่ได้โตมาเป็นผู้ใหญ่

“ข้าไม่รู้ ก่อนที่ข้าจะออกมา ซือสิงเป็นคนดูแลเขา ซึ่งซือสิงก็เอาใจใส่เป็นอย่างดี” โต้วโต้วเอียงศีรษะ พยายามคำหน้าตาของเด็กคนนั้น สุดท้ายเขาจำได้เพียงแค่ถุงอึที่เขานำไปทิ้ง ซึ่งทำให้เขารู้สึกเหม็นจนแทบอาเจียน

โจ่วอั้นคิดมาตลอดว่าโต้วโต้วนั้นเป็นคนที่พึ่งพาไม่ได้ ในเมื่อรู้แล้วว่าน้องเล็กของเขาไม่เป็นไร โจ่วอั้นก็เลือกที่จะไม่ถามอีกต่อไป แม้ว่าเฟิ่งชิงเฉินจะโหดเหี้ยมและเลือดเย็น แต่ในเมื่อนางไม่เลือกที่จะลงมือสังหารเด็กตั้งแต่แรก หลังจากนั้นนางก็คงไม่มีทางลงมือเป็นแน่ อย่างมากที่สุดก็แค่ไม่อยากเห็นหน้าเด็กคนนั้น

น้องชายจากตระกูลของตนเอง เขาไม่ได้ต้องการให้เฟิ่งชิงเฉินดูแลเป็นอย่างดี แต่เรื่องการอธิบายนั้นเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ว่าอย่างไรน้องชายคนนี้ของเขาก็ต้องอยู่ในการเลี้ยงดูของเฟิ่งชิงเฉิน เนื่องจากเขาเป็นชายผู้ยิ่งใหญ่ ไม่อาจเลี้ยงดูเด็กเล็กและพาไปไหนต่อไหนได้

หลังจากลงจากภูเขา โจ่วอั้นก็มอบอาหารให้กับโต้วโต้วกินจนอิ่มท้อง จากนั้นทั้งคู่ก็ทำการจัดข้าวของและจัดการตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้คนภายนอกที่ได้เห็นตกใจ

อยู่บนภูเขามาเดือนกว่า ไม่ว่าจะดูแลตัวเองดีแค่ไหนก็ไม่อาจชำระล้างร่างกายจนสะอาดหมดจรดได้ สภาพของพวกเขาดูมอมแมม แต่โจ่วอั้นก็ไม่สนใจ การมีสภาพเช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะช่วยทำให้ป้องกันไม่ให้ถูกค้นพบ

ในฐานะมือสังหาร เขามีวิธีการปลอมตัวอยู่มากมาย หลังจากที่พวกของโจ่วอั้นสร้างตัวตนและสถานะปลอมแปลง เขาก็พาโต้วโต้วออกเดินทางอย่างโจ่งแจ้ง เพียงแต่......

โจ่วอั้นวางแผนทุกอย่างมาเป็นอย่างดี แต่สิ่งเดียวที่คิดไม่ถึงก็คือความแปลกประหลาดของโต้วโต้ว ระหว่างการเดินทาง เด็กคนนี้เอาแต่พูดออกมาน้ำไหลไฟดับ สุดท้ายจึงทำให้โจ่วอั้นตกเป็นเป้าสายตาขององค์หญิงใหญ่อีกครั้ง

โชคดีที่โจ่วอั้นอาศัยอยู่บนภูเขามานาน สภาพของเขาในตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับคนในยุคหิน นอกจากนี้ยังมีการปลอมตัวเพื่อปกปิดใบหน้า ทำให้ผู้คนไม่อาจสังเกตได้โดยง่าย ไม่อย่างนั้นหากองค์หญิงใหญ่รู้ว่าคนลงมือคือโจ่วอั้น นางคงไม่มีทางเชื่อว่าเด็กคนนั้นได้จากไปแล้ว

แม้ว่าองค์หญิงใหญ่จะไม่เคยเลี้ยงดูโจ่วอั้น แต่นางก็รู้นิสัยของโจ่วอั้นเป็นอย่างดี ไม่อย่างนั้นโจ่วอั้นก็คงไม่มีทางช่วยนางสังหารผู้คน

บาดแผลของโจ่วอั้นหายดีมากแล้ว ประกอบกับมีโต้วโต้วอยู่ข้างกาย แม้ว่าจะถูกผู้คนไล่ล่า แต่ก็ยังดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียหายอะไรมากนัก แต่พวกเขาก็ถูกจับตาดูอย่างใกล้ชิด ทั้งสองคนจึงไม่กล้าเดินทางกลับไปตงหลิงโดยตรง แต่เลือกที่จะเข้าไปในดินแดนหนานหลิงก่อน จากนั้นค่อยคิดหาวิธีเดินทางจากหนานหลิงไปยังตงหลิง

ในเวลานี้หนานหลิงกำลังเปิดศึกกับเป่ยหลิง ก่อนหน้าได้รับการข่าวร่วมมือกันระหว่างองค์หญิงใหญ่กับหนานหลิงจิ่นฝาน หลังจากโจ่วอั้นและโต้วโต้วแทรกซึมเข้าไปในหนานหลิง คนขององค์หญิงใหญ่ก็ไม่กล้าเคลื่อนไหว กลัวว่าเมื่อตนเองเข้าไปในดินแดนหนานหลิง จะถูกบดขยี้ในทันที

“ฮู้ว......ในที่สุดก็หนีออกมาจากดินแดนของนางเสือร้ายได้สำเร็จ คนอย่างนางไม่มีทางตายดีเป็นแน่” ไม่ง่ายเลยกว่าที่โต้วโต้วจะข้ามผ่านสองวันนี้มาได้ และสุดท้ายก็ถูกคนขององค์หญิงใหญ่บังคับให้หลบ ๆ ซ่อน ๆ ทำให้เขารู้สึกหดหู่ใจเป็นอย่างมาก

โจ่วอั้นมองมาที่โต้วโต้วด้วยสายตาอันเยือกเย็น “นางเสือร้ายที่เจ้าพูดถึง นางคือแม่ของข้า”

ไม่ว่าเขาจะไม่อยากเห็นหรือไม่ชอบใจองค์หญิงใหญ่เพียงใด แต่โจ่วอั้นก็ไม่อยากได้ยินโต้วโต้วพูดเช่นนี้ออกมาต่อหน้าเขา เนื่องจากอย่างน้อยนางก็เป็นแม่ผู้ให้กำเนิดเขามา

“ปัง” โต้วโต้วตบปากของตัวเอง “ข้าผิดไปแล้ว เอาล่ะ เอาล่ะ พวกเขามาพักผ่อนกันเถอะ พรุ่งนี้ค่อยออกเดินทางกลับตงหลิง ข้าคิดถึงเฟิ่งชิงเฉินกับซือสิงแล้ว ไม่ได้เจอพวกเขามาสองเดือน เฟิ่งชิงเฉินและซือสิงจะต้องคิดถึงข้าเป็นแน่”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ