นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1424

เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้กลับไปล้างหน้าที่ห้องของตนเอง แต่เดินไปห้องที่ซุนซือสิงเตรียมไว้ให้เป็นพิเศษ หยิบอุปกรณ์ นำเครื่องมือผ่าตัดออกมาทีละชิ้นเพื่อตรวจสอบ

เมื่อนึกถึงซุนซือสิง รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นมาบนมุมปากของเฟิ่งชิงเฉินอย่างไม่รู้ตัว ในโลกใบนี้ ซุนซือสิงคงเป็นคนเดียวที่เฟิ่งชิงเฉินเชื่อว่าจะไม่มีทางวางแผนและใช้ประโยชน์จากนาง

ไม่ว่าจะเวลาไหน ไม่ว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไร เขายังคงเป็นเด็กที่ใสซื่อบริสุทธิ์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น เขาจะยืนอยู่ข้างกายของนางผู้ซึ่งเป็นอาจารย์ของเขา

ต้องบอกเลยว่าแววตาของฉู่ฉางฮว๋านั้นยอดเยี่ยม แต่โชคดีที่ลูกศิษย์ของนางไม่ชอบ!

คนบริสุทธิ์เกิดมาพร้อมกับสัญชาตญาณในการหลีกเลี่ยงอันตราย นางคิดว่าซือสิงก็เป็นเช่นนั้น ไม่เช่นนั้นคนที่มีฐานะอย่างฉู่ฉางฮว๋า หากต้องการตามตื้อหรือไล่จับซือสิงจริง ๆ ก็คงไม่ใช่เรื่องยาก

กลับมาในห้อง เฟิ่งชิงเฉินอาบน้ำล้างตัวให้สะอาด เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ ก่อนที่จะออกไป นางเปิดกระเป๋าเครื่องมือแพทย์อัจฉริยะออกมาเพราะเกรงว่าอาจจะมีของจำเป็นที่ต้องใช้

“ซือสิง พวกเราไปดูแม่นางฉินกันเถอะ” เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกสนใจในตัวของแม่นางฉินเป็นอย่างมาก นางอยากจะรู้จริง ๆ ว่าผู้หญิงที่ทำให้หลานจิ่วชิงมาขอร้องให้นางช่วยชีวิตนั้น ท้ายที่สุดแล้วจะมีความพิเศษอย่างไร

นางจะต้องเป็นผู้หญิงที่งดงามและเต็มไปด้วยความเสน่ห์หา

มองเห็นฉินเป่าเอ๋อที่นอนอยู่บนเตียง มันทำให้เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกประหลาดใจมากจริง ๆ เป็นกุลสตรีดั้งเดิม อ่อนโยนและงดงาม ผู้หญิงเช่นนี้ดึงดูดให้ผู้ชายเข้ามาปกป้องได้ง่าย ดูจากท่าทางของปู้จิงหยุนที่อยู่ข้าง ๆ ก็สามารถเข้าใจได้

“ชิงเฉิน ขอแนะนำให้เจ้ารู้จัก นี่คือเพื่อนของข้า ฉินเป่าเอ๋อ เจ้าเรียกนางว่าเป่าเอ๋อก็พอแล้ว เป่าเอ๋อเป็นผู้หญิงที่เมตตาและงดงาม เจ้าจะต้องชอบนางเป็นแน่” ปู้จิงหยุนก้าวออกมาด้านหน้า แนะนำฉินเป่าเอ๋อให้เฟิ่งชิงเฉินรู้จัก เพียงแต่คำแนะนำนั้น......

เฟิ่งชิงเฉินแสดงรอยยิ้มขี้เล่นออกมา จากความหมายของปู้จิงหยุน หากนางไม่สามารถเข้ากับฉินเป่าเอ๋อได้ เช่นนั้นคนที่ไม่ดีและไม่มีน้ำใจก็คือนางอย่างนั้นหรือ?

“สวัสดีแม่นางฉิน ข้าชื่อ เฟิ่งชิงเฉิน ข้าคือหมอที่จะมาทำการรักษาเจ้า” เฟิ่งชิงเฉินไม่สนใจคำพูดของปู้จิงหยุน กล่าวทักทายออกไปอย่างสุภาพ

นางเป็นหมอ ฉินเป่าเอ๋อเป็นคนไข้ นางไม่จำเป็นต้องชื่นชอบในตัวของฉินเป่าเอ๋อ เอาล่ะ นางยอมรับ นางไม่ชอบคบหากับผู้หญิงแบบฉินเป่าเอ๋อเป็นเพื่อน

ฉินเป่าเอ๋องดงามเป็นอย่างมาก แต่ก็อ่อนแอเกินไปเช่นกัน ไม่มีท่าทางแห่งแรงกดดันใด ๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คน เป็นเพื่อนกับผู้หญิงแบบนี้มันเหนื่อยเกินไป

ฉินเป่าเอ๋อไม่รู้สึกถึงความสุภาพของเฟิ่งชิงเฉิน นางมองไปที่เฟิ่งชิงเฉินพร้อมกล่าวออกมา “แม่นางเฟิ่ง พี่จิงหยุนบอกว่าทักษะทางการแพทย์ของเจ้ายอดเยี่ยม เพื่อรักษาอาการป่วยของข้า เจ้าต้องเดินทางมาไกลหลายหมื่นลี้ ข้ารู้สึกขอบคุณเจ้ามากจริง ๆ”

ฉินเป่าเอ๋อมีดวงตากลมโตอันสวยงามคู่หนึ่ง กะพริบเล็กน้อย เป็นแววตาที่ไร้เดียงสา สามารถเอาชนะใจทุกคนได้อย่างง่ายดาย

“มันเป็นสิ่งที่ข้าควรทำอยู่แล้ว” เฟิ่งชิงเฉินยอมรับว่าฉินเป่าเอ๋อเป็นคนน่ารัก เป็นคนน่าดูแล แต่เรื่องพวกนี้มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับนาง สำหรับนาง ฉินเป่าเอ๋อเป็นเพียงผู้ป่วยเท่านั้น

ฉินเป่าเอ๋อเห็นท่าทางที่เฉยเมยของเฟิ่งชิงเฉิน รู้ว่าอีกฝ่ายไม่อยากจะใกล้ชิด นางจึงกล่าวออกไปอย่างขี้อาย “แม่นางเฟิ่ง ข้าเรียกเจ้าว่าชิงเฉินได้หรือไม่? เจ้าเองก็สามารถเรียกข้าว่าเป่าเอ๋อได้ ข้าชอบเจ้ามาก พวกเราเป็นเพื่อนกันได้หรือไม่?”

เฟิ่งชิงเฉินยิ้มออกไปโดยไม่ได้ตอบ นางเพียงกล่าวออกมาว่า “แม่นางฉิน เวลาล่วงเลยมานานมากแล้ว ข้าจำเป็นต้องตรวจสอบสภาพร่างกายของเจ้าสักเล็กน้อย เจ้าว่าอย่างไร?”

“ชิง......แม่นางเฟิ่ง เจ้ารังเกียจข้าอย่างนั้นหรือ?” ความเศร้าโศกปรากฏออกมาจากแววตาของฉินเป่าเอ๋อ นางอยากจะเป็นเพื่อนกับเฟิ่งชิงเฉินจริง ๆ

“แม่นางฉิน เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว เจ้าเป็นคนไข้ ข้าเป็นหมอ ข้าจะรังเกียจเจ้าได้อย่างไร” เฟิ่งชิงเฉินรู้ว่าแม่นางฉินผู้นี้ยังเด็ก และไม่ได้มีเจตนาร้ายแต่อย่างใด แต่นางเองก็ไม่อยากเป็นเพื่อนกับฉินเป่าเอ๋อ หากคนไข้ทุกคนชื่นชอบนาง เช่นนั้นนางจำเป็นต้องชื่นชอบอีกฝ่ายด้วยอย่างนั้นหรือ?

“ชิงเฉิน เป่าเอ๋อก็แค่ชื่นชอบเจ้าเป็นอย่างมากเท่านั้น อยากจะเป็นเพื่อนกับเจ้า เป่าเอ๋อนางไม่เคยมีเพื่อนมาก่อน นางอยู่ตัวคนเดียว นางนับถือเจ้าเป็นอย่างมาก แถมยังเตรียมของขวัญพิเศษให้กับเจ้า นางไม่ได้......”

ปู้จิงหยุนพยายามเรียกร้องให้เป่าเอ๋อ แต่เขายังไม่ทันพูดจบก็ถูกซุนซือสิงขัดเอาไว้เสียก่อน “คุณชายปู้ แม่นางฉินจะอยู่ตัวคนเดียวหรือไม่ มีหรือไม่มีเพื่อน เรื่องนี้มันก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับอาจารย์ของข้า อาจารย์ของข้าเป็นหมอ ไม่ใช่เพื่อนเล่นของแม่นางฉิน หากเป็นไปได้ขอให้แม่นางฉินยื่นมือออกมา ข้าต้องการเจาะเลือดไปตรวจ”

ฉินเป่าเอ๋องดงามมาก แต่ซุนซือสิงก็ไม่ได้ชอบนาง ไม่ชอบที่ให้ต้องให้อาจารย์ของเขาต้องเดินทางมาไกลหลายพันลี้โดยที่บาดแผลของตนเองก็ยังไม่หายดีเพื่อมารักษาให้กับนาง

“ชิงเฉิน เป่าเอ๋อนางไม่ได้มีเจตนาร้ายแต่อย่างใด ในเมื่อเจ้าเป็นหมอ เจ้าเองก็น่าจะเข้าใจความรู้สึกของผู้ป่วย เป่าเอ๋อนางอยากเป็นเพื่อนกับเจ้ามากจริง ๆ นางเคารพเจ้าเป็นอย่างมาก นางอยากจะเรียนรู้จากเจ้า เจ้าอย่าใจร้ายเช่นนี้ได้หรือไม่” เกี่ยวกับเรื่องของฉินเป่าเอ๋อ ปู้จิงหยุนไม่เคยสนใจเหตุผลใด ๆ

เช่นเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องให้เฟิ่งชิงเฉินเอ่ยปาก ซุนซือสิงกล่าวออกมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ “คุณชายปู้ หากแม่นางฉินไม่มีใจอยากจะรักษา เช่นนั้นพวกเราก็ไม่อาจรับไว้เป็นคนไข้ได้ เจ้าก็รู้ว่าอาจารย์ของข้านั้นไม่ได้ขาดแคลนคนไข้”

ซุนซือสิงมีจิตใจที่เห็นอกเห็นใจผู้อื่น แต่เขาก็เป็นคนมีเหตุผล และในใจของเขา เฟิ่งชิงเฉินคือคนที่สำคัญที่สุด

“แม่นางฉินผู้นี้เป็นใครกันแน่ เห็นอยู่ว่าอาจารย์ไม่ได้พูดอะไรสักคำ ทำตัวเหมือนกับหมอที่มาให้การรักษาเหมือนกับปกติ แต่เหตุใดอาจารย์เขาถึงได้กลายเป็นคนใจร้าย” ซุนซือสิงพึมพำออกมาด้วยความไม่พอใจ ชื่อเลี่ยนฉุ่ยและกัวเลี่ยนฉุ่ยมองไปที่ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีด้วยแววตาแห่งความสงสัย ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีเบือนหน้าหนี แสดงออกมาว่าตนเองไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น

ดวงตาทั้งสองข้างของฉินเป่าเอ๋อกลายเป็นสีแดง นางกำลังจะร้องไห้ออกมา ทำให้ปู้จิงหยุนโกรธเป็นอย่างมาก “ชิงเฉิน เจ้าไม่อยากรักษาให้กับเป่าเอ๋อมากงั้นหรือ หากไม่อยากรักษาก็พูดออกมาตามตรง ไม่จำเป็นต้องทำร้ายจิตใจเป่าเอ๋อ นางก็แค่หวังดี แต่หากเจ้าไม่รับไว้ก็ปล่อยมันไป ไม่เห็นจำเป็นต้องทำร้ายเป่าเอ๋อเช่นนี้?”

นางทำอะไร? นางไปทำให้เป่าเอ๋อโกรธตั้งแต่ตอนไหน?

เฟิ่งชิงเฉินยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น นำมือทั้งสองข้างขึ้นมากอดอด พูดอย่างเยือกเย็น “ปู้จิงหยุน พวกเราก็ถือว่าพอรู้จักกันบ้าง เจ้าเองก็น่าจะรู้ว่าข้าเป็นคนอย่างไร สำหรับข้าแม่นางฉินเป็นเพียงผู้ป่วยคนหนึ่งเท่านั้น หากผู้ป่วยทุกคนอยากเป็นเพื่อนกับข้า แล้วข้าต้องตอบรับความรู้สึกของพวกเขาทั้งหมด เช่นนั้นวัน ๆ ข้าก็คงไม่ต้องทำอะไรแล้วงั้นหรือ?”

“เป่าเอ๋อนั้นไม่เหมือนกัน”

“นั่นมันสำหรับเจ้า แต่สำหรับข้านางก็เป็นแค่เพียงผู้ป่วยคนหนึ่งเท่านั้น ปู้จิงหยุน ข้าจะถามเจ้าอีกเป็นครั้งสุดท้าย แม่นางฉินพร้อมที่จะเข้ารับการรักษาหรือไม่ หากไม่ข้าก็ขอตัวกลับก่อน เจ้าคิดว่าการที่ข้ารีบเดินทางมาตลอดทั้งวันทั้งคืนมันสบายมากหรือไง?” แม้ว่าเฟิ่งชิงเฉินไม่คิดจะเชื่อมความสัมพันธ์ที่ดีกับฉินเป่าเอ๋อ แต่เนื่องจากความสัมพันธ์ที่มีกับหลานจิ่วชิง นางจึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับอาการป่วยของฉินเป่าเอ๋อเป็นอย่างมาก ไม่อย่างนั้นนางคงไม่มีทางเดินทางมาที่นี่เพื่อรักษาอาการป่วยของฉินเป่าเอ๋อ

เพียงแต่......

เมื่อมาถูกฉินเป่าเอ๋อและปู้จิงหยุนกวนใจเช่นนี้ ความรู้สึกเหล่านั้นของนางก็เลือนหายไป

นางเป็นหมอ นางไม่ใช่คนขายหนังสือตลก เหตุใดเมื่อฉินเป่าเอ๋อบอกว่าอยากเป็นเพื่อนกับนาง และนางจะต้องยอมรับความต้องการของอีกฝ่าย

“ข้า......” ปู้จิงหยุนเห็นใบหน้าที่ซีดขาวของเฟิ่งชิงเฉิน จากนั้นก็นึกขึ้นได้ว่ามือซ้ายของเฟิ่งชิงเฉินยังไม่หายดี เขาก็รู้สึกผิด อ้าปากออกมาแต่ก็ไม่รู้ว่าควรพูดออกไปเช่นไรดี

ฉินเป่าเอ๋อดึงแขนเสื้อของปู้จิงหยุน พูดออกมาด้วยท่าทางที่น่าสงสาร “พี่จิงหยุน อย่าไปทะเลาะกับแม่นางเฟิ่งเพราะข้าเลย ข้าไม่เป็นไร”

“เป่าเอ๋อไม่ต้องกังวล แม่นางเฟิ่งจะต้องเห็นความดีของเจ้าเป็นแน่” ปู้จิงหยุนรีบปลอบใจออกไป ฉินเป่าเอ๋อพยักหน้า มองมาที่เฟิ่งชิงเฉินด้วยใบหน้าแห่งความขอโทษ “ขอโทษแม่นางเฟิ่ง ข้าแค่รู้สึกนับถือเจ้าเป็นอย่างมาก จึงหวังว่าจะสามารถเป็นเพื่อนกับเจ้าได้ ข้าไม่ได้อยากทำให้เจ้าลำบากใจแต่อย่างใด”

คำพูดที่ดูมีน้ำใจและยิ่งใหญ่ แต่มันกลับทำให้เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกเจ็บปวดยิ่งนัก

เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกโชคดีเป็นมากที่ไม่ได้ตกลงเป็นเพื่อนกับคนเห็นแก่ตัวอย่างฉินเป่าเอ๋อเพราะเห็นแก่หน้าของหลานจิ่วชิง

ผู้หญิงที่เป็นเหมือนกับผู้ขาวอย่างฉินเป่าเอ๋อ ชีวิตที่ผ่านมาของนางก็ได้สัมผัสมาไม่ได้ และนางก็เสียเปรียบกับคนพวกนี้เป็นอย่างมาก

ความระมัดระวังคือเหตุผลที่ดีที่สุดที่จะป้องกันไม่ให้ก้าวเดินไปในทางที่ผิด ต่อให้หลานจิ่วชิงออกหน้ามาด้วยตัวเอง นางก็คงไม่มีทางเป็นเพื่อนกับแม่นางฉินผู้นี้ เพราะนางไม่อยากถูกใช้จนตายไปตลอดชีวิต...... 

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ