ตลอดมามีเพียงคนไข้ที่รังเกียจค่าหมอแพงมาโดยตลอดและไม่มีใครคิดรังเกียจค่าหมอถูก ฮูหยินรองเซี่ยผู้นี้คงกังวลว่าหากนางได้เงินน้อยจะไม่ตั้งใจหรือว่าจะไม่สมศักดิ์ศรีของนาง
เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่ลดราคาลง แต่คำพูดนั้นได้พูดออกไปแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนแปลง
เฟิ่งชิงเฉินจึงยิ้มและพูดว่า "แม่นางอย่าคิดว่ามันน้อยไปเลย ค่าหมอของข้าขึ้นอยู่กับอารมณ์ ราคานี้มีเพียงฮูหยินรองเท่านั้นที่ได้ไป ตอนแรกที่ชิงเฉินยังไม่มีชื่อเสียง ฮูหยินรองกลับเชื่อในตัวข้า ยอมให้ข้ารักษา ชิงเฉินจดจำน้ำใจนี้ของฮูหยินได้ ถือว่าข้าให้เป็นราคามิตรภาพก็แล้วกัน ต่อไปหากมีผู้ที่มีอาการเช่นเดียวกับฮูหยินรอง ชิงเฉินไม่มีทางคิดราคาเหมือนกันแน่"
นางกำลังสงสัยว่านางไม่ใช่หมอ แต่เป็นนักธุรกิจที่ยื่นข้อเสนอตามผลกำไรมากกว่า
อนิจจา... ถ้าหากนางต้องเผชิญหน้ากับตงหลิงจิ่วได้อย่างสงบและง่ายดายเช่นนี้ก็คงดี
เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกหดหู่เป็นอย่างมาก นางสามารถจัดการกับใครก็ได้ แม้จะต้องเผชิญหน้ากับความน่าเกรงขามของราชสำนัก นางก็ยังสามารถรักษาความมีเหตุผลเอาไว้ได้ แต่...
คำพูดเพียงประโยคเดียวของเขาก็สามารถทำให้นางสูญเสียความมีเหตุมีผลไป นับว่า...
ช่างโง่เขลาเหลือเกิน!
เมื่อฮูหยินรองเซี่ยได้ยินคำพูดของเฟิ่งชิงเฉิน นางก็ทั้งยินดีและผิดหวัง
สิ่งที่น่ายินดีคือเฟิ่งชิงเฉินเป็นคนรู้จักบุญคุณคน และนางยังเข้าใจความหมายในคำพูดของเฟิ่งชิงเฉินอีกด้วยว่าต่อไปพวกนางจะไม่มีอะไรคิดค้างกันอีก
"ทำตามที่ท่านหมอเฟิ่งต้องการเถอะ" ฮูหยินรองเซี่ยกล้ำกลืนความขมขื่นไว้
เรื่องโง่เขลาที่ตระกูลเซี่ยทำลงไป ความขมขื่นกลับเป็นนางที่ต้องกล้ำกลืน นางไม่ยอม แต่แม้จะไม่ยินยอมแล้วจะทำอย่างไรได้
นางเป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องอาศัยตระกูลเพื่อความอยู่รอด
พยักหน้าและพูดต่อไปว่า "หากฮูหยินรองตกลงก็ง่าย แต่มีอีกเรื่องหนึ่งที่จำเป็นต้องบอกกับฮูหยินรองไว้ก่อน"
"เรื่องอะไรหรือ?"
"โรคของฮูหยินรองนับเป็นโรคสตรี ในการตรวจอาจมีการสัมผัสทางร่างกายบ้าง ฮูหยินรองโปรดอย่าได้ใส่ใจ" เมื่อนางถึงตรงนี้ เฟิ่งชิงเฉินก็รู้สึกอายอยู่ครู่หนึ่ง
ให้ตายเถอะ… ถึงแม้เครื่องมือแพทย์อัจฉริยะจะตรวจโรคของฮูหยินรองได้ แต่กลับไม่สามารถระบุตำแหน่งที่แน่นอนและตำแหน่งลงมีดได้ นางจะต้องลงมือตรวจเอง
และการตรวจภายในนั้น...
เมื่อเฟิ่งชิงเฉินนึกถึงฉากอันน่าอึดอัดใจนั้น นางก็อยากจะปาดน้ำตา
สำหรับการตรวจภายใน จะใช้มือสอดเข้าไปในช่องคลอดเพื่อคลำ อย่างมากก็ใช้เพียงคีมปากเป็ดขยายช่องคลอด
ในยุคปัจจุบันนี่นับเป็นเรื่องปกติ การตรวจภายในทางนรีเวชก็เป็นเช่นนี้ แต่ในสมัยโบราณ นางไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดี
โรคทางนรีเวชไม่ใช่จุดแข็งของแพทย์แผนจีน อีกทั้งหมอในสมัยโบราณส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย แม้ว่าจะเก่งเรื่องโรคสตรีเพียงใด เขาก็ไม่กล้าแตะต้องคนไข้ผู้หญิง
การตรวจภายในของแพทย์แผนตะวันตกไม่เคยปกปิดอะไร หากนางต้องการจะรักษาฮูหยินรองเซี่ยก็จะต้องผ่านการตรวจนี้
"ไม่เป็นไร เจ้ากับข้าล้วนเป็นผู้หญิงด้วยกัน ไม่สำคัญหรอก" ใบหน้าของฮูหยินรองก็แดงซ่านเช่นกัน แต่นางก็ได้สติอย่างรวดเร็ว
เหล่าคุณหนูในตระกูลใหญ่ถูกสาวใช้อาบน้ำให้มาตั้งแต่เล็ก การเปลือยร่างต่อหน้าสตรีด้วยกัน ฮูหยินรองไม่มีความกดดันใดๆ
เฟิ่งชิงเฉินยิ้ม สิ่งที่ฮูหยินรองคิดอยู่ห่างไกลจากความเป็นจริงอยู่มากโข อีกทั้ง...
หากต้องทำการผ่าตัด ขนบริเวณร่างกายส่วนล่างจะต้องโกนให้สะอาด เฟิ่งชิงเฉินไม่รู้ว่าฮูหยินรองเซี่ยจะรับได้หรือไม่
ช่างอึดอัดยุ่งยากใจเสียจริง
เฟิ่งชิงเฉินตัดสินใจว่าจะพูดเรื่องนี้ในภายหลัง ขั้นแรกให้นางได้รับการตรวจเสียก่อนก็แล้วกัน หากแม้แต่การตรวจภายในยังยอมรับไม่ได้ก็ไม่จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องต่อไปอีก
อนิจจา... ตอนแรกรับปากนางเป็นมั่นเหมาะ แต่นางไม่ได้คิดให้ลึกลงไปเลย เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องปกติในสายตาของนาง แต่เมื่อนางจะทำเข้าจริงจึงได้ตระหนักถึงความแตกต่างระหว่างสมัยโบราณกับยุคปัจจุบันได้
เฟิ่งชิงเฉินลุกขึ้นทำท่าทางผายมือให้ฮูหยินรองตามเข้าไปที่ห้องชั้นในกับนางและสวดภาวนาในใจอย่างเงียบๆ โดยหวังว่าความสามารถในการยอมรับของฮูหยินรองจะมากขึ้นอีกหน่อยและไม่มองว่านางเป็นโรคจิต!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ