เสด็จอาเก้าอย่างนั้นหรือ?
ทุกคนมองหน้ากันไปมา คนนั้นมองคนนี้ คนนี้มองคนนั้น
พวกเขาไม่ได้ตกใจสถานะของเสด็จอาเก้า แต่ว่า......
งานกวีครั้งนี้ไม่ได้เชิญสมาชิกราชวงศ์คนใดมางานเลย มิใช่ว่าไม่สามารถเชิญได้ แต่เป็นเพราะว่าพวกเขาไม่ค่อยยกย่องสมาชิกราชวงศ์แห่งตงหลิง
ราชวงศ์แห่งตงหลิงสถาปนามาได้ยังไม่ถึงร้อยปี การสืบทอดทายาทก็ยังไม่ถึง 3 รุ่น ราษฎรจึงไม่ค่อยยอมรับพวกเขาเท่าใดนัก ในงานกวีเช่นนี้ใช่ว่าฐานะผ่านเกณฑ์แล้วจะเข้าร่วมได้ หากไม่มีความสามารถที่เกี่ยวข้อง จะเป็นผู้ดีมีสกุลจากที่ใดก็ไม่อาจเข้าร่วมได้ การเชื้อเชิญมาร่วมงานในครั้งนี้ มีความเคร่งครัดยิ่งกว่าการเชิญไปร่วมงานเทศกาลดอกท้อขององค์หญิงอันผิงเสียอีก
เสด็จอาเก้า ตำแหน่งของเขาก็ไม่ได้สูงส่งเท่าใดนัก แต่ก็ไม่มีผู้ใดกล้าไปยุ่งกับเขา หลายๆคนยกย่องเสด็จอาเก้า สำหรับผู้ที่ใส่ใจเรื่องรูปลักษณ์ภายนอก ก็ถือได้ว่าเสด็จอาเก้ารูปโฉมงามสง่าสะดุดตา
งานกวีที่จัดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน มีการทูลเชิญเสด็จอาเก้ามาร่วมงาน แต่เขาก็ไม่เคยปรากฏตัว ครั้งต่อๆมาจึงไม่มีการทูลเชิญเสด็จอาเก้าอีกเลย
งานกวีดังกล่าว เสด็จอาเก้าเป็นคนแรกที่ได้รับเชิญแต่ไม่ยอมมาร่วมงาน
แต่ทำไมคราวนี้ถึงมาโผล่ที่นี่ได้?
หรือว่างานกวีในปีนี้จะมีบางอย่างที่แปลกใหม่?
ทุกคนแววตาเป็นประกาย โดยเฉพาะพวกคุณหนูทั้งหลายที่รีบแจ้นออกไปดู พวกนางอยากเห็นเสด็จอาเก้า แม้เพียงเสี้ยววินาทีก็ยังดี
แต่เมื่อออกมาด้านนอกแล้ว ทุกคนก็ต้องสะดุ้งเฮือก เสด็จอาเก้ากำลังรับหญิงสาวนางหนึ่งลงมาจากรถม้า?
หญิงสาวที่เสด็จอาเก้ารับลงมาจากรถม้าคือผู้ใดกันนะ?
การแต่งกายเช่นนั้น บุคลิกท่าทางเช่นนั้น......
"เฟิ่งชิงเฉิน?"
"ทำไมจึงเป็นนางไปได้ล่ะ?"
ไม่รู้ว่าใครอุทานชื่อนั้นออกมา ทำเอาคนอื่นๆที่ได้ยินเกือบลืมถวายความเคารพต่อเสด็จอาเก้าเสียแล้ว
"นางแต่งกายได้......" แล้วก็หยุดพูดไป เพราะคำว่า "งาม" ไม่สามารถนำมาใช้กับสภาพการแต่งกายของเฟิ่งชิงเฉินในตอนนี้ได้จริงๆ
เฟิ่งชิงเฉินเป็นหญิงงาม ไม่ได้งามที่เปลือกนอก แต่งามที่บุคลิกของนาง การที่นางยืนอยู่เคียงข้างเสด็จอาเก้าก็มิได้ทำให้นางดูอับแสงแม้แต่น้อย
เฟิ่งชิงเฉินไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นๆที่แต่งกายฟู่ฟ่า นางสวมเพียงชุดด้านในสีม่วงและเสื้อคลุมตัวยาวสีแดงเพียงเท่านั้น
กระโปรงของนางบานแต่ก็ไม่ยาวลากพื้น นางไม่ได้สวมใส่เครื่องประดับเลยแม้แต่ชิ้นเดียว มีเพียงสายรัดเอวสีดำเพียงเท่านั้น
แขนเสื้อหลวมและกว้าง เมื่อแขนเสื้อกรีดกรายก็ดูพลิ้วไหวน่ามองยิ่งนัก
ผมยาวๆของเฟิ่งชิงเฉินก็ไม่ได้เกล้าขึ้น แต่ก็ไม่ได้ปล่อยสยาย นางใช้ยางรัดผมมัดรวบธรรมดา ตรงหน้าผากก็ไม่ทำหน้าม้า เผยให้เห็นหน้าผากที่อิ่มสวย มีปอยผมบางๆร่วงลงมาหน้าเนินอกทางฝั่งซ้าย เมื่อสายลมพัดมา ปอยผมนั้นก็ปลิวไสว
การแต่งตัวที่สมถะเรียบง่าย รูปโฉมการออกงานเช่นนี้ไม่ได้หาดูได้ง่ายๆ
การแต่งตัวเช่นนี้ของเฟิ่งชิงเฉินรังสรรค์ขึ้นมาเพื่องานกวีโดยเฉพาะ ไม่ว่านางจะออกงานที่ไหน นางก็แต่งตัวให้เกียรติงานอยู่เสมอ
เสด็จอาเก้าพยักหน้าอย่างพอใจ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่รู้สึกเลยว่าสายตาคู่อื่นที่จับจ้องมานั้นดูเยือกเย็นเพียงใด
ก่อนลงจากรถม้า เขาได้กระซิบที่ข้างหูของเฟิ่งชิงเฉินว่า "อย่าทำให้ข้าขายหน้าล่ะ"
เดิมทีเฟิ่งชิงเฉินก็ประหม่า แต่เมื่อได้ฟังสิ่งที่เขาพูดแล้วนางก็พยักหน้า และเรียกความเชื่อมั่นมาให้กับตนเอง
"ชิงเฉินเข้าใจแล้วเพคะ"
นางจะไม่ทำให้เสด็จอาเก้าต้องเสียหน้าเป็นอันขาด
"ไปได้แล้ว......"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ