อวี่เหวินหยวนฮั่วหัวเราะคิกคักออกมา และไม่ได้ไปโต้เถียงกับเฟิ่งชิงเฉินอีก เขาเพียงแค่อยากรู้ว่าในใจของเฟิ่งชิงเฉินใครสำคัญกว่ากันระหว่างเสด็จอาเก้าและหวังจิ่นหลิง เมื่อรู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินไม่เอาเรื่องของเสด็จอาเก้ามาล้อเล่น ดังนั้นระหว่างนางกับหวังจิ่นหลิง อวี่เหวินหยวนฮั่วจึงไม่ได้เอ่ยถามให้มากความ
เรื่องราวกำลังดำเนินไปในทิศทางที่ดี อวี่เหวินหยวนฮั่วเองก็ค่อนข้างวางใจ ก่อนจะหาวออกมาแล้วกล่าวว่า "เอาล่ะ ในเมื่อไม่มีอะไรแล้ว ข้าขอพักผ่อนอยู่ที่จวนเจ้าสักคืน พรุ่งนี้ข้าจะต้องไปแต่เช้า"
ในวันนี้เขาวิ่งไปวิ่งมาหลายที่ ไม่เหนื่อยน้อยกว่าเฟิ่งชิงเฉินเลย
"ช้าก่อน เสด็จอาเก้าให้ข้ามอบสิ่งนี้แก่เจ้า" เฟิ่งชิงเฉินหยิบของสิ่งหนึ่งออกมาจากในกระเป๋าแล้วส่งให้อวี่เหวินหยวนฮั่ว
"ให้ข้าหรือ?" อวี่เหวินหยวนฮั่วตกตะลึงครู่หนึ่ง อาการง่วงนอนของเขาหายไปทันที ก่อนจะรับมาด้วยท่าทางเคร่งขรึมแล้วพึมพำว่า "เจ้าสามารถเอาของออกมาจากในคุก เจ้าทำได้อย่างไร?"
เฟิ่งชิงเฉินกำลังจะกล่าวบางอย่างออกมา จู่ๆ สีหน้าของอวี่เหวินหยวนฮั่วก็เปลี่ยนไปทันที ความโมโหของเขาทะยานคุณสู่ท้องฟ้า…… กระดูกที่ข้อนิ้วลั่นเสียงดังสนั่น
"เฟิ่งชิงเฉิน สิ่งของในนี้เจ้าดูมันแล้วหรือไม่?" อวี่เหวินหยวนฮั่วดูเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ดวงตาของเขาเฉียบคมเต็มไปด้วยแรงอาฆาต
เฟิ่งชิงเฉินตกตะลึง "ไม่ เสด็จอาเก้ากำชับไว้ว่าไม่ให้ข้าเปิดดู เมื่อตอนที่ข้าให้เจ้ายังมีรอยขี้ผึ้งถ้าอยู่ อีกอย่างเมื่อตอนที่ข้าเดินทางออกจากพระราชวังก็พบเข้ากับหวังจิ่นหลิงพอดี ข้าจะเอาเวลาที่ไหนไปดู"
เมื่อเห็นท่าทางของอวี่เหวินหยวนฮั่วเป็นเช่นนั้น เฟิ่งชิงเฉินก็เดาได้ทันทีว่าของด้านในคงจะไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน นางจึงได้เอ่ยมากความอยู่สองสามประโยค
"ไม่ได้ดูก็ดีแล้ว" อวี่เหวินหยวนฮั่วพยักหน้าจากนั้นนำของสิ่งนั้นใส่เข้าไปในกระเป๋าเสื้อ "เฟิ่งชิงเฉิน สองวันมานี้ทางที่ดีเจ้าอย่าได้ออกไปไหน และของสิ่งนี้เจ้าจงทำเหมือนไม่เคยเห็นมันมาก่อนอย่าได้กล่าวสิ่งใดกับคนอื่น"
เมื่อกล่าวจบเขาก็พุ่งตัวออกจากจวนเฟิ่งไปรวดเร็วราวกับสายลม
ในใจเฟิ่งชิงเฉินรู้สึกกระสับกระส่าย เมื่อเห็นท่าทางเช่นนั้นของอวี่เหวินหยวนฮั่ว นางก็รู้ดีว่าไม่อาจถามสิ่งใดจากเขาได้
เช้าวันต่อมาหลังจากที่เฟิ่งชิงเฉินลุกขึ้นจากเตียง นางมองไปยังท้องฟ้าที่มืดสลัวและรู้สึกหงุดหงิด นางเป็นห่วงเสด็จอาเก้าและเป็นห่วงความปลอดภัยของหวังจิ่นหลิง
การที่ฝ่าบาทลงมือกับเสด็จอาเก้า เป็นไปไม่ได้หากจะเป็นเพียงเรื่องแค่ฝูงหมาป่า แม้เรื่องฝูงหมาป่านั่นจะทำให้คุณชายจากตระกูลสูงส่งมากมายต้องสิ้นชีวิต แต่หากจะให้เสด็จอาเก้าชดใช้ด้วยชีวิต นั่นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ถึงอย่างไรการที่ องค์ชายกับประชาชนธรรมดาทำความผิดก็ไม่อาจจะใช้กฎเกณฑ์เดียวกันในการตัดสิน
เฟิ่งชิงเฉินพยายามจะเดินทางออกไปข้างนอกอยู่หลายครั้งเพื่อสืบหาข้อมูลข่าวคราว แต่เมื่อนึกถึงเรื่องที่อวี่เหวินหยวนฮั่วกำชับเอาไว้ ประกอบกับซุนซือหลิงที่กล่าวว่าในวันนี้ตอนเช้าจะเดินทางมา แต่บัดนี้กลับไม่พบแม้แต่เงา จึงได้รู้ว่าข้างนอกไม่ปลอดภัย
เพื่อไม่เป็นการสร้างเรื่องให้แก่อวี่เหวินหยวนฮั่วมากขึ้น เฟิ่งชิงเฉินจึงทำได้เพียงอดทนอดกลั้น นางกระสับกระส่ายทั้งวัน นั่งไม่ติดยืนไม่ได้
มีผู้ป่วยสองสามคนเดินทางมาร้องขอให้รักษาถึงที่จวน เฟิ่งชิงเฉินพบว่าเป็นเพียงไข้หวัดธรรมดา จึงให้โจวสิงเชิญพวกเขากลับไปหาหมอคนอื่น เนื่องจากสภาพของนางตอนนี้ไม่เหมาะสมที่จะตรวจอาการผู้ใด
รอจนกระทั่งตอนบ่าย หวังชีเดินทางมาที่จวนเฟิ่งด้วยใบหน้าเหนื่อยล้า เฟิ่งชิงเฉินจึงเข้าใจว่าที่ด้านนอกนั้นเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ……
ในวันนี้ การประชุมราชวงศ์ตอนเช้าของราชวงศ์ตงหลิงช่างครึกครื้นกว่าปกติ แสดงให้เห็นว่าสิ่งใดคือคลื่นลูกใหม่ยังไม่สงบคลื่นอีกลูกก็ม้วนมาอีกระลอก
ซู่ชินอ๋องผู้ที่ไม่เคยเดินทางไปร่วมประชุมเช้ามาเนิ่นนาน จู่ๆ ก็ปรากฏกายขึ้น อีกทั้งกล่าวถึงเรื่องในสวนไป๋ฉ่าวที่มีกลุ่มหมาป่าเข้าโจมตี ว่ามีข้อน่าสงสัยมากมาย ขอเชิญองค์จักรพรรดิพิจารณาสืบสวนคดีนี้อีกครั้ง หากไม่มีหลักฐานเพียงพอที่สรุปได้ก็ควรจะปล่อยตัวตงหลิงจิ่วออกมาก่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ