นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 233

หมอหลวงพลันก้าวเข้าไปด้านหน้าด้วยความระมัดระวัง พลางค่อย ๆ แก้ผ้าพันแผลของซีหลิงเทียนเหล่ยออกมา หลังจากทายาใส่เข้าไปในบาดแผลของเส้นเอ็นแล้ว หลังจากนั้น ก็พลันพูดความคิดเห็นของตนออกมา แล้วจึงประชุมหาแนวทางวิธีการรักษาที่ไวที่สุด

ซุนเจิ้งเต้ารู้ดี หากว่าตนเองเสนอหน้าเข้าไปในยามนี้ ต้องซวยแน่ ๆ ยามที่กำลังครุ่นคิดว่าส่งหมอหลวงคนใดมา เพื่อผลประโยชน์ของพวกหมอหลวงเอง จึงได้กล่าวว่า "ฝ่าบาท นี่เป็นสิ่งที่พวกกระหม่อมหารือกันออกมาได้ ฝ่าบาทลองทอดพระเนตรดูหน่อยเถิดพะยะค่ะ"

"วางเอาไว้" ซีหลิงเทียนเหล่ยพลันจับจ้องไปยังผ้าเช็ดหน้าที่เปื้อนเลือดของตน จากนั้นสีหน้าก็พลันมืดคล้ำลงเรื่อย ๆ

"ฝ่าบาทวางใจได้พะยะค่ะ ท่านหมอเฟิ่งได้ต่อเส้นเอ็ดและเส้นเลือดให้ท่านแล้ว ขาของฝ่าบาทจักต้องฟื้นคืนเช่นเดิมได้แน่พะยะค่ะ" หากเฟิ่งชิงเฉินอยู่ที่นี่ นางย่อมต้องมองหมอหลวงด้วยสายตาดูถูกเป็นแน่

ฟื้นคืนเป็นดังเดิมงั้นหรือ ฝันกลางวันมากไปแล้ว บาดแผลสาหัสถึงเพียงนี้ จักให้มาฟื้นคืนเป็นเช่นเดิม ย่อมเป็นไปไม่ได้ หลังจากนี้ เขาย่อมไม่อาจวิ่งหรือกระโดดได้อีก เพียงแค่สามารถเดินเหินได้เหมือนคนปกติดเท่านั้น

"อื้ม" ซีหลิงเทียนเหล่ยส่งเสียงตอบรับที่ไม่คล้ายตอบรับออกมา

หมอหลวงบางคนหาได้ทระนงตนไม่ เพียงต้องการประจบสอพลอต่อหน้าซีหลิงเทียนเหล่ยเท่านั้น หากว่าองค์รัชทายาทท่านนี้ สามารถไปเอ่ยต่อหน้าองค์จักรพรรดิหรือขุนนางท่านอื่นได้ ว่าฝีมือการแพทย์ของพวกเขาดีเยี่ยมนั้น ย่อมส่งผลดีต่อเขา หมอหลวงพวกนั้นเลยเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงว่า "ฝ่าบาทพะยะค่ะ บาดแผลที่มือของพระองค์ ให้กระหม่อมทำแผลให้เถอะพะยะค่ะ"

"ไสหัวไป บาดแผลของเจิ้น หาได้เกี่ยวอันใดกับพวกเจ้าไม่" ยามที่ซีหลิงเทียนเหล่ยกำลังหาที่ระบายอารมณ์โมโหนั้น พวกหมอหลวงพวกนี้ถือเป็นที่รองรับระบายอารมณ์ชั้นดี

เมื่อเห็นซีหลิงเทียนเหล่ยโมโหเช่นนั้น พวกหมอต่างพากันหน้าทอดสี เมื่อซุนเจิ้งเต้าเห็นเช่นนั้น ก็พลันรีบร้อนขอตัวลา

"ไปเถอะ " เนื่องจากว่าอยู่ในตงหลิง ซีหลิงเทียนเหล่ยจึงไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับพวกหมอหลวงมากนัก

"เสด็จพี่ บาดแผลของท่าน" ซีหลิงเหยาหวาพลันเอ่ยขึ้นมา พร้อมกับก้าวไปด้านหน้า

"เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องนี้" ซีหลิงเทียนเหล่ยพลันกรอกตาไปมา แววตาพลางฉายแววเย็นชาออกมาเล็กน้อย "เหยาหวา เจ้าหาเวลาไปเข้าเฝ้าฮองเฮาและองค์หญิงอันผิง พร้อมเล่าเรื่องที่ เฟิ่งชิงเฉินเสียมารยามกับเปิ่นกงในวันนี้เสีย"

เฟิ่งชิงเฉิน ข้าจักทำให้เจ้าไม่มีที่ยืนในตงหลิงเสีย เมื่อถึงยามนั้น นอกจากข้าแล้ว เจ้าย่อมไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว

"เพคะ เสด็จพี่" ซีหลิงเหยาหวาหาได้รู้เกี่ยวกับแผนการที่แท้จริงของซีหลิงเทียนเหล่ยไม่ขอเพียงแค่หาเรื่องให้เฟิ่งชิงเฉินได้ นางก็พอใจแล้ว

บาดแผลบนฝ่ามือของซีหลิงเทียนเหล่ยที่ไม่ได้รับการทำแผลนั้น ขอเพียงนับวันรอแผลเกิดอาการอักแสบขึ้นมา พร้อมทั้งทั่วตัวมีไข้สูง จนกระทั่งเกือบที่จะเสียขาของตนเองไป อย่างไรย่อมสามารถดึงเฟิ่งชิงเฉินออกมาได้

หากเฟิ่งชิงเฉินได้ถามถึงเหตุผล ย่อมรู้สึกได้ว่าซีหลิงเทียนเหล่ยเป็นคนโง่งเง่าอย่างแน่นอน

ข้าไม่ยอมทำแผลให้ แล้วอย่างไร พวกเจ้าเป็นตัวอันใดกันถึงกล้ามาเรียกร้องจากข้าได้

การเกลียดใครสักคน ไม่จำเป็นต้องใช้เหตุผล!

เฟิ่งชิงเฉินเกลียดซีหลิงเทียนเหล่ย เกลียดเขามาก!

ตงหลิงจิ่วเองก็ทำตามสัญญา พลางพาเฟิ่งชิงเฉินมาส่งถึงจวนเฟิ่ง นางหาได้พูดอันใดต่อไม่ เมื่อมาถึงหน้าประตูจวน นางก็พลันหันกายจากไปในทันที หากเป็นเฟิ่งชิงเฉินคนก่อน คงจะแอบคาดหวังในตัวเสด็จอาเก้ากระมัง แต่ในยามนี้?

นางพลันรู้สึกว่าตนเองคงเสียสติไปจริง ๆ ในยามนี้ นางจึงได้รู้จักสถานการณ์ของตนเองเสียที นั่นคือสตรีเช่นนาง ในโลกนี้คงไม่อาจได้รับความรักแล้วจริง ๆ ไม่อาจได้รับความโชคดีแล้ว อีกทั้ง คงไม่มีบุรุษคนใด ยินยอมที่จะเลือกนางเป็นฮูหยินในอนาคตเป็นแน่

เหตุการณ์ที่หน้าประตูเมืองนั้น ทำลายความสุขของนางที่ควรจะได้รับ นอกเสียจากว่าตนเองจะไปเป็นสนม มิเช่นนั้น อย่าได้หวังเลยว่าในชีวิตนี้นางจะสามารถแต่งออกไปได้อีก โดยเฉพาะบุรุษที่มีตำแหน่งสูงส่งเช่นเสด็จอาเก้า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ