บาดแผลบนใบหน้าไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการเดินทาง แต่ความมืดในช่วงเวลากลางคืนนั้นมีผลต่อการเดินทางของพวกเขา
ก่อนที่ดวงอาทิตย์จะลับขอบฟ้าและดวงจันทร์ขึ้นมาแทนที่ เฟิ่งชิงเฉินและเซวียนเส้าฉีก็ยังเดินไปไม่ถึงยอดเขา ทั้งสองคนทำได้เพียงเลือกสถานที่ที่ดูสะอาดและปลอดภัยเพื่อใช้สำหรับพักผ่อนในยามค่ำคืน รอให้เช้าแล้วค่อยออกเดินทางอีกครั้ง
“ชิงเฉิน เจ้านั่งลงก่อน ข้าขอเข้าไปดูอะไรด้านในสักเดี๋ยว เผื่อว่าจะมีผลไม้ที่สามารถกินได้อยู่บ้าง” การพักอาศัยในป่านั้นเป็นเรื่องปกติสำหรับเซวียนเส้าฉี เขามีทักษะในด้านต่าง ๆ มากมายในการทำสิ่งเหล่านี้
“ได้ เช่นนั้นข้าจะไปหาฟืนเพื่อจุดไฟ” เฟิ่งชิงเฉินไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอที่มัวแต่นั่งรอความช่วยเหลือและให้เซวียนเส้าฉีกลายเป็นสุภาพบุรุษอยู่คนเดียว หากเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ นางจะให้ความช่วยเหลือและทำมันอย่างเต็มที่
แม้ว่าเซวียนเส้าฉีจะเป็นห่วงเรื่องอาการบาดเจ็บที่มือของเฟิ่งชิงเฉิน แต่เขาก็ชอบการที่พวกเขาได้ทำอะไรร่วมกันมากกว่า จึงไม่ได้เอ่ยปากห้าม แค่เน้นย้ำกับเฟิ่งชิงเฉินไว้ว่า หากเดินออกไปแล้วเจอกับเรื่องอะไรก็ให้ตะโกนเรียกเขาทันที เขาจะไปช่วยให้เร็วที่สุด
“ไม่ต้องห่วง ข้าสามารถปกป้องตัวเองได้” เฟิ่งชิงเฉินหยิบมีดที่พกติดตัวออกมาสะบัดเพื่อโชว์ให้เซวียนเส้าฉีดู เซวียนเส้าฉีเพียงแค่ยิ้มออกมา แต่ไม่ได้พูดอะไร
เฟิ่งชิงเฉินจ้องมองเซวียนเส้าฉีจากไปจนลับสายตา เมื่อไม่เห็นเงาของเซวียนเส้าฉี นางก็หาพุ่มไม้เพื่อเข้าไปซ่อนตัว จากนั้นเปิดกระเป๋าเครื่องมือแพทย์อัจฉริยะเพื่อหยิบยาฆ่าเชื้อและยารักษาบาดแผลออกมา
จริงอยู่ว่านางไม่เห็นบาดแผลเล็กน้อยเช่นนี้อยู่ในสายตา แต่เมื่อมีโอกาส นางก็จะต้องทำความสะอาดมันสักเล็กน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้ติดเชื้อ
เกรงว่าเซวียนเส้าฉีจะสงสัย เฟิ่งชิงเฉินจึงไม่กล้าแปะผ้าพันแผล นางจึงทำความสะอาดและทายาบางชนิดเท่านั้น
ยาฆ่าเชื้อสัมผัสบาดแผล ทำให้รู้สึกแสบเล็กน้อย ประกอบกับมือซ้ายที่บาดเจ็บ ทำให้นางถือกระจกขึ้นมาไม่ได้ นางทำได้เพียงทายาโดยใช้ความรู้สึก และแน่นอนว่าก็ต้องมีผิดพลาดกันบ้าง
เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้ใส่ใจ นางใช้ผ้าพันแผลเช็ดส่วนอื่น ๆ ที่เลอะบนใบหน้า จากนั้นก็เก็บข้าวของและเริ่มออกไปเก็บฟืนเพื่อตั้งกองไฟ
นี่เป็นฤดูใบไม้ร่วง มีใบไม้มากมายร่วงหล่นอยู่ตามพื้น กิ่งไม้เป็นสิ่งที่หาง่าย เฟิ่งชิงเฉินวางใบไม้แห้งเป็นชั้น จากนั้นนางกิ่งไม้แห้งตั้งขึ้นและใช้หินในการก่อไฟ
เซวียนเส้าฉียังไม่กลับมา เฟิ่งชิงเฉินเดินไปรอบ ๆ เพื่อเก็บกิ่งไม้แห้งสำหรับเป็นเชื้อเพลิงในคืนนี้ เฟิ่งชิงเฉินไม่กล้าเดินออกไปไกลมากนัก เพราะไม่แน่ว่าอาจจะเจอกับหมาป่าหรือหมูป่าที่ดุร้าย
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เมื่อออกมาอยู่ด้านนอก หากไม่เจอกับสัตว์ร้ายพวกนี้มันก็ไม่มีอะไรต้องกลัว สิ่งที่เฟิ่งชิงเฉินกลัวที่สุดก็คือฝูงหมาป่าและหมูป่า
หมูป่านั้นแข็งแกร่งและมีหนังหนา มีดสั้นจึงไม่สามารถทำอะไรพวกมันได้ และหมูป่าก็เป็นสัตว์ที่มีกำลังมาก หากถูกพวกมันวิ่งชนคงไม่ต้องคิดว่าจะเป็นอย่างไร
กลัวอะไรได้อย่างนั้น เฟิ่งชิงเฉินเพิ่งจะนึกถึงความน่ากลัวของหมูป่า นางก็ได้ยินเสียงร้องของหมูป่าดังขึ้นมาในระยะไกล
“เสียงนี้มัน......เส้าฉีคงไม่ได้กำลังสู้กับหมูป่าอยู่หรอกนะ” เฟิ่งชิงเฉินมั่นใจเป็นอย่างมาก เสียงที่นางได้ยินนั้นจะต้องเป็นเสียงร้องของหมูป่า และมันก็ไม่ใช่เสียงของหมูป่าเพียงตัวเดียว
“ทำไมถึงโชคร้ายขนาดนี้” เฟิ่งชิงเฉินลุกขึ้นยืน กำมีดไว้ในกำมือ หันไปมองในทิศทางของต้นเสียง
นางรู้ดี การที่นางวิ่งไปนั้นมันไม่ได้เป็นการช่วยเหลือเซวียนเส้าฉี แต่เป็นการสร้างปัญหาให้อีกฝ่ายมากกว่า
เสียงคำรามดังขึ้นเรื่อย ๆ ระยะทางก็เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกเป็นกังวลว่าเซวียนเส้าฉีอาจจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
วรยุทธ์ของเซวียนเส้าฉีนั้นไม่ธรรมดา การที่ต้องเผชิญหน้ากับฝูงหมูป่านั้นก็ไม่ใช่ปัญหา เขาสามารถหนีออกมาได้ แต่นี่ก็ผ่านไปสิบห้านาทีแล้ว เสียงหมูป่ายังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง และนางก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของเซวียนเส้าฉี
“คงไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นใช่ไหม?” เฟิ่งชิงเฉินกังวลเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่กล้าเคลื่อนไหวสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะกลัวว่าอาจจะเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในอันตรายและสร้างปัญหาให้กับเซวียนเส้าฉี
ด้วยแสงจันทร์ที่สาดส่องลงมา ทำให้เห็นเงาของภูเขาเป็นชั้น ๆ มันเหมือนกับเงาของวิญญาณที่กำลังอ้าปากกว้าง แกว่งไปมาพร้อมจะกลืนกิน
แม้ว่าภูเขาในเวลากลางคืนจะน่ากลัวกว่าตอนกลางวัน แต่ทุกอย่างก็เป็นระเบียบ “เงาวิญญาณ” เหล่านั้นกวัดแกว่งไปมาแต่ไม่ได้ทำร้ายใคร เฟิ่งชิงเฉินไม่ใช่หญิงสาวที่อ่อนแอ นางเคยใช้ชีวิตอยู่ด้านนอกมาก่อน แน่นอนว่าไม่มีทางหวาดกลัวกับเรื่องพวกนี้
แต่ในตอนนั้นเอง เงาบางอย่างปรากฏออกมาทำลายสมดุล ไม่รู้เหมือนกันว่าเงานั้นออกมาจากทางไหน มันลอยอยู่บนอากาศ พุ่งเข้ามาทางที่อยู่ของเฟิ่งชิงเฉิน สายลับโบกสะบัดอย่างรุนแรง เหมือนกับวิญญาณที่ดุร้าย
อันตราย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...