"คุณหนูเฟิ่ง ข้าเกรงว่าอาจจะเกิดปัญหาเล็กน้อย วันนี้มิว่ายังไงแม่นางก็ต้องไปขอรับ" เจ้าหน้าที่ทั้งสองดูลำบากใจและยืนอยู่ที่ประตูโดยเข้ามาขวางทางของเฟิ่งชิงเฉินเอาไว้
ท่านผู้ตรวจการได้ออกคำสั่งให้เชิญเฟิ่งชิงเฉินไปให้ได้ มิเช่นนั้น......
มิว่าคดีนี้จะตัดสินออกมาอย่างไร อีกฝ่ายหนึ่งก็จะถูกขุ่นเคือง ท่านผู้ตรวจการเพิ่งเข้ารับตำแหน่ง เขาจะกล้าทำให้ตระกูลเซี่ยและตระกูลหวังขุ่นเคืองได้อย่างไร
จึงเป็นเหมาะอย่างยิ่งที่จะนำตัวเฟิ่งชิงเฉินเข้ามารองรับความโกรธของทั้งสองตระกูล
"อะไรนะ? ข้าไร้ความสามารถช่วยอะไรพวกท่านมิได้ แต่พวกท่านก็ยังอยากให้ข้าไปอีกหรือ?" เฟิ่งชิงเฉินเน้นย้ำคำว่า "ไร้ความสามารถ"
"เหอะๆ คุณหนูเฟิ่ง ท่านจะไร้ความสามารถได้อย่างไร? ความสามารถของท่านนั้นข้าน้อยเคยได้เห็นแล้ว คุณชายรองซูฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้เพราะคุณหนูเฟิ่ง มิว่าอย่างไรคงต้องขอเชิญท่านเดินทางไปกับเราสักหน่อยขอรับ"
มิว่าจะช่วยได้หรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่ง เฟิ่งชิงเฉินเพียงไปแสดงทัศนคติของนางออกมา จากนั้นความโมโหของทั้งสองตระกูลเซี่ยกับตระกูลหวังก็จะมาลงที่นางแทน
เจตนาร้ายเช่นนี้ เฟิ่งชิงเฉินจะมิเข้าใจได้อย่างไร เฟิ่งชิงเฉินตัวสั่นด้วยความโกรธ
ใต้เท้าเว่ยผู้นี้น่ารังเกียจยิ่งกว่าบิดาของคุณชายเหยียนเสียอีก
เฟิ่งชิงเฉินไม่อยากจะแสร้งทำเป็นคนหน้าซื่อใจคดกับคนสองคนนี้ นางตบโต๊ะแล้วกล่าวอย่างโกรธเคืองว่า "พวกท่านคิดว่าข้าโง่หรือ? ใช้ข้าเป็นโล่กำบัง? ก็ควรดูด้วยว่าพวกท่านมีความสามารถนั้นหรือไม่ เรื่องนี้อย่าว่าแต่พวกท่านเลย แต่ให้ใต้เท้าเว่ยเป็นคนมาเชิญไปเอง ข้าก็คงจะมิไว้หน้า......อย่าบีบบังคับให้ข้าฆ่าพวกท่าน"
เอ่อ……
เจ้าหน้าที่ทั้งสองสูดหายใจเข้าลึกแล้วเดินเซออกไปหนึ่งก้าวจนเกือบจะล้มลง ในที่สุดพวกเขาก็สงบลง และเมื่อกำลังจะโน้มน้าวดูอีกครั้ง ก็ได้ยินเสียงชายหนุ่มขี้เล่นดังขึ้นข้างหลัง
"คุณหนูเฟิ่งช่างเย่อหยิ่งอะไรเช่นนี้ แม้แต่ใต้เท้าเว่ยเดินทางมาเชิญก็มิยอมไว้หน้า แล้วหากข้าออกหน้าเองเล่า? จะไว้หน้าข้าหรือไม่?"
ขณะที่กล่าวนั้น ชายหนุ่มก็ใช้พัดปักลายดอกท้อพัดเบาๆ เดินเข้าไปอย่างสง่างาม
เสื้อคลุมพระจันทร์เสี้ยวปักด้วยดอกท้อสองสามดอกตรงแขนและชายเสื้อ มองไปดูสดใสมิน่าเบื่อ
ใบหน้างดงามราวดอกท้อแต่มิเหมือนหญิงสาว รูปร่างผอมเพรียว หน้าตาหล่อเหลาดูอารมณ์ดี ชายผู้นี้คงมาจากตระกูลที่มั่งคั่งและสูงส่ง
เขาคือใครกัน?
เมื่อคิดว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับตระกูลหวังและเซี่ย เฟิ่งชิงเฉินจึงกล่าวออกมาอย่างมิมั่นใจว่า "ท่านคือคุณชายจากตระกูลหวังหรือตระกูลเซี่ย?"
"เหตุใดจึงคิดเช่นนั้น?" คุณชายผู้งดงามผู้นั้นนั่งลงที่ตำแหน่งเจ้าบ้านอย่างเป็นธรรมชาติ
เห็นได้ว่าเขาคนนี้เคยชินต่อการอยู่เบื้องบน
"มีคนเดินทางมาที่จวนเฟิ่งมิมากนัก มิทราบว่าท่านนามว่าอย่างไร?" เฟิ่งชิงเฉินก็นั่งลงเช่นกัน
นางเองก็ไม่รู้จะทำเช่นไร หากว่านางยืนคุย ก็จะกลายเป็นว่าสาวรับใช้ยืนคุยกับนาย
อีกฝ่ายชั่งดูสูงสง่าเหลือหลาย!
"เจ้ามิรู้จักข้าจริงหรือ?" คุณชายผู้นั้นตกใจราวกับว่าการที่เฟิ่งชิงเฉินมิรู้จักเขาเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ
เฟิ่งชิงเฉินครุ่นคิด นางพยายามค้นหาความทรงจำเดิมของร่างนี้อย่างระมัดระวัง จากนั้นส่ายหน้าอย่างจริงใจ "เป็นเรื่องแปลกหรือที่ข้ามิรู้จักท่าน?"
ก่อนที่ชายหนุ่มจะอ้าปากเอ่ย ก็มีเสียงชายผู้สูงศักดิ์อีกคนหนึ่งดังขึ้นที่นอกประตู "ฮ่าๆๆ คุณชายเซี่ยซาน ข้ามินึกเลยว่าในพระราชวังนี้ยังมีคนที่มิรู้จักเจ้าอยู่ด้วย"
เฟิ่งชิงเฉินเงยหน้าขึ้นมองและเห็นชายหนุ่มในชุดขาวยาวปักลายดอกกล้วยไม้ที่แขนเสื้อและชายเสื้อกำลังเดินเข้ามาอย่างสงบและสง่างาม
ช่างหล่อเหลา สง่างาม สูงส่ง
ทั้งสองเรียกได้ว่าสูสีกัน
"นางมิรู้จักข้า และนางคงมิรู้จักเจ้าอย่างแน่นอนคุณชายหวังชี"
เมื่อชายหน้าตางดงามไร้ที่เปรียบสองคนเช่นบุปผาปรากฏขึ้นพร้อมกัน หากเป็นสตรีทั่วไปก็คงถูกหลงเสน่ห์เสียจนหัวใจเต้นแรง น่าเสียดาย......
หลังจากที่เฟิ่งชิงเฉินได้พบกับเสด็จอาเก้าตงหลิงจิ่ว ชายหนุ่มรูปหล่อที่ดุจดั่งเทพนิยายอย่างที่หาได้ยากในโลกใบนี้ นางจึงมิสนใจชายหนุ่มรูปงามในแบบของมนุษย์นี้เลย
เฟิ่งชิงเฉินลุกขึ้นยืนคำนับคุณชายหวังชีเบาๆ จากนั้นส่งสายตาให้หวังชีเป็นความหมายว่าให้นั่งลง
เซี่ยซานและหวังชีมองไปก็พอจะรู้ว่าอยู่ในระดับเดียวกัน เซี่ยซานนั่งอยู่บนตำแหน่งเจ้าบ้าน แล้วหวังชีจะไปนั่งตำแหน่งรองได้อย่างไร
แน่นอนว่าหวังชีมิได้แสดงความสุภาพออกมาแม้แต่น้อย เขานั่งลงตรงที่นั่งหลักดื้อๆ แล้วพยักหน้าไปทางเฟิ่งชิงเฉินด้วยท่าทางดูเหมือนเปี่ยมไปด้วยคุณธรรม
ช่างเป็นเหล่าคุณชายที่ถูกตามใจจนติดนิสัยแย่เหลือเกิน
เฟิ่งชิงเฉินหัวเราะออกมาเบาๆ นางมิได้กล่าวอะไรออกมาแล้วนั่งลงตรงที่นั่งตำแหน่งรองลงมา
"ข้ามิรู้ว่าคุณชายทั้งสองจะมาที่นี่ การต้อนรับอาจมิดีเท่าที่ควร โปรดยกโทษให้ข้าด้วย ชาธรรมดาคงมิสามารถทำให้คุณชายทั้งสองคนพอใจได้ ดังนั้นชิงเฉินจึงมิอาจบังคับบ่าวให้นำมารับรองคุณชายทั้งสองได้"
ความหมายก็คือ เฟิ่งชิงเฉินไม่แม้แต่จะนำชามาต้อนรับ
หืม?
เซี่ยซานและหวังชีตกตะลึงพร้อมกัน รอยยิ้มบนริมฝีปากของพวกเขาดูแข็งทื่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...