จิ้นหยางโหวฮูหยินได้ฟังแล้วก็พยักหน้า ดวงตาของนางเริ่มแดงก่ำแต่ไม่มีน้ำตา "ข้าเข้าใจแล้ว ขอบใจแม่นางเฟิ่งมากๆ"
เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้พูดอะไรมาก นางรู้ว่าจิ้นหยางโหวฮูหยินน่าจะสงสัยใครบางคน ไม่เช่นนั้นตอนที่ตนเพิ่งแจ้งนาง นางคงไม่ดูขุ่นเคืองอย่างที่เห็น
จิ้นหยางโหวฮูหยินโดนวางยา เรื่องนี้ยังตรวจสอบไม่ได้ว่าผู้ที่วางยานอกจากสามีของนางแล้วจะยังมีผู้ใดอีก ด้วยเหตุนี้เฟิ่งชิงเฉินจึงเห็นใจนางมาก
จิ้นหยางโหวฮูหยินรับมือต่อสถานการณ์ได้ยอดเยี่ยม ไม่นานนัก สีหน้าของนางก็กลับมาเป็นปกติ นางขอร้องเฟิ่งชิงเฉินว่า "แม่นางเฟิ่ง ท่านจะช่วยข้าตรวจสอบเรื่องนี้ได้หรือไม่"
นางเชื่อมั่นในตัวเฟิ่งชิงเฉิน หมอคนก่อนหน้าจำนวนมากรวมไปถึงหมอหลวงยังไม่เคยมีใครตรวจพบว่านางถูกวางยามาก่อน ถึงแม้จะตรวจพบแต่ก็คงไม่กล้าพูด มีเฟิ่งชิงเฉินเพียงคนเดียวที่ตรวจพบและกล้าบอกนางตามตรง
ญาติทางฝั่งนางเป็นที่พึ่งให้นางได้จริงๆ
จิ้นหยางโหวฮูหยินรู้สึกขอบคุณตี๋ตงหมิงยิ่งนัก หากไม่ได้เขาแล้วล่ะก็......
เมื่อนึกว่าจะเกิดอะไรขึ้น จิ้นหยางโหวฮูหยินก็หวั่นใจยิ่งนัก
เรื่องราวมาถึงขั้นนี้แล้ว มีหรือนางจะไม่เข้าใจ การที่นางเจ็บออดๆแอดๆแล้วลูกพี่ลูกน้องของสามีก็รีบมาดูแลนาง แถมยังรับดูแลสามีและลูกของนางด้วย
หมายคร่าชีวิตนาง หลับนอนกับสามีนาง และพรากลูกไปจากนาง ผู้หญิงคนนี้ช่างเลือดเย็นเหลือเกิน
แล้วเจียงอวี้ซิ่วก็พาคุณชายน้อยมา คุณชายน้อยดูน่ารักเหมือนอย่างตุ๊กตา แต่ตุ๊กตาตัวนี้กลับไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกับมารดา เขาอยู่แต่กับเจียงอวี้ซิ่วเท่านั้น
เรื่องพวกนี้เฟิ่งชิงเฉินไม่ต้องการก้าวก่าย หลังจากที่นางตรวจร่างกายให้คุณชายน้อยจนแน่ใจว่าเขาแข็งแรงดีแล้วก็กลับไปยังเรือนใหญ่ แล้วรายงานว่าจิ้นหยางโหวฮูหยินมีร่างกายที่อ่อนแอ จะต้องพักผ่อนให้มากๆ
จิ้นหยางโหวมีสีหน้าเริงระรื่น เขามองเฟิ่งชิงเฉินด้วยแววตาที่เป็นมิตรมากขึ้น แต่เฟิ่งชิงเฉินยิ่งมองเขาก็ยิ่งรู้สึกรังเกียจ
แม้แต่ภรรยาคู่ใจก็ยังทำได้ลงคอ ผู้ชายแบบนี้น่าจะตายๆเสียให้หมด
"เฟิ่งชิงเฉิน ญาติผู้น้องของข้าป่วยเป็นโรคอะไรกันแน่?" ตี๋ตงหมิงสังเกตท่าทางของเฟิ่งชิงเฉินแล้วก็รู้ทันทีว่าจะต้องเกิดเรื่องไม่ดีแน่ เมื่อออกมาจากจวนจิ้นหยางโหวแล้ว เขาก็เอ่ยถามนาง
"นางถูกวางยาพิษ" เฟิ่งชิงเฉินไม่ต้องการปิดบังสิ่งใดทั้งนั้น
"ถูกวางยาพิษ?" ก็เห็นว่านางเป็นปกติดีแล้วจะถูกวางยาได้อย่างไร แล้วหมอคนก่อนหน้านี้ล่ะ? เป็นคนตายพูดไม่ได้หรืออย่างไร? คนถูกวางยาแต่กลับตรวจไม่พบ" ตี๋ตงหมิงโมโหเป็นอย่างมาก เขาแทบอยากจะย้อนกลับไปที่จวนจิ้นหยางโหวในทันที แต่กลับถูกเฟิ่งชิงเฉินห้ามไว้
"ท่านซื่อจื่อ อย่าวู่วามสิ หากท่านโวยวายไปตอนนี้ก็มีแต่จะทำให้จิ้นหยางโหวและฮูหยินต้องเสียหน้า" ต่อจากนี้ไปสองตระกูลนี้คงมีเรื่องบาดหมางกัน เรื่องบางเรื่องไม่ต้องจัดการด้วยวิธีเช่นนี้ก็ได้
"เฟิ่งชิงเฉิน นางเป็นลูกพี่ลูกน้องของข้านะ ถ้าหากข้าไม่ ถ้าหากข้าไม่......ก็คงจะไม่รู้เรื่องเลย" ตี๋ตงหมิงรู้สึกเสียใจมาก......
ตี๋ตงหมิงบีบไหล่เฟิ่งชิงเฉินอย่างแรง เฟิ่งชิงเฉินเจ็บจนน้ำตาร่วง......
แม้ตี๋ตงหมิงจะไม่รีบกลับไปเล่นงานคนที่จวนจิ้นหยางโหว แต่เขากลับขี่ม้าออกนอกเมืองไป เฟิ่งชิงเฉินก็รู้สึกร้อนใจ นางต้องการให้เขาปล่อยนางไป เพราะนางมีเรื่องที่ต้องทำอีกมากมาย ไม่มีเวลาออกนอกเมืองไปกับเขาในตอนนี้
แต่ตี๋ตงหมิงเป็นใครล่ะ?
พระนัดดาของซู่ชินอ๋อง เขาเป็นคนที่ยิ่งใหญ่และทรงอำนาจมาก แต่ความทรงอำนาจของเขาไม่ได้มีไว้เพื่อกดขี่พวกชาวบ้าน แต่กลับมีไว้บีบบังคับชนชั้นสูง เขาพูดคำไหนคำนั้น ไม่เคยเปิดโอกาสให้ผู้ใดปฏิเสธ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ