นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 244

ยกเลิกหรือ? ตงหลิงพ่ายแพ้ถึงสองสนามติดกันจะให้ยกเลิกได้อย่างไร องค์จักรพรรดิไม่ได้ตอบสิ่งใด เหยาหวาจึงกล่าวขึ้นว่า "ฝ่าบาทเพคะ ได้ยินมาว่าหมอเฟิ่งเป็นบุตรสาวของท่านแม่ทัพเฟิ่ง เหยาหวาเคยเห็นท่าทาง อันสง่างามของแม่ทัพเฟิ่งมาก่อน คาดว่าหมอเฟิ่งคงจะได้รับอิทธิพลความแข็งแกร่งนั้นจากแม่ทัพเฟิ่งไม่น้อย สนามที่สามนี้ให้หมอเฟิ่งเข้าร่วมแข่งขันเป็นเช่นไร?"

เหยาหวากำลังกล่าววาจาเท็จ เมื่อครั้งแม่ทัพเฟิ่งสิ้นชีวิตไป เฟิ่งชิงเฉินยังคงเล็ก จะมีโอกาสถ่ายทอดความสามารถเหล่านั้นแก่นางได้อย่างไร?

เฟิ่งชิงเฉินซึ่งยืนอยู่ตรงมุม ฟังไม่ได้ยินนักว่าเหยาหวาและซูหว่านกล่าวสิ่งใดกัน นางได้ยินเพียง "แม่ทัพเฟิ่ง" "หมอเฟิ่ง" จึงได้รู้ว่าสตรีสองนางนี้กำลังขุดหลุมพรางให้นาง

แม้นางจะพอเดาได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่ขณะนี้เมื่อได้ยินสตรีทั้งสองนางกล่าววางแผนจัดการนางซึ่งหน้าก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหดหู่ใจ

ในเมื่อแอบกระทำไม่ได้ ก็กระทำกันซึ่งๆ หน้า ช่างเกินเหตุเหลือเกิน เพียงแต่…… นางฟังไม่ได้ยินชัดเจนจึงไม่อาจออกมาปกป้องตนเองได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงรู้สึกหดหู่อยู่ในใจและอึดอัดยิ่งนัก

หากสนามที่สามนี้จะให้นางเข้าไปแข่งขันล่ะก็ นางจะทำให้ซูหว่านและเหยาหวาเข้าใจว่าเฟิ่งชิงเฉินไม่ใช่คนที่จะมาจัดการได้ง่ายๆ

"ข้อเสนอขององค์หญิงเหยาหวาดียิ่งนัก เพียงแต่ว่าพวกเรานั้นแข่งขันมาถึงสองสนามแล้ว เสียแรงไปมากมาย หากหมอเฟิ่งเข้ามาแข่งในสนามที่สาม เกรงว่าจะไม่เป็นธรรมนัก" ซูหว่านกล่าวความคิดเห็นของนางออกมาด้วยรอยยิ้ม

"ที่น้องซูหว่านกล่าวมาก็ถูกต้อง" องค์หญิงเหยาหวาพยักหน้าทำท่าทางดูอึดอัดใจ จากนั้นดวงตาของนางก็เป็นประกายดูเหมือนจะมีความคิดดีๆ ขึ้น

ตงหลิงจิ่วมองไม่สนใจสิ่งที่สตรีทั้งสองนางสนทนากัน

ต้องการจะจัดการกับเฟิ่งชิงเฉิน? พวกเจ้าจะต้องสูญเสียแน่นอน เพราะเฟิ่งชิงเฉินไม่ได้มีทักษะทางการแพทย์เท่านั้น

"ฝ่าบาทเพคะ เหยาหวามีข้อเสนอไม่ทราบว่าควรไม่ควรกล่าว" ในฐานะองค์หญิงของซีหลิง เหยาหวาไม่เกรงกลัวจักรพรรดิตงหลิงแม้แต่น้อย ซีหลิงเหยาหวาเงยหน้าขึ้นมองดูจักรพรรดิตงหลิง

"พี่เหยาหวามีข้อเสนอดีๆ อะไรหรือ?" ซูหว่านกล่าวขึ้นด้วยท่าทางสงสัย ท่าทางให้ความร่วมมือของทั้งสองดีจนน่าประหลาดใจ แต่ละคนที่อยู่ในสนามนั้นผู้ใดบ้างที่ไม่ใช่ผู้ฉลาดหลักแหลม ต่อให้เป็นทักษะการแสดงอันยอดเยี่ยมก็ไม่อาจซ่อนไปจากสายตาพวกเขาได้

เสด็จอาเก้ายังคงไม่แยแสดังเดิม ตงหลิงจื่อลั่วเริ่มปวดหัวเล็กน้อย ส่วนตงหลิงจื่อชุนและตี๋ตงหมิงไม่ได้เงยหน้าขึ้น เขาดูถูกสตรีสองนางนี้

สตรีร้อยเล่ห์มารยาช่างน่าสะอิดสะเอียนหนัก พวกนางวางแผนจัดการเฟิ่งชิงเฉินมาแล้วก่อนหน้า แต่กลับทำเป็นเสแสร้งเพื่อให้ตงหลิงต้องอับอาย เพื่อให้เฟิ่งชิงเฉินต้องอับอาย ต้องการให้องค์จักรพรรดิโกรธแค้นเฟิ่งชิงเฉิน แถมยังทำทียกย่องเชิดชูเฟิ่งชิงเฉิน แสร้งทำเป็นคิดแทนเฟิ่งชิงเฉินเสียอย่างนั้น

ช่างน่าด้านหน้าทนยิ่งนัก สตรีเช่นนี้ให้ตายพวกเขาก็ไม่แต่งงานด้วยแน่ หากแต่งไปมีแต่จะทำให้ครอบครัวไม่สงบสุข

เหยาหวาไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา นางเพียงยิ้มเบาๆ จนกระทั่งองค์จักรพรรดิอนุญาตให้นางกล่าวได้ จึงได้บอกว่า "ฝ่าบาทเพคะ พวกเราตกลงกับองค์หญิงอันผิงไว้ว่าสนามที่สามจะเป็นการฝึกม้า แต่ในเมื่อหมอเฟิ่งไม่ได้ทำการแข่งขันในสองสนามก่อนหน้า เช่นนั้นสนามที่สามในการฝึกม้า ก็ให้หมอเฟิ่งฝึกม้าเหงื่อโลหิตของซีหลิงเราและม้าดำชางชานเป็นเช่นไร"

ข้อเสนอนี้ฟังดูยุติธรรม แต่ว่า……

ม้าเหงื่อโลหิตและม้าดำชางชานเป็นม้าพยศที่มีชื่อเสียงในจิ่วโจว ต่อให้องค์จักรพรรดิตงหลิงไม่อยากจะยอมรับเท่าไรนัก แต่ก็ต้องขอบอกว่าม้าขาวแห่งที่ราบสูงป๋ายสุ่ยไม่อาจสู้ได้กับม้าเหงื่อโลหิตและม้าดำชางชานนั้นเลย

อย่าว่าแต่เฟิ่งชิงเฉินที่เป็นเพียงสตรีอ่อนแอ ต่อให้เป็นครูฝึกม้าของพระราชวัง หากต้องการฝึกม้าเหงื่อโลหิตหรือม้าดำชางชานให้เชื่อง ก็ไม่แน่ว่าจะประสบความสำเร็จได้ ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงเฟิ่งชิงเฉิน ในการฝึกมาทั้งสองชนิดนี้ภายในหนึ่งวัน เห็นได้ชัดว่าพวกนางขุดหลุมพรางให้เฟิ่งชิงเฉินกระโดดลงไป

องค์จักรพรรดิตกอยู่ในความครุ่นคิด ข้อเสนอแนะของเหยาหวาเห็นได้ว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่ง แต่หากว่าเขาปฏิเสธก็ดูเหมือนจะขายหน้ายิ่งกว่าการพ่ายแพ้ เพราะการปฏิเสธหมายความว่าตงหลิงหวาดกลัว

ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร ราชวงศ์ตงหลิงล้วนจำเป็นต้องยอมรับความท้าทาย ทว่าไม่จำเป็นที่จะต้องให้องค์จักรพรรดิกล่าวออกมาด้วยตนเอง

"น้องเก้า เจ้าคิดว่าอย่างไร?" องค์จักรพรรดิรู้จักนิสัยของตงหลิงจิ่วดี เขาจะไม่ยอมให้เหยาหวาและซูหว่านกระโดดโลดเต้นอยู่ที่นี่เป็นแน่

ตามที่องค์จักรพรรดิประสงค์ ตงหลิงจิ่วตอบรับว่า "สู้!"

ประโยคที่มีค่ายิ่งกว่าทองคำเพียงคำเดียวว่าสู้ ทำให้หัวใจของทุกคนในสนามพากันหวาดกลัว เสด็จอาเก้าคิดอย่างไรกันอยู่?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ