นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 188

สามศพ!

ดูจากการแข็งตัวของศพแล้วนั้น เกรงว่า คงจะเพิ่งตายได้ไม่นานกระมัง

"เอามาทำอะไรงั้นหรือ?" เฟิ่งชิงเฉินหาได้มีท่าทางหวาดกลัวไม่ นางมิค่อยเข้าใจนัก ว่าซุนเจิงเต้ากับซุนซือสิงต้องการจะทำสิ่งใดกัน ? หรือว่าเขาจะล่วงรู้ความคิดของนาง? เหมือนว่านางจะมิเคยเอ่ยปากกับซุนซือสิง ว่าให้เขานำมาศพมาด้วย

"แม่นางเฟิ่ง ท่านหลงลืมไปแล้วหรือ ท่านกล่าวว่าท่านจะทำการชำแหละศพให้กระหม่อมได้ดู กระหม่อมจึงเล็งเห็นว่า พวกเราควรฝึกปรือฝีมือกันเสียก่อน หากลงมือจริงแล้ว จักได้ไม่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น

แม่นางเฟิ่งวางใจได้ สามศพนี้เป็นศพที่ข้านำออกมาจากคุกของกระทรวงยุติธรรม พวกเขาทั้งหมด ล้วนแต่เป็นนักโทษที่ถูกทำการประหาร ก่อนมาที่นี้ กระหม่อมได้การจุดธูปเผากระดาษเงินกระดาษทองให้พวกเขาแล้ว" ถือว่าซุนเจิ้งเต้ามีความคิดที่กว้างไกลกว่าบรรดาหมอหลวงทั่วไปมากนัก เพียงแค่เฟิ่งชิงเฉินเอ่ยถึงกระบวนการชำแหละร่าง เขาก็คิดถึงปัญหานี้ได้ในทันที

โดยเฉพาะ การนำศพมาฝึกปรือให้แพทย์ได้ใช้การนั้น ซุนเจิ้งเต้าหาได้คิดเรื่องความมีคุณธรรมไม่

สำนักหมอหลวง ทุก ๆ ปีมีคนตายเพราะการใช้ยารักษานับไม่ถ้วน แค่ของพวกนี้นับว่าเป็นสิ่งใดกัน

"สายตาท่านหมอหลวงซุนช่างก้าวไกลนัก ชิงเฉินนับถือท่านเป็นอย่างยิ่ง" เฟิ่งชิงเฉินจึงหันกายไปทำความเคารพซุนเจิ้งเต้าด้วยความเคารพ

นางรู้เคารพท่านหมอซุนจากใจจริง หากเขาสามารถคิดถึงปัญญาเช่นนี้ได้ ย่อมถือว่ามิใช่คนธรรมดา มิแปลกใจเลย ที่ซุนเจิ้งเต้าจักสามารถนั่งเป็นหนึ่งในหัวหน้าของสำนักแพทย์หมอหลวงได้ เขามีความเข้าใจถึงทักษะทางการแพทย์และขนขวายความก้าวหน้าในวงการแพทย์ที่มากกว่าหมอหลวงทั่วไปนัก

การชันสูตรศพนั้น ในยุคนี้ยังไม่มีหมอคนใดคิดที่จะพัฒนาทางด้านนี้มาก

สีหน้าของซุนเจิ้งเต้าพลันมืดครึ้มไปในทันที แต่ก็แอบภูมิใจในตนเองเช่นกัน

มิใช่ว่าทำการชำแหละศพหรือ เหตุใดถึงต้องมาพูดจาเช่นนี้ด้วย เจ้าคิดว่าเรื่องแค่นี้ข้าจักคิดไม่ได้หรือ? ภูมิใจ ข้าจักทำให้เจ้าภูมิใจเอง ข้าไม่เชื่อใจหรอกว่า คุณหนูเช่นเจ้าจักไม่กลัวเลือด

ซุนเจิ้งเต้าคิดถึงเรื่องการผ่าชันสูตรศพมานานแล้ว แต่ทว่า เขายับไม่พบผู้ที่เชี่ยวชาญในด้านนี้เลยสักคน ดูจากภายนอกแล้ว เขาคิดว่าเฟิ่งชิงเฉินดูจะมีทักษะทางด้านนี้ เขาจึงตั้งใจจะใช้โอกาสในครานี้ เรียนรู้วิชาของกันและกัน

เมื่อซุนเจิ้งเต้าเห็นว่าเฟิ่งชิงเฉินยอมตกลงนั้น จึงเรียกให้ข้ารับใช้ของตน ให้นำศพมาที่นี่ "แม่นางเฟิ่ง ในจวนของเจ้า มีห้องหับพอที่จะทำหรือไม่?"

เฟิ่งชิงเฉินพยักหน้าเล็กน้อย พร้อมทั้งเรียกให้โจวสิงพาไปยังเรือนที่ไกลที่สุดในจวนเฟิ่ง ซึ่งเป็นที่ที่รกร้างมานาน พร้อมทั้งเรียกให้นำโต๊ะมาสองตัว แลำนำมาผ้าขาวมาปูเอาไว้ด้านบนนั้น

ซุนเจิ้งเต้าเห็นเฟิ่งชิงเฉินสั่งการโจวสิงเช่นนั้น ก็พลันกล่าวถามอย่างจงใจว่า "มีอันใดหรือ?แม่นางเฟิ่งมิไปหรือ? แม่นางคงมิใช่ว่าหวาดกลัวอยู่กระมัง ถึงยามนั้น กระหม่อมสองพ่อลูกจะเป็นผู้ลงมือเอง แม่นางเฟิ่งคอยมองดูอยู่ด้านข้างก็ได้"

แม้ว่า เขาจักไม่เคยทำเรื่องเช่นนี้มาก่อน ทว่า การที่เขามาในวันนี้ เขาได้เตรียมการมาเป็นอย่างดี พร้อมทั้งกระทำการยืมมีดผ่าตัดมาด้วย

เฟิ่งชิงเฉินพลันกรอกตาไปมาเบา ๆ พร้อมทั้งแย้มยิ้มออกมาเล็กน้อย

นางอยากจะใช้การชันสูตรศพ เพื่อช่วยซุนซือสิงลงจากหลังม้า มิคาดคิดว่า จักเป็นซุนเจิ้งเต้าเองที่คิดจะลองเชิงนาง นี่ถือว่าเป็นความคิดที่ไปในทางเดียวกันได้

"ท่านหัวเราะอันใดกัน?" เมื่อซุนเจิ้งเต้าเห็นเฟิ่งชิงเฉินหัวเราะเช่นนั้น ก็พลันรู้สึกหงุดหงิดยิ่งนัก พลันหันไปหาซุนซือสิงว่า สิ่งที่เขาทำมันดูน่าขันนักหรือ?

ซุนซือสิงเพียงแค่ส่ายหน้าไปมาด้วยความไม่รู้

ตั้งแต่เขาย่างกรายเข้ามาในจวน ก็มิกล้าที่จะมองเฟิ่งชิงเฉินเท่าใดนัก

เขาไม่เห็นด้วยกับการกระทำของท่านพ่อที่นำศพมา เพื่อจะทำให้เฟิ่งชิงเฉินตกใจ ไม่ว่าจะอย่างไร เฟิ่งชิงเฉิน นางก็เป็นอาจารย์ของเขา การกระทำเช่นนี้ ถือเป็นการที่เขาไม่เคารพต่ออาจารย์ของตนเอง

เฟิ่งชิงเฉินจึงหยุดหัวเราะลง พลางทำหน้าตาจริงจังว่า "ขออภัยท่านหมอซุน ชิงเฉิน เพียงนึกอะไรบางอย่างได้ขึ้นมา แค่กแค่ก ท่านหมอหลวงซุนวางใจได้ อีกครู่หนึ่ง ชิงเฉินจักตามเข้าไปเอง ทว่า ก่อนที่ชิงเฉินจักเข้าไปนั้น ต้องไปตระเตรียมอะไรบางอย่างเสียก่อน"

"เตรียม? เตรียมอะไรหรือ?" ซุนเจิ้งเต้ากล่าวถามออกมาด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์

"ไปเตรียมอุปกรณ์ชำแหละศพ" เฟิ่งชิงเฉินพลางชี้ไปที่ศพ

นางไม่สามารถใช้สองมือคู่นี้ได้

"ข้านำมาแล้ว แม่นางเฟิ่งมิต้องเตรียมสิ่งใดเลย" ซุนเจิ้งเต้าพลันส่งสัญญาณให้ซุนซือสิงไปนำของมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ