ลมหายใจที่ร้อนผ่าวทำให้คนรู้สึกหงุดหงิดได้ เฟิ่งชิงเฉินรีบผลักเขาออกโดยไม่ต้องคิด "พูดกันดีๆก็ได้นี่ จะเข้ามาใกล้ข้าทำไม"
คนเราย่อมมีปฏิกิริยาตอบสนองตามสัญชาตญาณ
"เจ้าคิดว่าคำพูดเมื่อครู่นี้จะพูดเสียงดังได้งั้นหรือ?" ตี๋ตงหมิงเหลือกตามองบน "เอาเถอะ อย่ามามากความเลย เรื่องจวนจิ้นหยางโหวข้าขอมอบหมายให้เจ้าไปจัดการ ข้าหวังว่าเรื่องนี้จะไม่แพร่สะพัดนะ"
จวนจิ้นหยางโหวใช่ว่าจะเล่นงานได้ง่ายๆ ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จวนจิ้นหยางโหวจะเป็นฝ่ายผิด แต่ถ้าหากเรื่องนี้แพร่สะพัด สองตระกูลก็เสียหายพอๆกัน จะให้คนอื่นมามองว่าทั้งสองตระกูลต้องมาแตกหักกันเพียงเพราะผู้หญิงคนเดียวไม่ได้
"ตี๋ตงหมิงมันจะมากเกินไปแล้ว เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับข้าล่ะ ข้าเป็นแค่หมอนะ" เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกว่าตัวเองนั้นตาบอดที่หลงมองว่าชายคนนี้ใจกว้าง
ความใจกว้างก็เป็นเพียงเปลือกที่ห่อหุ้มเขาไว้ ในความเป็นจริงแล้วเขาเป็นคนคิดการอย่างแยบยล
"เจ้าเป็นคนที่รู้เรื่องราวทั้งหมด หากเจ้าไม่จัดการเรื่องนี้ ข้าจะฆ่าเจ้าเพื่อปิดปาก" คิดจะคุยกันด้วยเหตุผลงั้นหรือ? อย่าหวังเลยว่าจะทำเช่นนั้นกับคนของราชวงศ์ได้
เมื่อเขาพูดจบก็ขึ้นไปบนหลังม้า
"เฟิ่งชิงเฉิน เร็วๆด้วยล่ะ ถ้าชักช้าแล้วญาติผู้น้องข้าเป็นอะไรขึ้นมา ข้าจะคิดบัญชีกับเจ้านะ" เมื่อสิ้นเสียงแล้ว เขาก็ฟาดแส้ลงไปบนหลังม้าแล้วมุ่งหน้ากลับเมืองหลวงในทันที
"เฮ้......ตี๋ตงหมิง มาพาข้ากลับเมืองหลวงด้วยสิ" เฟิ่งชิงเฉินเห็นตี๋ตงหมิงควบม้าหนีอย่างรวดเร็วก็ตะโกนเรียกด้วยความโมโห
เขาใจร้ายจริงๆที่กล้าปล่อยนางไว้นอกเมืองตามลำพัง นี่มันนอกเมืองนะ อาศัยขาเพียง 2 ข้าง แล้วนางต้องเดินอีกนานแค่ไหนนี่
"ตี๋ตงหมิง คนใจร้าย จำเอาไว้เลยนะ ให้ข้าไปจัดการใช่ไหม? ได้ หากข้าทำให้เรื่องในจวนจิ้นหยางโหวฉาวโฉ่ขึ้นมาไม่ได้ ก็ไม่ต้องมาเรียกข้าว่าเฟิ่งชิงเฉินเลย" เฟิ่งชิงเฉินยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น
เชอะ......
เฟิ่งชิงเฉินด่าทอเขาด้วยความคับแค้นใจ เรื่องในจวนจิ้นหยางโหวขนาดตี๋ตงหมิงยังไม่อยากออกหน้า แล้วอย่างนางจะไปทำอะไรได้ นางไม่มีอำนาจแม้แต่น้อย
เฟิ่งชิงเฉินหัวเสียเป็นอย่างมาก แต่ต่อให้จะหัวเสียอย่างไรก็ต้องหาทางกลับเมืองหลวงให้ได้ ดวงอาทิตย์ก็ตรงศีรษะพอดี ตั้งแต่ออกมานอกจวนยังไม่ได้พักเลย นางทั้งหิวทั้งเหนื่อย แต่ต่อให้จะเหนื่อยหรือว่าหิวแค่ไหนก็ต้องกัดฟันเดินต่อไปเรื่อยๆ มิฉะนั้นแล้ว นางคงต้องค้างแรมนอกเมืองแน่
ครั้งแรกนางกลับมาจากนอกเมืองในสภาพที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ย กลายเป็นเรื่องฉาวโฉ่ในเมืองหลวงอยู่นาน ครั้งที่สองชื่อเสียงนางก็ป่นปี้ หากมีครั้งที่สามอีกล่ะก็......
เฟิ่งชิงเฉินตัวสั่นเทาเล็กน้อย นางไม่อยากจินตนาการถึงครั้งที่สามเลยว่า หากเกิดเรื่องขายหน้าขึ้นมาอีก นางยังจะมีหน้าอาศัยอยู่ในเมืองหลวงต่อไปอีกหรือไม่?
อุตส่าห์กอบกู้ชื่อเสียงคืนมาจากการรักษาดวงตาหวังจิ่นหลิง นี่ทุกอย่างต้องเละเทะอีกหรือนี่
ตอนนี้อย่าเพิ่งคิดอะไรมากเลย หาทางกลับเมืองหลวงก่อนเถอะ
เฟิ่งชิงเฉินเดินกลับเมืองหลวงตามรอยเท้าของม้าที่ตี๋ตงหมิงขี่ นางหวังว่าจะกลับถึงเมืองหลวงได้ทัน ก่อนที่ประตูเมืองจะปิดลง
ณ จวนอ๋องเก้า
"ตี๋ตงหมิง เขาทำเพื่อหวังจิ่นหลิงเยอะจริงๆ เหอะ......ชื่อเสียงเฟิ่งชิงเฉินเป็นเช่นนั้นแล้วยังจะแต่งงานกับสมาชิกราชวงศ์ได้อีกหรือ แล้วเขายังจะกังวลอะไรอีก" ตงหลิงจิ่วนั่งเอามือเท้าคาง
"ส่งคนตามไปจับตาดู อย่าให้นางเป็นอะไรไปเด็ดขาด" ถึงเวลาแล้วที่เฟิ่งชิงเฉินจะได้รับบทเรียน นางจะได้เข้าใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้มันไม่ได้สวยงามไปเสียหมด แล้วก็ใช่ว่าจะไม่มีผู้ใดมุ่งเอาชีวิตนาง
"พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง"
ณ จวนลั่วอ๋อง
"ไปเตรียมรถม้า ข้าจะออกไปนอกเมือง" ตงหลิงจื่อลั่วกล่าวในขณะที่ให้สาวใช้มาช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้
เขารู้ดีว่า หากเฟิ่งชิงเฉินกลับมายังเมืองหลวงตอนดึกดื่นเที่ยงคืน หรือกลับมาเมื่อฟ้าสาง ชั่วชีวิตนี้เขาจะไม่มีโอกาสให้เฟิ่งชิงเฉินมาเป็นชายารองของเขาแน่
ณ จวนซู่ชินอ๋อง
"เจ้าโง่เอ๊ย ทำไมข้ามีหลานที่โง่อย่างนี้นะ เจ้า ข้าจะพูดอย่างไรกับเจ้าดี" ซู่ชินอ๋องโกรธจัดหลังจากที่ได้ฟังตี๋ตงหมิงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...