เจ้ารู้ตั้งนานแล้วไม่ใช่หรือไงว่าข้าคือทายาทของเฟิ่งหลีอ๋อง?
นี่เป็นคำตอบที่ซื่อสัตย์ หรือเป็นคำโกหกที่ใสสะอาด?
เสด็จอาเก้าจ้องมองเฟิ่งชิงเฉินอยู่พักใหญ่ สุดท้ายก็พยักหน้าออกมา “ใช่”
“รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่? เหตุใดจึงไม่ยอมบอกข้าตั้งแต่แรก?” คำตอบนั้นอยู่ในการคาดเดาของเฟิ่งชิงเฉิน แม้ว่าจะรู้สึกไม่สบายใจอยู่เล็กน้อย แต่มันก็ยังเป็นคำตอบที่พอรับได้
ครั้งนี้เสด็จอาเก้าตอบออกมาทันทีโดยไม่คิดอะไรทั้งนั้น “ก่อนหน้านี้ไม่นาน แต่ตอนนั้นยังไม่มีหลักฐาน พูดออกไปเจ้าก็ไม่มีทางเชื่อ”
ก่อนหน้านี้ไม่นานนั้นคือนานแค่ไหน?
เฟิ่งชิงเฉินคิดจะถามออกไป แต่นางก็เลือกที่จะกลืนคำถามนี้กลับเข้าไปในลำคอ หากถามมากไปกว่านี้ นางจะต้องถีบเสด็จอาเก้าตกจากเตียงเป็นแน่ ส่วนเรื่องว่านางจะเชื่อหรือไม่ ดูเหมือนว่ามันจะไม่เกี่ยวอะไรกับที่เสด็จอาเก้าจะพูดหรือไม่พูดมันออกมา
เฟิ่งชิงเฉินชำเลืองมองเสด็จอาเก้าด้วยหางตา ไม่ได้ถามอะไรไปมากกว่านี้
เสด็จอาเก้าแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก รีบเปลี่ยนเรื่องไปทางคนของตระกูลเฟิ่งหลีทันที เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเป่ยหลิงให้เฟิ่งชิงเฉินฟัง จากนั้นก็สรุปออกมาสั้น ๆ “ในช่วงต้นฤดูหนาว พวกเราจะเดินทางไปยังเป่ยหลิง บัวหิมะจะเบ่งบานในช่วงเวลานั้นเท่านั้น”
“เหลือเวลาอีกสองเดือนจะถึงฤดูหนาว แล้วเรื่องสมบัติของตระกูลลู่ล่ะ? ไม่สนใจแล้วอย่างนั้นหรือ?” เฟิ่งชิงเฉินทำใจยอมรับไม่ได้ สมบัติของตระกูลลู่ เหตุใดจะยอมปล่อยให้ตกไปอยู่ในมือของผู้ชายเฮงซวยอย่างตงหลิงจื่อลั่วได้ ต่อให้นางต้องโหดร้ายแค่ไหน นางก็ไม่มีทางยอมให้มันตกเป็นของตงหลิงจื่อลั่ว
“ฤดูหนาวไม่เหมาะกับการออกทะเล ลั่วอ๋องและฮองเฮาไม่มีทางเลือกออกเดินทางในฤดูหนาวเป็นแน่” เสด็จอาเก้าแอบมองท้องฟ้าเงียบ ๆ คืนนี้เฟิ่งชิงเฉินช่างโง่เขลายิ่งนัก แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจู่ ๆ เฟิ่งชิงเฉินจะหันมาถามเรื่องที่เกี่ยวกับเสด็จอาเก้าแทน
“เจ้าเข้าใจเรื่องของราชวงศ์ก่อนเป็นอย่างดี เจ้ากับราชวงศ์ก่อนมีความสัมพันธ์กันอย่างไรงั้นหรือ?” หากไม่ใช่ว่าเสด็จอาเก้าเกิดมาจากราชวงศ์ตงหลิง นางคิดสงสัยว่าเสด็จอาเก้านั้นเป็นทายาทของตระกูลหลาน
เสด็จอาเก้ายิ้มอย่างมีเลศนัย “จริงอยู่ว่าข้านั้นมีความสัมพันธ์กับราชวงศ์ก่อน แต่รายละเอียดเป็นอย่างไรนั้น เจ้าต้องไปสืบหาด้วยตัวเอง ให้ข้าพูดออกมาเช่นนี้มันไม่น่าสนใจเอาเสียเลย”
ต้องการแผ่นดินจิ่วโจว เขาจะไม่เข้าใจเรื่องราวของราชวงศ์ก่อนได้อย่างไร เฟิ่งชิงเฉินรู้ว่าในเมื่อเสด็จอาเก้ากล่าวออกมาเช่นนี้ เขาก็ไม่มีทางบอกนางออกมาโดยตรง นางจึงไม่ทวงถามอีกต่อไป
“ตอนที่ฝู่หลินไล่ล่าหลานจิ่วชิง นั่นก็เพราะว่าหลานจิ่วชิงคือทายาทของตระกูลหลาน หากเขารู้ว่าข้าคือทายาทของเฟิ่งหลีอ๋อง เขาจะสังหารข้าหรือไม่?” เมื่อเทียบกันแล้ว เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกกังวลกับเรื่องนี้มากกว่า
“ไม่มีทาง เขาไม่กล้า” หากเป็นเมื่อก่อน เขาก็คงไม่กล้ารับประกัน แต่เวลานี้เขามั่นใจเป็นอย่างมาก ฝู่หลินไม่ใช่คนที่จะเอาเรื่องเล็กน้อยมาแลกกับสิ่งอันยิ่งใหญ่ การที่จะฟื้นฟูตระกูลฝู่กลับมา ฝู่หลินจำเป็นต้องพึ่งพาเขา เช่นนั้นจะกล้าแตะต้องคนของเขาได้อย่างไร
“เป็นไปไม่ได้ก็ดีแล้ว ง่วงแล้ว ข้าอยากนอน เจ้าตามสบายเลย” เฟิ่งชิงเฉินหาวออกมา พลิกตัวนอนลงบนเตียง
วันนี้นางใช้สมองมากเกินไปแล้ว นางอยากพักผ่อน เรื่องบางเรื่องนางจำเป็นต้องไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน
พ่อของนางคือทายาทของเฟิ่งหลีอ๋อง แม่ของนางคือคนของตระกูลลู่ สถานการณ์ตอนนี้นั้นแตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง สถานะทายาทของตระกูลลู่ มันไม่ได้ทำให้นางลำบากแต่อย่างใด แต่ด้วยสถานะทายาทของเฟิ่งหลีอ๋อง มันกลับทำให้ชีวิตของนางต้องตกอยู่ในอันตราย
“อ่า......” เสด็จอาเก้าจ้องมองอ้อมกอดที่ว่างเปล่า ลดมือลงอย่างช่วยไม่ได้ ห่มผ้าให้กับเฟิ่งชิงเฉิน รอจนกระทั่งลมหายใจของเฟิ่งชิงเฉินสงบลง เขาถึงพลิกตัวลงมาจากเตียง และค่อย ๆ เดินออกไปด้านนอก
ในความมืด เฟิ่งชิงเฉินพลิกตัวของนาง ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น จ้องมองไปยังหน้าประตูด้วยแววตาอันเศร้าโศก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...