นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 293

ในเมื่อคนอื่นยังไม่พูดถึงเรื่องสิทธิมนุษยชนกับนางเลย แล้วทำไมนางต้องพูดถึงเรื่องสิทธิมนุษยชนกับคนอื่นด้วย แบบนั้นก็ไม่ต่างกับการพล่ามเรื่องไร้สาระไม่ใช่หรือ

ในตอนที่เฟิ่งชิงเฉินกำลังนึกถึงคนงี่เง่าอย่างหลี่เซี่ยง สาวใช้ก็ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าให้นางจนเสร็จ และพานางไปที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เพื่อที่จะหวีและม้วนผมให้เป็นมวย

สาวใช้ของตระกูลหวังฝีมือดีมาก เพียงแค่หวีไม่กี่ครั้งก็สามารถทำให้ผมแบบเรียบ และเพียงการเกี่ยวผมเบาๆด้วยปลายนิ้วมือ ก็เกิดเป็นมวยผมที่สูงตระหง่านขึ้นมาได้

"ผมของคุณหนูทั้งหนาและเรียบ ทำมวยผมไม่จำเป็นต้องใส่วิก" สาวใช้กล่าวชม และหยิบปิ่นปักผมทองออกมาจากกล่องเครื่องประดับ แล้วเสียบเข้าไปในมวยผม ตรงกลางของปิ่นปักผมทองมีทับทิมส่องประกายอยู่ ซึ่งทำให้เฟิ่งชิงเฉินงดงามและสดใสมากยิ่งขึ้น

"ข้ามีสิ่งของแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?" เฟิ่งชิงเฉินรู้ดีว่านางมีเครื่องประดับเพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น และไม่ใช่ของที่ล้ำค่าอะไรขนาดนั้น

ถ้าหากว่านางมีเครื่องประดับที่ล้ำค่าขนาดนี้ นางคงไม่แต่งตัวเรียบง่ายเช่นนั้นไปงานกวีครั้งที่ผ่านมา

รอยยิ้มของสาวใช้ได้หายไปทันที แต่ละคนยืนอยู่ที่เดิมและก้มหน้าลง

"มีอะไรก็พูดออกมา อย่าลืมสิว่าข้าเป็นนายหญิงของพวกเจ้า สัญญาซื้อขายตัวของพวกเจ้าอยู่ในมือของข้า" เฟิ่งชิงเฉินหยิบปิ่นปักผมหยกออกมาจากกล่องเครื่องประดับและถือไว้ในมือ ดูเหมือนว่านางจะหยิบออกมาเล่นๆแต่ก็แอบมีท่าทีที่ข่มขู่

เมื่อสาวใช้ทั้งสี่คนในห้องได้เห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ก็รีบคุกเข่าลงอย่างแรง "คุณหนูให้อภัยด้วย พวกข้าน้อยไม่ได้มีเจตนาจะปกปิดท่าน"

พวกนางนั้นรู้ดีว่า คุณหนูเฟิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้นไม่ใช่คนที่ใจดีและไม่ควรที่จะไปกลั่นแกล้ง

"เช่นนั้นก็พูดออกมา เครื่องประดับพวกนี้มาจากไหนกัน" ในใจของเฟิ่งชิงเฉินนั้นรู้ดีว่าสิ่งของเหล่านี้ต้องเป็นของที่หวังจิ่นหลิงส่งมาให้แน่ๆ แต่นางแค่รู้สึกไม่พอใจ ที่คนรอบตัวปิดบังนางไว้

ไม่ผิดที่คนเหล่านี้มาจากตระกูลหวัง และนางเองก็ไม่ได้บังคับให้เหล่าสาวใช้ห้ามติดต่อกับตระกูลหวัง และไม่ได้สั่งให้พวกนางขัดขืนคำสั่งตระกูลหวัง แต่การที่ปิดบังเรื่องนี้กับนางเป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำ

"ค่ะ องค์ชาย......" สาวใช้ตะโกนออกมาด้วยความคุ้นชิน แต่เมื่อนึกได้ว่าเจ้านายของตนเองในตอนนี้คือเฟิ่งชิงเฉิน จึงรีบพูดแก้ "เป็นองค์ชายใหญ่ของตระกูลหวังที่ส่งมาให้ องค์ชายบอกเอาไว้ว่ายังไม่ให้แจ้งกับคุณหนู เพื่อทำให้คุณหนูประหลาดใจโดยไม่รู้ตัว"

การจะทำให้ประหลาดใจเป็นข้ออ้าง หวังจิ่นหลิงเพียงกลัวว่าเฟิ่งชิงเฉินจะไม่รับเอาไว้ จึงได้สั่งไว้แบบนั้น เมื่อสิ่งของมาถึงที่จวนเฟิ่งและถูกเก็บเข้าที่ เฟิ่งชิงเฉินก็คงเกรงใจที่จะส่งคืนกลับไปแล้ว

"ลุกขึ้นมาเถอะ" เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้ปล่อยให้สาวใช้รู้สึกลำบากใจต่อไปอย่างนั้น นางรู้ว่าหวังจิ่นหลิงกลัวว่านางจะไม่รับไว้ นอกจากนี้นางก็ไม่ได้ให้สาวใช้เหล่านี้ลืมเจ้านายคนเก่าไป

"ถึงอย่างไรพวกเจ้าก็มาจากตระกูลหวัง พวกเจ้าเชื่อฟังคำสั่งขององค์ชายใหญ่นั้นไม่ผิด แต่ให้จดจำเอาไว้ด้วยว่า องค์ชายใหญ่ได้ส่งมอบพวกเจ้ามาให้ข้าแล้ว ก่อนที่พวกเจ้าจะทำเรื่องอะไร ต้องจดจำเอาไว้ว่า ถ้าหากเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก พวกเจ้าก็ไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่ในจวนขุนนางผู้ภักดีแห่งนี้แล้ว"

ปัง......เฟิ่งชิงเฉินโยนปิ่นหยกในมือเข้าไปในกล่องเครื่องประดับ เสียงดัง"ปัง"สาวใช้ทั้งสี่คนตกใจ รู้สึกเหมือนว่าปิ่นหยกนี้ได้โยนเข้าไปในใจของพวกนาง และรีบตอบรับขึ้นมา "เจ้าค่ะ"

"ลุกขึ้นเถอะ" อารมณ์ของเฟิ่งชิงเฉินลดน้อยลงอย่างไม่มีเหตุผล

จู่ๆนางก็นึกถึงคำพูดของอวี่เหวินหยวนฮั่วขึ้นมา ที่บอกว่าจวนของนางอยู่ได้อย่างสบายใจ ไม่มีคนนอก ไม่มีสายลับ ทำอะไรก็ไม่ต้องกังวล แล้วในตอนนี้ละ?

ถึงแม้หวังจิ่นหลิงจะไม่นับว่าเป็นคนนอก แต่ก็พูดไม่ได้ว่าเป็นคนใน ในจวนของนางนอกจากคนของตระกูลหวังแล้ว ยังมีตระกูลซูและตระกูลตี๋ ทุกย่างก้าวของนางล้วนอยู่ในสายตาของคนอื่น ถึงแม้ว่าคนเหล่านี้จะไม่มีเจตนาร้าย แต่ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถเรียกหาได้อย่างสบายใจ

"นอกจากเครื่องประดับเหล่านี้แล้ว ยังมีอะไรอีกที่องค์ชายใหญ่ส่งมา" เฟิ่งชิงเฉินคิดขึ้นในใจ นางจะต้องซื้อสาวใช้ใหม่ทั้งหมดเลยหรือไม่?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ