นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 145

หมอมักจะไม่อาจรักษาตนเองได้

จู่ๆ เฟิ่งชิงเฉินก็เป็นลมหมดสติไปทำให้ทุกคนตกอกตกใจยิ่งนัก พวกเขารีบไปเชิญหมอมาที่ห้องตรวจ พบว่านางทำงานหนักเกินไปจนร่างกายอ่อนเพลีย ควรได้รับการพักผ่อนอย่างสงบ

ด้วยเหตุนี้เอง โจวสิงเหมือนกับดาบที่คอยปกป้องเฟิ่งชิงเฉิน หลังจากที่เฟิ่งชิงเฉินฟื้นขึ้นมาแล้วเขาก็จำกัดอิสระของนาง

นอกจากทำการตรวจอาการให้แก่หวังจิ่นหลิงและเดินทางไปจวนลั่วอ๋องเพื่อเปลี่ยนยาให้กับลั่วอ๋องแล้ว นางทำได้เพียงตรวจดูสถานการณ์ของเถี่ยโถว เรื่องอื่นๆ ไม่ให้นางแตะต้องเลย ปล่อยให้นางได้พักผ่อนอย่างสงบ

เนื่องจากบาดแผลของเถี่ยโถวไม่เหมาะสำหรับการเดินทางไปไหนมาไหน ดังนั้นสองสามีภรรยาตระกูลเถี่ยจึงได้อาศัยอยู่ใกล้ๆ กับจวนเฟิ่งเพื่อคอยดูแลบุตรชาย แน่นอนว่าทั้งสองก็ได้ดูแลปากท้องของเฟิ่งชิงเฉินกับโจวสิงด้วย

"โจวสิง เจ้าจงไปถามสะใภ้เถี่ยเถิดว่ายินดีจะทำงานที่จวนเฟิ่งนี้หรือไม่? เมื่อข้าได้กินอาหารของสะใภ้เถี่ยแล้ว ข้าก็ไม่อยากกลับไปกินอาหารของเจ้าอีกเลย" เฟิ่งชิงเฉินมองไปทางโจวสิงด้วยท่าทางรังเกียจ

ความสามารถและฝีมือของโจวสิงถูกจำกัดอยู่เพียงแค่ทำให้อาหารสุก แม้นางจะเป็นคนไม่เลือก แต่หากว่ามีอาหารที่ดีกินแล้วทำไมนางจึงไม่เลือกมันเล่า?

มารยาทบนโต๊ะอาหารของโจวสิงค่อนข้างดี การกินอาหารของเฟิ่งชิงเฉินนั้นตรงข้ามกับความสง่างามและสงบของโจวสิงอย่างชัดเจน โจวสิงวางตะเกียบและชามข้าวโรงก่อนจะมองไปทางเฟิ่งชิงเฉินด้วยคำตั้งอกตั้งใจ

"ท่านพี่ กล่าวจริงหรือ?"

หากจะช่วย ไม่อาจช่วยได้เพียงแค่สะใภ้เถี่ยคนเดียว ในวันนั้นผู้ที่เป็นทหารบาดเจ็บทุพพลภาพทุกคน นางก็ควรจะช่วยด้วย เนื่องจากพวกเขาล้วนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาเก่าของบิดานาง เฟิ่งชิงเฉินจะเลือกที่รักมักที่ชังไม่ได้

แน่นอนว่าหากเฟิ่งชิงเฉินไม่ช่วยก็ไม่มีใครว่านาง เพราะสิ่งที่ทำให้พวกเขาเป็นเช่นนั้นไม่ใช่บิดาของนาง แต่เป็นเพราะประเทศนี้ เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบต่อพวกเขา มันเป็นเพียงแค่ความเมตตาและความชอบธรรมเท่านั้น

อีกอย่างต่อให้เฟิ่งชิงเฉินจะเก่งกาจเพียงใด นางก็ไม่อาจรับผิดชอบผู้คนมากมายนับร้อยๆ เรื่องของอาหารการกินได้ จะว่าไปเฟิ่งชิงเฉินจะเลี้ยงดูพวกเขาไปตลอดชีวิตก็ไม่ได้เช่นกัน

โจวสิงไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเฟิ่งชิงเฉินนี้

"เจ้าจะเป็นคนใจดีมีเมตตาก็ย่อมได้ แต่จะทำให้ตนเองต้องเหนื่อยล้าไม่ได้ ในโลกนี้มีผู้คนมากมายที่รอรับการช่วยเหลือ"

"โจวสิง ข้าเห็นแก่ตัวมาก แต่ข้าก็ไม่อาจจะมองข้ามพวกเขาไปได้ หากไม่มีพวกเขาก็คงไม่มีชีวิตอันแสนสงบสุขของเราในตอนนี้ อีกอย่าง ก็ไม่ได้นับว่าข้าช่วยเหลือพวกเขา ทุกคนได้ประโยชน์ซึ่งกันและกัน พวกเขาทำงานให้ข้า และข้าก็ให้เงินพวกเขาเท่านั้น"

"เจ้าช่วยพวกเขาได้เพียงชั่วขณะ แต่ไม่อาจช่วยได้ตลอดชีวิต การได้คืบจะเอาศอก หากเจ้าช่วยเหลือพวกเขามากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งต้องการมากขึ้นเท่านั้น อีกทั้งพวกเขาจะคิดว่าการที่เจ้าช่วยเหลือพวกเขาเป็นเรื่องสมควรแล้ว ผู้คนมักมีความละโมบ และเคยชินกับการได้อะไรต่างๆ มาโดยไม่ต้องออกแรง ดังนั้นจึงไม่ยากจะทำงานหนัก"

"โจวสิง เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว ข้าไม่ได้ใจดีขนาดนั้น ข้าเพียงแค่ให้โอกาสพวกเขาในการทำงาน ให้พวกเขาหาเงินด้วยแรงงานของตนเองเหมือนคนทั่วไป"

"โจวสิง จวนเฟิ่งจะต้องได้รับการปรับปรุง และจำเป็นต้องใช้แรงงาน หากจะจ้างวานคนด้านนอกหรือพวกเขาล้วนเหมือนกัน พวกเขาทำงานและขาจ่ายเงิน เป็นเพียงเรื่องง่ายดายเท่านี้ ข้าเข้าใจหลักการในการช่วยเหลือคนจนดี การที่ข้าช่วยเหลือพวกเขา นั่นก็คือยามที่พวกเขาเจ็บป่วยข้าสามารถรักษาได้ จะไม่ให้พวกเขาต้องสูญเสียชีวิตไปเนื่องจากไม่มีเงินจะรักษา" เฟิ่งชิงเฉินไม่ใช่นักบุญ นางเพียงแค่ต้องการช่วยเหลือ

หวั่นอิน บ่าวรับใช้ทรยศผู้นั้นทำให้เฟิ่งชิงเฉินเข้าใจดีว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะนำมาอยู่เคียงข้างได้ ผู้ที่ทรยศต่อเจ้าโดยมากมักเป็นคนที่ใกล้ชิดที่สุด

การช่วยเหลือของนางมีขีดจำกัด

"หากพี่เข้าใจก็ดีแล้ว เพียงแต่ว่าบ้านในจวนเฟิ่ง พวกเขาจะทำได้ดีหรือ ท่านแม่ทัพอวี่เหวินตกลงแล้วไม่ใช่หรือว่าจะช่วย?" โจวสิงมองไปยังผู้พิการเหล่านั้น ซึ่งไม่อาจเปรียบเทียบได้กับคนปกติที่สามารถทำงานได้อย่างคล่องแคล่ว เหตุใดจึงต้องใช้ผู้พิการเหล่านี้เล่า

"อวี่เหวินหยวนฮั่วน่าจะยุ่งมาก คอยดูก่อนเถิด หากเขาจำเรื่องนี้ได้ก็ใช้คนของเขาแล้วให้พวกลุงเถี่ยคอยเป็นลูกมือ แต่หากว่าเขาลืมไปก็ให้พวกลุงเถี่ยทำ โจวสิง การที่พวกเขาพิกลพิการไม่ใช่เพราะพวกเขายินยอมเป็นดังนั้น จงให้โอกาสพวกเขาเถิด ให้โอกาสพวกเขาได้เป็นเหมือนคนทั่วไป พวกเขาสามารถทำได้ต่อให้ช้าหน่อยก็ไม่เป็นไร"

เฟิ่งชิงเฉินจะต้องหาโอกาสสนทนากับอวี่เหวินหยวนฮั่วสักหน่อย ควรจะทำบ้างเรื่องกับพวกทหารที่พิการสักหน่อยใช่หรือไม่

เช่นการใช้ทหารสนับสนุนทหาร อวี่เหวินหยวนฮั่วไม่ต้องการให้ทหารของเขาล่าช้าในการฝึกฝน ดังนั้นจึงสามารถใช้ทหารพิการเหล่านี้คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง เท่านี้ทุกคนก็ล้วนมีความสุข

แน่นอนว่า จะดำเนินการเช่นไร รายละเอียดเหล่านั้นเฟิ่งชิงเฉินไม่เข้าใจ แต่นางเชื่อว่าอวี่เหวินหยวนฮั่วสามารถทำได้ ชายคนนั้นเห็นทหารเป็นเช่นชีวิตของตน

เฟิ่งชิงเฉินไม่รู้ว่าเพราะการกระทำของตนในวันนี้มีผลกระทบต่อการจัดการระบบระเบียบของทหารทุพพลภาพ ทำให้ทุกคนยินดีที่จะเข้าร่วมในกองทัพ

ในประวัติของจิ่วโจวต้าลู่ มีการบันทึกไว้เกี่ยวกับสตรีผู้แปลกประหลาดซึ่งค้นพบทางออกของทหารทุกคนภาพเหล่านี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ