แม้ว่าคนร้ายจะถูกจับได้แล้วก็ตาม เสด็จอาเก้าก็สั่งให้ยกเลิกการปิดเมือง เมืองนี้ยังคงเป็นเมืองที่เข้าง่ายแต่ออกยาก คนธรรมดาทั่วไปจึงไม่คิดที่จะเข้าไป แต่ถ้าพวกสายลับที่มีเจตนาแอบแฝงเข้ามาแล้วก็ยากที่จะได้กลับออกไป
เมืองชายแดนปกติก็เงียบอยู่แล้ว เมื่อเสด็จอาเก้าประกาศภาวะฉุกเฉินยิ่งทำให้เมืองนี้ยิ่งเงียบเหงาขึ้นไปอีก ผู้คนที่สัญจรไปมาบนถนนต่างเดินเบา ๆ ไม่กล้าส่งเสียงดัง ร้านค้าที่ตะโกนขายของระหว่างสองข้างทางก็หายไปหมด หากไม่มีความจำเป็นก็ไม่มีใครกล้าออกบ้าน
ช่วงแรก ๆ ราษฎรต่างตื่นตระหนก เกรงว่าเจ้าหน้าที่ทางการจะจับคนไปสุ่มสี่สุ่มห้า แต่หลังจากรอดูสถานการณ์ไปสองสามวันก็พบว่าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น จึงออกมาทำการทำงานกันตามปกติ
การมาถึงของหวังจิ่นหลิง ไม่ได้สร้างความวุ่นวายมากมากนัก มีเพียงไม่กี่คนที่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ หวังจิ่นหลิงเองก็เดินทางอย่างเงียบ ๆ ไม่มีใครรู้ว่าชายที่ขี่ม้าทั้งวันทั้งคืนคนนี้เป็นคุณชายที่มีชื่อเสียง
คนอื่นไม่รู้ ใช่ว่าเสด็จอาเก้าจะไม่รู้ หวังจิ่นหลิงเพิ่งจะเดินทางถึงหน้าประตูเมือง ก่อนที่เขาจะเผยสถานะของเขา เสด็จอาเก้าได้ส่งคนของเขาไปรอต้อนรับเขาอยู่ก่อนแล้ว พวกเขาเข้าตอนรับหวังจิ่นหลิง : "คุณชายใหญ่ เชิญทางนี้..."
ผู้มาต้อนรับไม่ได้เปิดเผยตัวตนของเขา แต่เมื่ออยู่ที่นี่ ก็มีแต่คนของเสด็จอาเก้าเท่านั้น หวังจิ่นหลิงจึงไม่ได้ขัดขืนและติดตามผู้มาต้อนรับเข้าไปในเมืองแต่โดยดี
รูปลักษณ์ของเขาตอนนี้ดูเหนื่อยล้ามาก และเขาต้องการอาบน้ำก่อนถึงจะออกไปพบปะผู้คน
สองชั่วโมงต่อมา นอกจากสีหน้าดูแย่นิดหน่อยแล้ว แต่หวังจิ่นหลิงก็ยังคงเป็นคุณชายใหญ่ผู้สูงศักดิ์คนนั้น เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาต้องเผชิญลมฝน ดังนั้นจึงทำให้เขาดูหนักแน่นและเหมือนผู้ใหญ่มากขึ้น
เสด็จอาเก้าไม่ได้ให้จั่นเหยียนไปพบหวังจิ่นหลิง และไม่ได้บอกเฟิ่งชิงเฉินว่าหวังจิ่งหลิงได้มาถึงแล้ว แต่เชิญเขาเข้าไปในห้องหนังสือเลยทันที
มีเรื่องบางเรื่อง พวกเขาจำเป็นต้องคุยกันให้เสร็จก่อน ถ้าไม่มีเหตุผิดพลาดอะไร ช่วงบ่ายคนของตระกูลจั่นก็จะมาถึงกันแล้ว
ชายหนุ่มทั้งสองคนมองหน้ากัน เหมือนมีประกายไฟแวบขึ้นทันทีที่ทั้งสองสบตากัน ทั้งสองรีบดึงสายตาไปที่อื่นทันที และทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ไม่มีการเสแสร้งทำเป็นทักทายกัน หวังจิ่นหลิงก็ไม่ต้องการการทักทายจากเสด็จอาเก้า เขานั่งลงที่นั่งด้านหน้า เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วถามว่า: "เกี่ยวกับเรื่องนี้ ท่านต้องมีคำอธิบายหน่อยไหม "
“เจ้าต้องการฟังคำอธิบายแบบไหน? เครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับตระกูลหวังนั้น สิ่งที่ข้าสามารถสืบได้ เป็นไปไม่ได้ที่คุณชายใหญ่จะสืบไม่ได้” เสด็จอาเก้าเอนหลังบนเก้าอี้ ท่าทางดูผ่อนคลายไม่ได้จริงจังมากนัก
ไม่มีสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างเขาทั้งสองคน และไม่มีการปะทะกัน แต่บรรยากาศในห้องหนังสือกลับกดดันอย่างยิ่ง หวังจิ่นหลิงขมวดคิ้วเล็กน้อย และพูดอย่างตรงไปตรงมา: "ท่านอาจารย์ตายเพราะท่าน แม้ว่าคนที่ลงมือจะไม่ใช่ท่าน ยังไงท่านก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้”
ถ้าไม่ใช่เพื่อกดดันเสด็จอาเก้าแล้ว คนเหล่านั้นคงไม่ลงมือสังหารอาจารย์เหวินหยวน เป็นเพราะเสด็จอาเก้าที่ทำให้อาจารย์เหวินหยวนต้องตาย ไม่ว่าอย่างไรเสด็จอาเก้าก็ต้องให้คำอธิบายแก่พวกเขา
เกี่ยวกับเรื่องนี้เสด็จอาเก้าก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ หากเขาไม่ได้รับข้อมูลเมื่อวานนี้ ด้วยข้อมูลชิ้นนั้น ก็ยากที่จะบอกว่าอาจารย์เหวินหยวนนั้นตายเพราะใคร
เสด็จอาเก้าไม่อยากเสียเวลาพูดมากเกินไป จึงได้เอาข้อมูลชิ้นนั้นออกมาจากลิ้นชัก แล้ววางมันไว้บนโต๊ะ: "คุณชายใหญ่ เจ้าควรดูสิ่งนี้ก่อน แล้วเราค่อยมาคุยกันว่าท่านอาจารย์นั้นตายเพราะใคร"
ด้วยหลักฐานชิ้นนี้ ไม่ว่าหวังจิ่นหลิงหรือคนในตระกูลจั่น ก็ต้องยอมรับ
หวังจิ่นหลิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อเห็นเสด็จอาเก้านิ่งสงบเช่นนี้ ในใจของเขากลับรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย ลุกขึ้นยืนแล้วหยิบข้อมูลชิ้นนั้นขึ้นมา เขายืนอยู่หน้าโต๊ะและเริ่มเปิดอ่าน หวังจิ่นหลิงยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา
“มันเป็นไปไม่ได้” แผ่นกระดาษหลุดร่วงลงจากมือของหวังจิ่งหลิง และกระจัดกระจายไปทั่วพื้น หวังจิ่นหลิงถอยหลังด้วยความตกใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...