นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 257

องค์หญิงอันผิงเพียงคนเดียวจะทำให้ความโกรธของเสด็จอาเก้าสงบลงได้อย่างไรกัน? แค้นนี้ต้องชำระ คนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทั้งหมด เขาจะไม่ปล่อยไปแม้แต่คนเดียว

"บอกหมอหลวงซุน ข้าต้องการให้อาการบาดเจ็บของซีหลิงเทียนเหล่ยสาหัสมากกว่าเดิม ถ้าหากสามารถทำให้บาดแผลของเขาเปิดออกได้ ถือว่าดีที่สุด"

ผู้ที่มีฝีมือเย็บแผลดีที่สุดในตงหลิงคือเฟิ่งชิงเฉิน แต่เฟิ่งชิงเฉินได้รับบาดเจ็บจากแผนการของซีหลิงเหยาหวา คาดว่าซีหลิงเทียนเหล่ยคงจะได้เกลียดซีหลิงเหยาหวาแล้วล่ะ

"ขอรับ"

"เปิดเผยข่าวเรื่องที่ตระกูลซูต้องการช่วยให้ข้าได้ขึ้นครองราชย์ ให้ฝ่าบาทได้รับรู้"

คิดอย่างจะแต่งงานกับตงหลิงจิ่ว ก็ต้องมองว่าเจ้ามีความสามารถในเรื่องนั้นหรือไม่ ตระกูลซู? ยังไม่อยู่ในสายตาเขาเลยด้วยซ้ำ ไม่ต้องการขุ่นเคืองไม่ได้หมายความว่าเขาจะขุ่นเคืองไม่ได้

ซูหว่าน เจ้าชอบทะเลาะกับคนอื่นนักใช่หรือไม่? ข้าจะช่วยให้เจ้าสมปรารถนาเอง ให้เจ้าเข้ามาอยู่ในวัง ทะเลาะกับองค์ฮองเฮาเสียให้พอ

"ขอรับ"

"ไปบอกกับตระกูลเซี่ย เซี่ยกุ้ยเฟยถูกฮองเฮาวางยาแท้งบุตร ให้ตระกูลเซี่ยไปหมู่บ้านแรกในแผ่นดินเพื่อหาซื้อยาแก้พิษ"

ฮองเฮาไม่ต้องการให้เซี่ยกุ้ยเฟยคลอดบุตรออกมา เพราะกลัวว่าหลังจากที่เซี่ยกุ้ยเฟยให้กำเนิดองค์ชายออกมา จะคุกคามถึงตำแหน่งของตงหลิงจื่อลั่ว

ยิ่งฮองเฮาไม่ต้องการมากเท่าไหร่ เขาก็จะยิ่งส่งคนไปให้มากขึ้นเท่านั้น

ผู้หญิงเพียงคนเดียวไม่พอที่จะให้กำเนิดองค์ชายที่สูงศักดิ์

"ขอรับ"

"หาวิธีเปิดเผยเงื่อนงำการตายของพ่อแม่ตี๋ตงหมิงให้เขาได้รับรู้" ในครั้งนี้จักรพรรดิทำให้เขารำคาญจริงๆ ดังนั้นคนพวกนี้อย่าคิดว่าจะมีชีวิตอย่างสุขสบายได้แม้แต่คนเดียว

"ขอรับ"

หลังจากออกคำสั่งเสร็จเรียบร้อย ตงหลิงจิ่วโบกมือให้กับชายชุดดำ "ออกไป"

"ขอรับ"

"ช้าก่อน" ชายชุดดำที่หันกลับจะออกไป ตงหลิงจิ่วก็หยุดอีกฝ่ายไว้อีกครั้ง เขาลืมเรื่องที่สำคัญที่สุดไปเรื่องหนึ่ง

"ช่วยฮองเฮาแนะนำซีหลิงเหยาหวาให้กับตงหลิงจื่อชุน"

ต้องการจะแต่งกับตงหลิงจื่อลั่ว ซีหลิงเหยาหวาฝันไปแล้วหรือ ยิ่งนางต้องการมากเท่าไหร่ ตงหลิงจิ่วก็ยิ่งไม่ยอมให้นางสมปรารถนาได้

มาถึงที่ตงหลิง ก็ต้องทำตามกฎของตงหลิง

"ขอรับ"

ถ้าหากทำให้จักรพรรดิโกรธ ศพจะถูกซ่อนในสถานที่ห่างไกลหลายพันไมล์ แต่ถ้าหากทำให้เสด็จอาเก้าโกรธ ความอาฆาตแค้นจะปะทุขึ้นอย่างคาดไม่ถึง ไม่ว่าใครก็ไม่อาจพบเจอความสงบ

หลังจากที่ชายชุดดำออกไป เสด็จอาเก้าก็หายไปจากห้องหนังสือเช่นกัน

ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ที่ต้องให้เฟิ่งชิงเฉินเป็นคนตัดสินใจ

จวนเฟิ่ง

นี่เป็นครั้งแรกที่ตงหลิงจิ่วมาโดยไม่ได้บอกกล่าว การตรวจการณ์ในเวลากลางคืนที่จวนเฟิ่ง หลังจากที่จัดการกับองครักษ์ที่เฝ้ายามกลางคืนและสาวใช้เรียบร้อยแล้ว เขาก็ผลักประตูเข้ามา

ภายใต้ผ้าห่มผืนสีแดงที่เด่นชัด สีหน้าของเฟิ่งชิงเฉินซีดลงอย่างมาก และอาการอ่อนเพลียจากการแบบเจ็บแบบนั้น ทำให้เขาที่ได้เห็นรู้สึกเศร้าใจ

ตงหลิงจิ่วนั่งอยู่ที่ข้างเตียง แล้วค่อยๆนำผมที่แตกออกมาไปทัดไว้ที่หลังหูของนาง "บาดเจ็บจนเป็นแบบนี้ ข้าไม่รู้จริงๆว่าเจ้าฉลาดหรือโง่กันแน่ "

"ทำไมเจ้าถึงดื้อดึงแบบนี้? ในระหว่างวันเจ้าไม่สามารถอ่อนโยนกับสิ่งต่างๆได้เลยหรือ?" ถ้าหากว่าเฟิ่งชิงเฉินปฏิเสธ เขาจะต้องยืนหยัดเพื่อเฟิ่งชิงเฉินอย่างแน่นอน

"เจ้าทำไมถึงไม่เชื่อในตัวข้านัก ข้าไม่ได้มอบจี้หยกให้กับเจ้าไว้หรือ? ในเมื่อข้าให้ไปแล้วเจ้าก็ต้องเรียนรู้ที่จะใช้มันสิ ข้าไม่กลัวความวุ่นวายอะไรทั้งนั้น เจ้ามัวกลัวอะไร?"

ปีนี้ ตงหลิงจิ่วพูดได้มากกว่าที่เคย

"เห็นๆกันอยู่ว่าบาดเจ็บหนักขนาดนี้ ยังทำเป็นเหมือนคนที่ไม่เป็นอะไร ฝึกม้าต่อไปแบบนั้นอีก เจ้านี่ช่างแกล้งทำเก่งจริงๆ" ตงหลิงจิ่วดึงผ้าห่มไปห่มให้เฟิ่งชิงเฉิน

"ยังแกล้งทำเป็นหลับอยู่อีก เจ้าไม่อยากเจอข้าขนาดนี้เลยหรือ?" ตงหลิงจิ่วเอนกายเข้าไปกระซิบที่ข้างหูของเฟิ่งชิงเฉิน

ลมหายใจที่อุ่นๆวนเวียนอยู่ที่รอบคอ กลิ่นหอมของใบไผ่แทรกซึมเข้าไปในจมูก ในตอนที่เสด็จอาเก้าเอนตัวเข้ามา เฟิ่งชิงเฉินก็รู้สึกถึงแรงกดดันมากมายที่กดลงมา การหายใจของนางก็วุ่นวายในทันที เฟิ่งชิงเฉินเม้มริมฝีปากและหลับตาทั้งสองข้างลง

ในวินาทีที่ตงหลิงจิ่วเข้ามา นางก็รู้แล้ว

ไม่ใช่เพราะนางตื่นตัวเพราะความระมัดระวัง แต่เพราะร่างกายของนางเจ็บปวด เจ็บจนนางไม่สามารถหลับได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ