เมื่อเห็นเฟิ่งชิงเฉินปรากฏตัว ตงหลิงจื่อชุนก็ถึงกับผงะ เขาได้ยินเฟิ่งชิงเฉินบอกว่าต้องการความช่วยเหลือจากตน โดยขอให้นางได้มีโอกาสไปพบตงหลิงจิ่ว เขาฟังแล้วก็มีสีหน้าลำบากใจในทันที
แม้ตงหลิงจื่อชุนจะบุ่มบ่าม แต่เขาก็ไม่ใช่คนโง่เขลา เบื้องลึกเบื้องหลังมีหรือที่เขาจะไม่รู้
เฟิ่งชิงเฉินเห็นลักษณะท่าทางของเขาแล้วก็รู้ว่าเขาไม่ค่อยสบายใจ นางจึงไม่พูดอะไรมาก แล้วมองไปที่แผลของตงหลิงจื่อชุน เมื่อนางเห็นบนแผลมีน้ำอยู่ สีหน้าของนางก็ดูแย่ในทันที
นางก้าวเท้าเข้าไปแกะผ้าพันแผลของเขาออกโดยที่ไม่บอกไม่กล่าว และได้พบว่าบาดแผลของเขานั้นกำลังบวมน้ำ เฟิ่งชิงเฉินหน้าเสียหนักกว่าเดิม นางบ่นตงหลิงจื่อชุนไปยกใหญ่ แล้วจึงนึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อวานนี้ตนเองลืมกำชับเรื่องข้อควรระวังไป จึงหุบปากตัวเองแทบไม่ทัน แล้วก้มหน้าก้มตาใส่ยาและพันแผลให้เขาใหม่
ช่วงแรกๆตงหลิงจื่อชุนก็ได้แต่นึกอิจฉาที่เสด็จอาเก้าชื่นชอบเฟิ่งชิงเฉิน แต่เมื่อได้เห็นความห่วงใยที่เฟิ่งชิงเฉินมีให้กับตนแล้ว ตงหลิงจื่อชุนก็อดยิ้มแห้งๆไม่ได้
แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ได้โง่ เขาไม่สามารถพาเฟิ่งชิงเฉินเข้าไปในคุกฟ้าได้แน่นอน แต่เมื่อเขาเห็นว่าเฟิ่งชิงเฉินร้อนใจ ก็รู้ได้ทันทีว่าหากตนไม่ช่วยนาง นางก็ต้องไปหาคนอื่นมาช่วยนางอยู่ดี
แล้วเขาก็คิดขึ้นมาว่า ในยามที่เฟิ่งชิงเฉินลำบากก็นึกถึงตนเป็นคนแรก นี่ก็แสดงว่าในใจเฟิ่งชิงเฉินย่อมมีเขาอยู่อย่างแน่นอน เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้ว ตงหลิงจื่อชุนก็ชี้แนะแนวทางให้กับเฟิ่งชิงเฉิน ส่วนจะสำเร็จหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของนางแล้ว
เฟิ่งชิงเฉินกล่าวขอบคุณตงหลิงจื่อชุน ก่อนจะต่อด้วยการกำชับเรื่องข้อควรระวัง และยังย้ำกับเขาด้วยว่าหลังจากนี้ 3 วันจะกลับมาดูอาการเขาอีกครั้ง
และแน่นอนว่า เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่ลืมที่จะยกน้ำแกงที่ผู้หญิงของเขาเตรียมไว้ให้ขึ้นมา
"แม่นางเฟิ่ง คน คนพวกนั้น เสด็จพ่อพระราชทานให้ข้ามา แล้วก็มีที่คนอื่นมอบให้ด้วย ข้าไม่ได้ ข้าไม่ได้......" ไม่รู้เพราะเหตุใด เมื่อตงหลิงจื่อชุนได้ยินเฟิ่งชิงเฉินพูดเรื่องผู้หญิงในจวนของเขาแล้ว เขาก็มีท่าทางลุกลี้ลุกลนและรีบอธิบายรายละเอียดให้นางฟัง
เฟิ่งชิงเฉินหรี่ตาและยิ้มหวาน "องค์ชาย ชิงเฉินเข้าใจดีเพคะ วัยหนุ่มสาวก็เป็นเช่นนี้แหละ"
ผู้ชายที่อายุ 16-17 แล้ว กำลังอยู่ในวัยที่ต้องเรียนรู้อะไรต่อมิอะไรมากมาย แล้วการเกิดมาเป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์ เรื่องแบบนี้จะพลาดได้อย่างไร แล้วอีกอย่าง......เรื่องผู้หญิงของตงหลิงจื่อชุนก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับนางเลย
แต่เมื่อได้ยินเฟิ่งชิงเฉินพูดออกมาเช่นนั้นแล้วก็โล่งใจเป็นอย่างมาก ดูเหมือนว่าเขาจะมองเป็นเรื่องใหญ่เกินไป ในตงหลิงนี้ นอกจากเสด็จอาเก้าที่ไม่ยุ่งเรื่องผู้หญิง กับหวังจิ่นหลิงที่เคยตาบอดแล้ว ผู้ชายคนอื่นๆก็มีนางเล็กๆกันทั้งนั้น
เรื่องที่เฟิ่งชิงเฉินเป็นห่วงเสด็จอาเก้า นางเล่าให้ตงหลิงจื่อชุนฟังได้ไม่มากนัก เมื่อเห็นสายตาที่ตงหลิงจื่อชุนจ้องมองมาที่นาง ทำให้นางรู้สึกแปลกจนขนลุก นางจึงไม่พูดอะไรต่อแล้วรีบขอตัวกลับ
อวี่เหวินหยวนฮั่วรอเฟิ่งชิงเฉินในรถม้าตรงจุดเดิม
"เป็นอย่างไรบ้าง?" อวี่เหวินหยวนฮั่วเอ่ยถามด้วยความเป็นกังวล
"ไปจวนซุนเจิ้งเต้า"
"ซุนเจิ้งเต้าที่เป็นหัวหน้าสำนักหมอหลวงน่ะหรือ? เป็นตัวเลือกที่ไม่เลว แต่เกรงว่าฮ่องเต้คงจะไม่ทรงยุ่งกับพวกหมอหลวงหรอก" อวี่เหวินหยวนฮั่วประเมินสถานการณ์แล้วมองเฟิ่งชิงเฉินด้วยท่าทางหนักใจ
การจะเกลี้ยกล่อมซุนเจิ้งเต้าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่ผ่านมาเฟิ่งชิงเฉินก็ไปมีเรื่องกับหมอหลวงมาหลายคน ไม่รู้ว่าซุนเจิ้งเต้าจะชังนางด้วยหรือไม่
หัวหน้าสำนักหมอหลวงคนก่อนจบชีวิตลงเพราะตงหลิงจื่อลั่ว ส่วนซุนเจิ้งเต้าก็ได้มารับตำแหน่งต่อจากเขา แต่เขาต้องกลับบ้านเกิดไปไว้ทุกข์ให้กับพ่อ จนเมื่อ 2-3 วันก่อน ฮ่องเต้ก็ทรงมีรับสั่งเรียกตัวเขากลับมาทำหน้าที่หัวหน้าสำนักหมอหลวงอีกครั้ง
"มันก็ต้องลองดู องค์ชายชุนหยูแนะนำเขา ก็น่าจะพอมีโอกาสบ้างแหละนะ" เฟิ่งชิงเฉินกล่าวพลางนึกถึงสายตาที่ตงหลิงจื่อชุนมองตน ยิ่งนึกถึงก็ยิ่งไม่สบายใจ
สายตาแบบนั้น ทำไมดูเหมือนว่าเขาจะมีความในใจให้กับนาง
แล้วนางก็ส่ายหน้า พร้อมพูดกับตัวเองในใจว่าตนคิดมากเกินไปแล้ว
องค์ชายผู้สูงส่งอย่างองค์ชายชุนหยูจะมาชายตามองคนอย่างนางได้อย่างไร ชื่อเสียงของนางป่นปี้มานานแล้ว ไม่มีใครมองนางแล้วทั้งนั้น ยิ่งองค์ชายชุนหยูยิ่งไม่ต้องพูดถึง
อวี่เหวินหยวนฮั่วเห็นเฟิ่งชิงเฉินมีท่าทีเหม่อลอย แล้วก็ส่ายหน้าเป็นครั้งคราว ก็เข้าใจว่านางกำลังหาวิธีเกลี้ยกล่อมซุนเจิ้งเต้าอยู่ จึงไม่รบกวนนาง ทั้งสองนั่งรถม้ามาจนถึงจวนของซุนเจิ้งเต้า ซึ่งก็ไปจอดรถไว้ที่หน้าประตูเล็กอีกเช่นเคย
"เฟิ่งชิงเฉิน คราวนี้เจ้าเข้าไปข้างในเองนะ ในจวนตระกูลซุนไม่มีคนของข้า" อวี่เหวินหยวนฮั่วไม่ต้องการที่จะลงจากรถม้า
เรื่องที่เฟิ่งชิงเฉินพยายามช่วยเสด็จอาเก้านี้ แม้ฮ่องเต้จะทรงรับรู้แต่ก็ไม่ทรงเก็บเอาไปคิด ก็แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งที่ฮ่องเต้ไม่จำเป็นต้องแยแส
แต่สำหรับเขากลับไม่ใช่แบบนั้น เพราะเขาคือผู้กุมอำนาจการทหาร
เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่ได้คาดหวังอะไรจากอวี่เหวินหยวนฮั่วอยู่แล้ว นางมองไปที่ประตูเล็กและบ่นว่า "ท่านนี่ถนัดเข้าทางประตูเล็กจริงๆนะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...