นางรู้ดีว่าจวนในยุคโบราณมีขนาดกว้างใหญ่ ปกติแล้วที่ประตูข้างจวนจะมีเกี้ยวเตรียมพร้อมไว้เสมอ แต่เนื่องจากสถานะเช่นนาง แต่ไหนแต่ไรมาก็ยังไม่เคยได้มีโอกาสสัมผัสการดูแลที่ดีเลิศเช่นนี้ ไม่นึกเลยว่านางจะได้มานั่งเกี้ยวครั้งแรกที่จวนจิ้นหยางโหว จิ้นหยางโหวให้การต้อนรับขับสู้นางดีจริงๆ
เฟิ่งชิงเฉินถูกพามาที่เรือนจิ้นหยางโหวฮูหยิน เมื่อมาถึงหน้าประตูทางเข้าก็มีหญิงงามออกมารอรับนาง เมื่อเห็นเฟิ่งชิงเฉินมาแล้ว นางก็รีบเช็ดน้ำตา
"ท่านหมอเฟิ่ง ท่านพี่เชิญท่านมาได้แล้ว ช่างวิเศษจริงๆ"
อาการตื้นตันใจเช่นนี้ ราวกับว่าคนไข้เป็นแม่ของตัวเอง เฟิ่งชิงเฉินถอยหลังไป 1 ก้าว แล้วพิจารณาหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า
ถือว่านางก็หน้าตาสะสวย แต่ก็ใช่ว่าจะงามอย่างไร้ที่ติ ดูๆไปก็เหมือนหญิงธรรมดา นอกจากใบหน้าของนางแล้ว ส่วนอื่นๆนางเทียบไม่ได้เลยกับฮูหยินหรือคุณหนูจวนอื่นๆ
เท่าที่นางสังเกตดู หรือว่าจะเป็นคนที่ตี๋ตงหมิงให้ความสนใจเป็นพิเศษ?
"ท่านหมอเฟิ่ง นางคือคุณหนูตระกูลเจียงผู้มีชื่อว่าเจียงอวี้ซิ่ว ฮูหยินสุขภาพไม่สู้ดี คุณหนูเจียงคอยดูแลฮูหยินมาตลอดเลยเจ้าค่ะ" สาวใช้ที่เอ่ยปากแนะนำนางเป็นคนของจิ้นหยางโหวฮูหยิน น้ำเสียงของสาวใช้ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยพอใจคนที่ชื่อเจียงอวี้ซิ่วเท่าใดนัก
ยิ่งเฟิ่งชิงเฉินได้ฟังเช่นนั้นก็ยิ่งมองนางอย่างถี่ถ้วนมากขึ้น เฟิ่งชิงเฉินลองมองนางในฐานะผู้ที่จะมาเป็นคู่ครองของตี๋ตงหมิง มองอย่างไรก็ไม่ค่อยถูกใจ เจียงอวี้ซิ่วไม่คู่ควรกับตี๋ตงหมิงเลยจริงๆ
ลักษณะการมองของเฟิ่งชิงเฉินถือเป็นการกระทำที่ไม่ค่อยสุภาพนัก แม้จะเป็นการมองผู้ที่มีสถานะเทียบเท่ากันกับนางก็ถือว่าไม่สุภาพอยู่ดี
สาวใช้ของเจียงอวี้ซิ่วเห็นดังนั้นแล้วก็รู้สึกฉุนเฉียว "เฟิ่งชิงเฉิน ท่านจ้องอะไรน่ะ? คุณหนูของข้า ให้ท่านจ้องหน้าเช่นนั้นได้ด้วยหรือ"
สาวใช้คนนี้เป็นผู้ที่ดูแคลนเฟิ่งชิงเฉิน การแต่งกายของเฟิ่งชิงเฉิน ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีเครื่องประดับเลย ไม่เห็นเหมือนคุณหนูเลยสักนิด แต่ดูเหมือนเป็นชาวบ้านธรรมดามากกว่า
และในสายตาของพวกผู้ดีแล้ว พวกชาวบ้านนี่แหละเป็นอะไรที่กระจอกสิ้นดี
"อย่าเสียมารยาทสิ" เจียงอวี้ซิ่วดุสาวใช้เบาๆด้วยแววตาขุ่นเคือง
"แม่นางเจียง ชิงเฉินต้องขออภัยจริงๆค่ะ" เฟิ่งชิงเฉินไม่ใส่ใจคำพูดของสาวใช้ แต่กลับเอ่ยคำขอโทษนาง
"นานๆทีชิงเฉินจะได้เห็นผู้ที่มีรูปโฉมงดงามดังเช่นแม่นางเจียง ก็เลยจ้องมองจนตาค้างน่ะค่ะ"
คำพูดประโยคนี้จะฟังดูจริงใจหรือไม่นั้น แต่ออกปากชมกันเช่นนี้แล้ว ผู้ที่ถูกชมก็ทำตัวไม่ถูก......
จิ้นหยางโหวฮูหยิน ลูกพี่ลูกน้องของตี๋ตงหมิง รูปร่างหน้าตาไม่เด่นเท่าเจียงอวี้ซิ่ว แต่เมื่อดูจากบุคลิกและท่าทางการวางตัวแล้ว คนอย่างเจียงอวี้ซิ่วเทียบนางไม่ติดเลย
ทั้งสง่างามและเรียบร้อย แม้นางจะกำลังป่วยอยู่ แต่เมื่อมีแขกมาก็ไม่ได้รับแขกด้วยใบหน้าอิดโรย แต่กลับมีใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
สมแล้วที่นางเป็นฮูหยิน และเป็นนายหญิงใหญ่ของจวนนี้
จะหาภรรยาคู่ใจก็ต้องหาให้ได้ดีแบบนี้ จิ้นหยางโหวฮูหยินสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ได้มาพบเห็นได้ดีมาก
หลังจากการแนะนำตัวคร่าวๆแล้ว จิ้นหยางโหวฮูหยินก็เอ่ยขึ้นมาว่า "ข้าคงต้องขอรบกวนท่านหมอเฟิ่งเสียแล้วล่ะ สุขภาพของข้านั้นคุ้มดีคุ้มร้าย"
นางกล่าวด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลอ่อนหวานและมีความเป็นกันเอง พร้อมกับยื่นมือมาให้เฟิ่งชิงเฉินตรวจ ข้อมือที่อยู่ใต้แขนเสื้อผอมบางเสียจนน่าตกใจ ฮูหยินขุนนางชั้นผู้ใหญ่ เหตุใดจึงผอมแห้งถึงเพียงนี้ แต่ใบหน้าจิ้นหยางโหวฮูหยินก็ยังคงประดับด้วยรอยยิ้ม
ช่างน่านับถือยิ่งนัก!
เฟิ่งชิงเฉินพยายามวางสีหน้าให้นิ่งเฉย แล้ววางมือซ้ายของตนลงบนข้อมือของฮูหยิน
การจับชีพจร เฟิ่งชิงเฉินทำเป็น ช่วงที่นางสอนการแพทย์แผนตะวันตกให้กับซุนซือสิง นางก็ได้เรียนรู้เรื่องการแพทย์แผนจีนจากซุนซือสิงเช่นเดียวกัน ทักษะเบื้องต้นเป็นเรื่องที่ง่ายมากสำหรับนาง
แต่ทว่า......ชีพจรนี้ทั้งคงที่และแข็งแรง ไม่เหมือนกำลังป่วยเลยนี่นา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ