นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 242

หลังจากกล่าวจบเฟิ่งชิงเฉินก็ลุกขึ้นยืน นางกำลังคิดอยู่ในใจว่าในครั้งนี้องค์จักรพรรดิเห็นนางเป็นหมอหญิง หรือว่าใช้นางเป็นตัวหมากกันแน่

ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าเหยาหวาและซูหว่านไม่ได้มาดี ในวันนี้ไม่ใช่เพียงแค่แข่งม้า คาดว่าคงต้องแข่งทักษะทางการแพทย์ด้วย มองดูแล้วนางควรจะต้องคิดให้รอบคอบสักหน่อยว่าทำอย่างไรจึงจะได้ผลประโยชน์มากที่สุด……

ต่อให้ตัวนางเป็นหมากตัวหนึ่ง แต่ก็ไม่ใช่ว่าผู้ใดจะโยกย้ายนางได้ง่ายๆ

"นางคือเฟิ่งชิงเฉินหรือ? เหตุใดไม่เหมือนกับที่เคยได้ยินมาเล่า?" ในกลุ่มผู้นั่งชมมีทั้งสตรีผู้สูงส่ง ฮูหยินและคุณหนูมากมายที่เดินทางมาดูความสนุกสนาน เพราะเนื่องจากวันนี้เป็นการประลองกับองค์หญิงอันผิง ดังนั้นพวกนางเดินทางมาก็นับว่าเป็นเรื่องปกติ

ก่อนหน้านี้เฟิ่งชิงเฉินไม่ค่อยเข้าร่วมงานเลี้ยงเช่นนี้มาก่อน คนที่รู้จักนางจึงมีไม่มาก ส่วนใหญ่จะได้ยินจากข่าวลือคิดว่าเฟิ่งชิงเฉินเป็นคุณหนูจากตระกูลเล็กๆ ที่ไม่ได้รับการศึกษา ไม่อาจเงยหน้ามองผู้คนได้ บางครั้งมีคนเห็นนางในงานเลี้ยงราชวัง และยืนยันว่าข่าวลือนั้นเป็นเรื่องจริง

ต่อมา เนื่องจากเรื่องที่ว่ากันว่านางสูญเสียพรหมจรรย์ก่อนแต่งงาน และรักษาดวงตาของหวังจิ่นหลิงจนหายกลายเป็นที่รู้จักโด่งดัง ทุกคนจึงเข้าใจว่าเฟิ่งชิงเฉินเป็นผู้ที่มีรูปร่างหน้าตางดงามอ้อนช้อยบอบบางดูดสตรีทั่วไป แต่เมื่อพวกเขาเห็นในวันนี้กลับพบว่า……

เฟิ่งชิงเฉินแต่งกายด้วยชุดแดง คาดเข็มขัดสีดำยืนอย่างสง่างามต่อหน้าทุกคน แม้อยู่ต่อหน้าองค์จักรพรรดินางก็ไม่ได้มีความหวาดกลัว คิ้วได้รูปเต็มไปด้วยความหยิ่งผยอง ไม่รู้สึกถึงความหยาบคายหรือต่ำต้อยแม้แต่น้อย

"พวกเจ้าไม่รู้จักเฟิ่งซิ่ว เฟิ่งซิ่วนางเป็นคนดียิ่งนัก ฮูหยินรองตระกูลเซี่ยก็รักษากับนางจนหาย จากที่ข้ามองดูปีหน้าฮูหยินรองเซี่ยคงจะได้อุ้มบุตรสักที" ฮูหยินจวนจิ้นหยางโหวก่อนหน้านี้เคยได้รับความช่วยเหลือจากเฟิ่งชิงเฉินเอาไว้ ดังนั้นตอนนี้นางจึงก้าวออกมาพูดเพื่อเฟิ่งชิงเฉิน

"ได้ยินมาว่าทักษะทางการรักษาของนางไม่เลวเลย ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่" สตรีบางคนกำลังคิดวางแผนอยู่ในใจ

ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม สตรีกลุ่มนี้ล้วนไม่ได้มองเฟิ่งชิงเฉินอยู่ในระดับเดียวกันกับพวกนาง ในสายตาของพวกนางก่อนหน้านี้เฟิ่งชิงเฉินเป็นเพียงตัวตลก บัดนี้แม้นางจะเป็นหมอที่มีทักษะเก่งกาจก็มีประโยชน์เพียงแค่เอาไว้ใช้

เช่นเดียวกับการกระทำของซูหว่านและเหยาหวา แม้จะรู้ดีว่าบัดนี้เฟิ่งชิงเฉินกลายเป็นทหารผู้มีชื่อเสียง แต่สตรีทั้งสองนางก็ยังคงใช้นางดุจดั่งเป็นหมอหญิงทั่วไป แม้จะกล่าวเอ่ยชมนางแต่แท้จริงแล้วก็แฝงความดูถูกเหยียดหยามเอาไว้

หญิงชราคนหนึ่งที่ดูท่าทางสูงส่ง มองไปยังเฟิ่งชิงเฉินด้วยแววตานุ่มนวล "ทักษะของนางดีหรือไม่ข้าาไม่รู้ แต่ดวงตาคู่นั้นของนางแหลมคมยิ่งนัก เรื่องของจวนเจิ้นกั๋วกงก็เป็นเพราะดวงตาคู่นั้นของนางที่มองทะลุโปร่งไม่ใช่หรือ อีกทั้งยังมีเรื่องที่จวนจิ้นหยางโหว หากไม่ใช่เพราะนาง จิ้นหยางฮูหยินจะมีชีวิตที่ดีเช่นนี้ได้หรือ?"

คนอื่นๆ ได้ยินดังนั้นก็หัวเราะออกมาและกล่าวอย่างติดตลกว่า "ฟู่ฮูหยินวางแผนจะให้เฟิ่งชิงเฉินดูลูกสะใภ้ให้หรือ?"

"ข้ามีแผนนี้อยู่เช่นกัน บรรดาตระกูลขุนนางใหม่มักมีกฎไม่เข้มงวดนัก มีช่องโหว่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตระกูลฟู่ของข้า ปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมเดิมอย่างเคร่งครัด จะรับสะใภ้ซึ่งไม่เคร่งครัดเข้ามาได้อย่างไร ในตงหลิงมีตระกูลมั่งคั่งมากมาย ค่อนข้างโดดเด่นมั่นคง แต่ไม่ค่อยมีตระกูลใดเข้าตาองค์จักรพรรดิเท่าไร โดยมากแล้วจะกูลที่มั่งคั่งเหล่านั้นจะแต่งงานกับตระกูลขุนนางใหม่ในตงหลิง"

แม้ก่อนจะแต่งงานได้สืบชัดเจนแล้ว แต่เรื่องบางเรื่องความลับบางอย่างไม่ใช่ว่าจะสืบกันได้ง่ายๆ

เหตุการณ์สองครั้งระหว่างจวนจิ้นหยางโหวและจวนเจิ้นกั๋วกงทำให้ทุกคนเริ่มกระสับกระส่าย เกรงว่าจะคว้าเอาสตรีที่แอบมีความสัมพันธ์กับผู้อื่นก่อนแต่งงานกลับมา เมื่อถึงเวลานั้นคงจะขายหน้ายิ่งนัก

"ฟู่ฮูหยินกล่าวได้สมเหตุสมผล ไว้วันหลังจะต้องเชิญหมอเฟิ่งมาชมดอกไม้เสียแล้ว" สตรีผู้อยู่ด้านข้างพยักหน้าเห็นด้วย

ฮูหยินจวนเจิ้นกั๋วกงก็ได้ใช้โอกาสนี้ในการเอ่ยปากเช่นกัน แต่ไม่ใช่นางที่กล่าวออกมาเอง มีคนอื่นพูดแทนว่า "ข้าได้ยินมาว่าเมื่อไม่กี่วันก่อน ฮูหยินใหญ่ของจวนเจิ้นกั๋วกงร่างกายไม่สบายนัก หมอเฟิ่งให้ยานางและรักษาหาย

คุณหนูหลายคนในจวนเจิ้นกั๋วกงอายุรุ่นราวคราวเดียวกับหมอเฟิ่งล้วนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหมอเฟิ่ง อีกอย่างหมอเฟิ่งยังได้กล่าวยกย่องว่าคุณหนูในจวนเจิ้นกั๋วกงแต่ละคนมีความรู้และสุภาพยิ่งนัก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ