นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 241

จวนเฟิ่งนอกเหนือจากเฟิ่งชิงเฉินก็ไม่มีเจ้านายอื่นแล้ว ก่อนหน้านี้ยังมีโจวสิง สามารถช่วยนางต้อนรับแขกได้ บัดนี้โจวสิงไม่อยู่ นางจึงทำได้เพียงให้แขกรออยู่ในห้องโถง แม้จะดูไร้มารยาทไปหน่อย แต่ก็ไม่มีทางเลือก

เฟิ่งชิงเฉินเปลี่ยนเสื้อผ้าของนางและหยิบผ้าเช็ดหน้าสองผืนออกมาแช่ในน้ำยา แล้วซ่อนไว้ในแขนเสื้อของนาง จากนั้นใช้เลือกผูกมีดชุดหนึ่งไว้ที่ขาอ่อน

ผ้าเช็ดหน้าสีขาวเปียกโชกไปด้วยน้ำยาสลบ ฤทธิ์ยาค่อนข้างดี อย่างน้อยสามารถล้มชายหนุ่มร่างกำยำได้ถึงสามคน เพราะยาสลบนั้นได้ผลกว่ายาชามากนั้นในสมัยนั้น

ผ้าเช็ดหน้าสีน้ำเงินถูกนำไปชุบน้ำยาแก้ฤทธิ์ยาสลบ นางมิได้มีใจอยากทำร้ายใคร แต่มีคนอื่นต้องการทำร้ายนาง ดังนั้นระวังไว้เป็นดี

แม้ว่าชื่อเสียงของนางจะไม่ดี แต่นางก็ไม่เคยคิดว่าจะเสียความบริสุทธิ์ไปจริงๆ นางเป็นสตรีที่อ่อนแอ ออกไปข้างนอกเพียงลำพังโดยไร้ที่พักพิงจากบิดา พี่ชายหรือตระกูล ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงปกป้องตัวเอง

ไม่น่าแปลกใจเลยที่เฟิ่งชิงเฉินจะระมัดระวังมากขนาดนี้ บัดนี้นางไม่มีสิ่งใดป้องกันตัว การพกของเหล่านี้เอาไว้ทำให้นางวางใจลงมาก

หลังจากกำชับต่อซุนซือสิงประโยคหนึ่ง ให้เขาตรวจอาการซุนฮูหยินและเซี่ยฮูหยิน จากนั้นก็นั่งรถม้าที่ส่งมาจากในวัง

โรงเลี้ยงสัตว์หลวงเป็นสถานที่สำหรับเลี้ยงสัตว์หายากและแปลกประหลาดในพระราชวัง มันครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางและมีสนามม้า ตามปกแล้วองค์จักรพรรดิใช้เพื่อความบันเทิง

หลังจากซูหว่านและเหยาหวาเดินทางมาถึงตงหลิง พวกนางก็ได้โอ้อวดพลังม้าสงครามของประเทศตนว่าแข็งแกร่งเพียงใด ขณะเดียวกันก็มิลืมที่จะดูถูกราชวงศ์ตงหลิงว่าม้าสงครามนั้นย่ำแย่ ทหารม้าก็อ่อนแอ

ในฐานะที่เป็นเจ้าภาพ การกระทำของเหยาหวาและซูหว่านทำให้จักรพรรดิตงหลิงไม่พอใจอย่างที่สุด และรู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก เมื่อสตรีทั้งสองคนยั่วยุว่าจะประลองม้ากับองค์หญิงอันผิง แม้องค์จักรพรรดิจะมิเห็นด้วย แต่ก็ทำได้เพียงพยักหน้าตอบรับ

ก็เพียงแค่การแข่งขันของสตรี หากชนะก็ดี ทว่าแพ้ก็มิเป็นไร แผนการนี้จักรพรรดิตงหลิงวางไว้อย่างดี น่าเสียดายที่ซูหว่านและเหยาหวามิใช่จัดการได้ง่ายๆ

วิธีการของซูหว่านและเหยาหวาทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่โตขึ้นมา กล่าวว่าการที่ทั้งสามราชวงศ์ร่วมประลองม้ากันที่นี่ มาดูว่าม้าศึกของราชวงศ์ใดดีกว่ากัน จากการแข่งขันของสตรีธรรมดา จึงกลายมาเป็นการแข่งขันระหว่างราชวงศ์

ท้ายที่สุดแล้ว ดูเหมือนนอกเหนือจากเฟิ่งชิงเฉินที่ไม่ใส่ใจเรื่องของประเทศ แต่ละวันวุ่นอยู่กับการรักษาผู้คน ทุกคนล้วนรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้

ภายใต้คำเชิญของซูหว่านและ จึงทำให้องค์จักรพรรดิยากที่จะลงจากหลังเสือ อีกทั้งจักรพรรดินีเดินทางมาดูด้วยตนเอง การแข่งขันครั้งนี้ตงหลิงจะแพ้ไม่ได้

แต่……

ในบรรดาสี่ประเทศ ทหารม้าของตงหลิงความสามารถด้อยที่สุด และทหารม้าที่ดีที่สุดในตงหลิงเป็นทหารของตระกูลอวี่เหวิน และบัดนี้อวี่เหวินหยวนฮั่วถูกองค์จักรพรรดิโยกย้ายไปชายแดนเพราะไม่ค่อยเข้าตา ซึ่งอยู่ไกลมิอาจเดินทางมาช่วยได้

นี่คือความโศกเศร้าของเจ้าบ้าน เมื่อถูกท้าดวลแล้วไม่รับคำท้าก็จะถูกหาว่าขี้ขลาด เมื่อชนะก็เพียงเท่านั้น แต่หากแพ้ละก็เท่ากับพ่ายแพ้ไปทั้งประเทศ

เฟิ่งชิงเฉินนับว่าเป็นคนสุดท้ายที่เดินทางมาโรงเลี้ยงสัตว์หลวง ตอนที่นางเดินทางมาถึงพบว่าที่นั่งถูกนั่งเต็มแล้ว จึงมองหามุมหนึ่งกำลังจะนั่งลง ก็ได้ยินน้ำเสียงของซีหลิงเหยาหวาเอ่ยขึ้นว่า

"องค์จักรพรรดิ ไม่ทราบว่าเฟิ่งชิงเฉินเดินทางมาแล้วหรือยัง หากว่าเดินทางมาถึงแล้ว เราควรจะเริ่มแล้วใช่หรือไม่?"

หา?

เฟิ่งชิงเฉินมีสิทธิ์ตัดสินใจว่าการแข่งขันจะเริ่มขึ้นเมื่อไรหรือ?

เฟิ่งชิงเฉินยืนอยู่กับที่ไม่รู้จะทำอย่างไรดี

"เฟิ่งชิงเฉินอยู่หรือไม่?"เสียงแหลมอันเป็นเอกลักษณ์ของขันทีดังขึ้น เฟิ่งชิงเฉินไม่รู้จะทำเช่นไร นางก้าวขาออกไปคารวะ "เฟิ่งชิงเฉินถวายบังคมองค์จักรพรรดิทรงพระเจริญหมื่นหมื่นปี ถวายบังคมจักรพรรดินี......"

ท่าทางอันดูเป็นธรรมชาติ มิได้มีความกังวลใจแม้แต่น้อย มองดูไม่เหมือนการเข้าเฝ้าจักรพรรดิในครั้งแรก วันนี้เฟิ่งชิงเฉินมิได้มีทีท่ากระวนกระวายใจ

ไม่ใช่ว่าเฟิ่งชิงเฉินจู่ๆ กลับกล้าหาญไม่เหรงกลัวจักรพรรดิ แต่เพราะองค์จักรพรรดิไม่ได้กดดันนาง ท่าทางผ่อนคลาย เห็นได้ชัดว่าเขามิได้ต้องการทำให้เฟิ่งชิงเฉินอับอายและกลัวกับเรื่องเล็กน้อยนี้ จะทำให้เสียหน้าราชวงศ์ตงหลิงเปล่าๆ

โชคดีที่เฟิ่งชิงเฉินถือได้ว่าเป็นคนที่เคยเจอสถานการณ์ใหญ่ๆ มาก่อน หากเปลี่ยนเป็นเฟิ่งชิงเฉินในอดีตคาดว่าคงจะตกใจกลัวแทบตาย จะนิ่งอยู่เช่นนี้ได้อย่างไร

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ