นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1368

สรุปบท บทที่ 1368 ป่วย, ฉินเป่าเอ๋อเข้าเมืองหลวง: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

สรุปเนื้อหา บทที่ 1368 ป่วย, ฉินเป่าเอ๋อเข้าเมืองหลวง – นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย

บท บทที่ 1368 ป่วย, ฉินเป่าเอ๋อเข้าเมืองหลวง ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย อาช้าย อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

หลานจิ่วชิงไม่อยากเจอฉินเป่าเอ๋อ ไม่อยากให้ความหวังกับฉินเป่าเอ๋อ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเรื่องราวทั้งหมดจะอยู่ในการควบคุมของหลานจิ่วชิง จู่ ๆ เวลานี้ก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ทำให้หลานจิ่วชิงไม่อาจรับมือได้ทัน

ตัวอย่างเช่น ฉินเป่าเอ๋อป่วย!

ในขณะที่ปู้จิงหยุนและหลานจิ่วชิงพูดคุยเรื่องสำคัญกันเสร็จ เตรียมที่จะเดินออกมา คนของศาลาเสวียนชิงก็รีบวิ่งเข้ามารายงานด้วยความร้อนรน คนยังไม่ทันเข้ามาปู้จิงหยุนก็ได้ยินเสียงของอีกฝ่ายดังขึ้นมาว่า “คุณหนูฉินล้มป่วย นายน้อยจิงหยุน คุณหนูฉินล้มป่วยแล้ว”

“แย่แล้ว เป่าเอ๋อล้มป่วย จิ่วชิง เจ้าจะไปไหนไม่ได้เด็ดขาด” ปู้จิงหยุนคว้าข้อมือของหลานจิ่วชิงไว้ จากนั้นเขาก็วิ่งออกไป

“ปล่อยข้า ข้าออกไปไม่ได้” หลานจิ่วชิงตีมือของปู้จิงหยุน ไม่มีทีท่าว่าจะออกไป

ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากไป เพียงแต่......

นอกห้องของปู้จิงหยุนเต็มไปด้วยคนของศาลาเสวียนชิง เวลานี้จึงไม่ใช่โอกาสที่ดีที่จะออกไป

“เจ้าไปดูเป่าเอ๋อกับข้า” ปู้จิงหยุนพยายามอ้อนวอนอย่างสุดกำลัง แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือการปฏิเสธที่เยือกเย็นของหลานจิ่วชิง “ไม่ไป ข้าไม่ใช่หมอ”

“จิ่วชิง ครั้งนี้เจ้าจะไม่ไปไม่ได้ ช่วงนี้อาการป่วยของเป่าเอ๋อกำเริบอยู่บ่อยครั้ง หมอบอกว่ามันเกิดจากสภาวะซึมเศร้า หากนางได้พบเจ้า ไม่แน่ว่าความหดหู่ในใจของนางอาจจะสลายหายไป” ปู้จิงหยุนแอบคิดในใจ หากเจ้าไม่ไปพบกับเป่าเอ๋อ เช่นนั้นสิ่งที่ข้าทำมาทั้งหมดก็สูญเปล่า ที่เรียกเจ้ามาที่นี่อย่างเร่งด่วน แม้ว่าจะเกี่ยวข้องกับแผนที่จิ่วโจว แต่สิ่งที่ต้องการมากกว่านั้นก็คือการทำเพื่อเป่าเอ๋อ

ภายใต้หน้ากาก หลานจิ่วชิงขมวดคิ้ว แต่เขาก็ไม่ได้ฝืนปฏิเสธอีกต่อไป “เอาคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปให้หมด”

“ตกลง” ความสุขปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของปู้จิงหยุน ขอแค่หลานจิ่วชิงยอมไปพบกับฉินเป่าเอ๋อสักครั้ง แต่ให้ยากเย็นแค่ไหนเขาก็จะทำ

เร็วเข้า ข้างกายของฉินเป่าเอ๋อไม่มีคนนอกอยู่แล้ว ปู้จิงหยุนวิ่งเข้ามาด้วยความร้อนรน เห็นว่าหลานจิ่วชิงยังอยู่ เขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก “จิ่วชิง เป่าเอ๋อได้ยินว่าเจ้ามา นางดีใจจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว”

อาการป่วยของเฟิ่งชิงเฉินนั่นเสถียรขึ้นมาทันใด แม้ว่าหลานจิ่วชิงจะไม่ใช่หมอ แต่สำหรับเป่าเอ๋อแล้ว เขาวิเศษเสียยิ่งกว่าหมอ แม้ว่าเขาจะอิจฉา แต่ของแค่เป่าเอ๋อมีความสุข เท่านั้นเขาก็สุขใจ

ใบหน้าของหลานจิ่วชิงน่าเกลียดยิ่งกว่าเดิม นี่มันไม่ได้เป็นสิ่งที่ดีเลยแม้แต่น้อย เขาหวังว่าฉินเป่าเอ๋อจะสามารถพึ่งพาปู้จิงหยุนได้บ้าง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ฉินเป่าเอ๋อยังคงทุ่มเททุกอย่างเพื่อเขา ต่อให้เขาจะเยือกเย็นแค่ไหนก็ตาม

หลานจิ่วชิงก้าวไปที่ห้องของฉินเป่าเอ๋ออย่างหนักแน่น ฉินเป่าเอ๋อได้ยินจากปากของปู้จิงหยุนว่าหลานจิ่วชิงจะมาพบนาง นางตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก ไม่มีสภาพของคนป่วยเลยแม้แต่น้อย ร่างกายของนางเต็มไปด้วยพลัง และสั่งสาวใช้ให้แต่งตัวให้นาง

“ซื่อจวน เอากระจกมาให้ข้าหน่อย”

“หวีผมให้ข้าหน่อย”

“เสื้อผ้า เอาชุดสีฟ้าที่เหมือนกับน้ำทะเลตัวนั้น”

“เปิดหน้าต่าง ท่านพี่ไม่ชอบกลิ่นยา”

“ซื่อจวน เจ้าว่าข้าดูดีแล้วหรือยัง? ท่านพี่จะชอบข้าหรือไม่?”

“คุณหนู คุณหนูได้โปรดวางใจ คุณหนูงดงามถึงเพียงนี้ ท่านเขยจะไม่ชอบได้อย่างไร” สาวใช้ที่ชื่อซื่อจวนยิ้มและพูดออกมา คำว่าท่านเขย ทำให้ใบหน้าของฉินเป่าเอ๋อกลายเป็นสีแดง “อย่าพูดจาเหลวไหล ท่านเขยอะไร ท่านเขย อย่าเรียกเช่นนั้นอีก”

แม้จะพูดออกมาเช่นนั้น แต่ความสุขที่แสดงออกมาบนใบหน้านั้นไม่อาจปกปิดเอาไว้ได้

ผู้หญิงเป็นห่วงเรื่องความสวยความงาม ฉินเป่าเอ๋อหมกมุ่นอยู่กับการแต่งหน้าแต่งตัวเป็นเวลานาน แต่นางก็ยังไม่พอใจ เนื่องจากร่างกายที่ไม่ทัดเทียมของนาง ตอนแรกนางอยากลงมาจากเตียง แต่เมื่อเดินได้สองก้าว นางก็รู้สึกได้ถึงความอึดอัด

สุดท้ายนางก็ทำได้เพียงพิงอยู่ที่หัวเตียง รอให้หลานจิ่วชิงเข้ามา เมื่อนางนั่งลงได้ไม่นาน ดวงตาคู่นั้นของนางก็จับจ้องไปที่ประตู ใบหน้าที่ซีดขาวของนางกลายเป็นสีแดง ความอ่อนโยนของนางทำให้คนที่เห็นอยากจะเข้ามาโอบกอดและปกป้องนางไว้ให้ดี

เมื่อเห็นเสื้อผ้าของหลานจิ่วชิง ดวงตาของฉินเป่าเอ๋อเป็นประกาย เงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว “ศิษย์พี่”

ด้วยความรักอันไม่มีที่สิ้นสุดและความโศกเศร้าที่อธิบายไม่ได้ ฉินเป่าเอ๋อใช้สองคำนี้เพื่อแสดงความปรารถนาของนาง และต้องการบอกกับหลานจิ่วชิงว่านางไม่ได้โกรธ

ในตอนที่หลานจิ่วชิงเดินเข้ามา ดวงตาของฉินเป่าเอ๋อไม่เคลื่อนไหว ในตอนนั้น ในสายตาของฉินเป่าเอ๋อ นอกจากหลานจิ่วชิงแล้วก็ไม่มีใครอื่น เท้าของปู้จิงหยุนผงะอยู่กับที่ ความเศร้าโศกปรากฏออกมาจากแววตาของเขา แต่หลังจากนั้นไม่นานมันก็กลายเป็นรอยยิ้มแห่งความสุข

ดูเหมือนว่าเป่าเอ๋อจะมีพลังมากขึ้น

ปู้จิงหยุนระงับความเจ็บปวดในหัวใจ วิ่งออกไปหาหมอ หมอที่เพิ่งจะออกไปถูกดึงตัวกลับมาอีกครั้ง หลังจากทำการรักษา แม้ว่าสถานการณ์ของฉินเป่าเอ๋อจะดีขึ้นบ้าง แต่......

“นายท่าน อาการป่วยของแม่นางฉินนั้นจำเป็นต้องรีบรักหา ไม่อย่างนั้นหากอาการป่วยกำเริบขึ้นมาอีกครั้ง คงไม่มีใครรักษาชีวิตของนางเอาไว้ได้” หมอที่อยู่ข้างกายของฉินเป่าเอ๋อคือหมอจากหุบเขาซวนยี หลายปีที่ผ่านมาเขารับผิดชอบในเรื่องการรักษาฉินเป่าเอ๋อมาโดยตลอด เขารู้สถานการณ์ของฉินเป่าเอ๋อเป็นอย่างดี และรู้ว่าปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีกำลังเตรียมอะไรบางอย่างอยู่

แต่เกรงว่าแม่นางฉินคงรอต่อไปไม่ไหวแล้ว

“หากกำเริบอีกครั้งก็ไม่อาจข้ามผ่านมันไปได้?” สีหน้าของหลานจิ่วชิงเปลี่ยนไป นิ้วมือของเขาสั่นเทา ดวงตาของเขาเฉียบคมยิ่งขึ้น

หัวใจของหมอสั่นสะท้าน กลืนน้ำลาย จากนั้นพยักหน้าออกมา “ขอรับ ท่านได้โปรดช่วยจัดการเรื่องของแม่นางฉินให้เร็วที่สุด” หรือว่าจะรักษาเช่นนี้ต่อไปจนรอฝังศพให้นาง

“จิ่วชิง เจ้าจะลังเลอีกต่อไปไม่ได้แล้ว” ปู้จิงหยุนช่วยพูดออกมาแทนฉินเป่าเอ๋อ เขาเดินเข้ามาด้วยใบหน้าอันเคร่งขรึม “อาการป่วยของเป่าเอ๋อต้องได้รับการรักษาในทันที ก่อนหน้านี้เฟิ่งชิงเฉินสามารถรักษาโรคหัวใจขององค์รัชทายาทคนก่อนได้ แน่นอนว่าสามารถรักษาอาการป่วยของเป่าเอ๋อได้เช่นกัน”

“ข้ารู้แล้ว” หลานจิ่วชิงไม่ได้ให้คำตอบที่แน่นอนออกมา

เขาจำเป็นต้องไตร่ตรองให้ดี

แต่ปู้จิงหยุนกลับไม่ให้เวลาหลานจิ่วชิงได้ไตร่ตรอง “จิ่วชิง เจ้าไม่อาจซ่อนตัวตนของเป่าเอ๋อไว้เพียงเพราะต้องการปิดบังความจริงจากเฟิ่งชิงเฉิน ทำเช่นนี้มันเป็นการไม่ยุติธรรมกับเป่าเอ๋อ และอาการป่วยของเป่าเอ๋อก็ไม่สามารถรออีกต่อไปได้ จิ่วชิง เจ้าอยากจะเห็นเป่าเอ๋อตายไปต่อหน้าต่อตาของเจ้าเช่นนี้อย่างนั้นหรือ?”

“ข้าบอกว่าข้ารู้แล้ว” หลานจิ่วชิงจ้องเขม็งไปที่ปู้จิงหยุน เป็นการแจ้งเตือนอีกฝ่ายว่าอย่าพูดมาก แต่ปู้จิงหยุนกลับไม่สนใจ หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับฉินเป่าเอ๋อ ไม่ว่าอะไรเขาก็ไม่หวั่นเกรงทั้งนั้น

“ในเมื่อเจ้ารู้แล้ว เช่นนั้นข้าจะเป็นคนจัดการเอง ครั้งนี้เป่าเอ๋อจะต้องกลับไปเมืองหลวงกับเจ้า ให้เฟิ่งชิงเฉินทำการรักษาให้เป่าเอ๋อ” ปู้จิงหยุนพูดจบก็เดินออกไปทันที

เขาไม่ได้กำลังเจรจากับหลานจิ่วชิง แต่เขาต้องการบอกให้หลานจิ่วชิงได้รู้ว่า เขาเป็นคนตัดสินใจเอง

อาการป่วยของเป่าเอ๋อไม่สามารถรอได้อีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าอย่างไรเป่าเอ๋อกับเฟิ่งชิงเฉินก็ต้องได้พบกัน! 

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ