นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 298

ไม่ไว้หน้า

เรื่องที่ตระกูลเซี่ยไม่ไว้หน้านาง ทุกคนในเมืองหลวงล้วนรู้ดี ในตอนนี้หากนางจะไปสมานสัมพันธ์กับตระกูลเซี่ยก็ดูจะกลายเป็นเรื่องน่าสงสัย แต่หากจะไม่ให้นางก้าวออกมาเผชิญหน้าจัดการกับตระกูลเซี่ย คงจะทำให้เกิดความคับข้องใจมากยิ่งขึ้น

เรื่องที่ทำให้สูญเสียผลประโยชน์ของตนเองเช่นนี้ เฟิ่งชิงเฉินไม่ทำอย่างเด็ดขาด

"เรื่องนั้นไม่เกี่ยวกัน อีกอย่างหากเทียบกันแล้ว ชีวิตคนกับศักดิ์ศรีจะเทียบกันได้อย่างไร" ใช้โอกาสในการหลีกเลี่ยงภัย เป็นปฏิกิริยาธรรมชาติของมนุษย์ นางไม่ใช่เงินทองที่ผู้ใดเห็นก็ล้วนจะรักใคร่ไปเสียทุกคน ไม่ใช่ว่ารถม้าคันใดขับผ่านก็จะต้องพากันหยุดมองนาง

อย่างมาก เมื่อรถม้าของเสด็จอาเก้าเห็นนางก็คงจะหยุดมองดูชั่วครู่เท่านั้น

ซุนเจิ้งเต้าไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา เขาเพียงจ้องมองไปที่เฟิ่งชิงเฉินเหมือนต้องการจะมองเข้าไปในหัวใจนาง เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่ได้ใส่ใจสิ่งใด นางปล่อยให้เขาจับจ้อง

"เจ้าช่างมองได้ลึกล้ำเสียจริง การปล่อยวางได้เช่นนี้นับว่าเป็นบุญนัก" ซุนเจิ้งเต้าพยักหน้า แววตาของเขาแฝงไปด้วยความชื่นชมยินดีเพราะไม่มีผู้ใดอยู่ที่นั่นด้วย

"เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวว่าปล่อยวางหรือไม่ แม้ว่าข้าจะเป็นคนที่ชนเข้ากับกำแพงแล้วก็ไม่คิดจะย้อนกลับ แต่หากว่ารู้อยู่แล้วว่านั่นคือกำแพง แน่นอนว่าข้าจะไม่พุ่งเข้าไปชนมัน" เฟิ่งชิงเฉินลุกขึ้นยืนแล้วจับจดหมายที่อยู่ในแขนเสื้อเอาไว้

"เรื่องนี้ตกลงตามนี้ ที่เหลือคงต้องฝากไว้กับท่านหมอหลวงซุนแล้ว" ซุนเจิ้งเต้าตอบรับอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้ นางจะไปเกรงใจเขาทำไมเล่า

"วางใจเถิด ข้ารู้ว่าควรทำเช่นไร หากตระกูลเซี่ยอยากจะได้องค์ชายก็จะต้องออกแรงหน่อย" ซุนเจิ้งเต้ารู้ดีว่าจุดอ่อนของตระกูลเซี่ยอยู่ที่ใด

"เรื่ององค์ชายนั้นยังค่อนข้างห่างไกล ข้าคิดว่าเซี่ยกุ้ยเฟยควรจะพยายามสักหน่อย" นางยังพอมีพื้นที่ในการเลื่อนตำแหน่งขึ้นไป เมื่อตั้งครรภ์ถึงเวลานับสิบเดือนคลอดออกมายังไม่รู้ว่าจะได้องค์ชายหรือไม่ สู้คว้าโอกาสตรงหน้าไว้ไม่ดีกว่าหรือ

"เจ้าหมายความว่า......" ซุนเจิ้งเต้าหรี่ตาลง ดวงตาของเขาอันแหลมคมไม่อาจจะซ่อนเอาไว้ได้ และถูกเฟิ่งชิงเฉินจับได้พอดี

หมอหลวงคนหนึ่งเหตุใดจึงมีความสามารถเก่งกาจแหลมคมและมองทุกอย่างได้อย่างกระจ่างแจ้งเช่นนี้กัน? ในใจของเฟิ่งชิงเฉินมีคำถามเกิดขึ้น

ซุนเจิ้งเต้า คนผู้นี้ยิ่งรู้จักยิ่งรู้สึกว่าเขาไม่ธรรมดาเลย

ซุนเจิ้งเต้าเป็นคนเช่นไรกันแน่ ก่อนหน้านี้นางเคยสงสัยว่าซุนเจิ้งเต้าเป็นคนของเสด็จอาเก้า แต่หลังจากช่วงนี้ที่ได้ทำความรู้จักกันแล้วกลับพบว่าไม่ใช่

ปฏิกิริยาของซุนเจิ้งเต้ารวดเร็วว่องไวเพียงนี้ เขาสามารถหลบเลี่ยงแววตาอันชาญฉลาดเมื่อครู่ แล้วยิ้มจางๆ ไปทางเฟิ่งชิงเฉินเหมือนเป็นการปกปิด "ตระกูลเซี่ยจะทำเช่นนั้นหรือ?"

"แน่นอน การที่เพิ่มตำแหน่งหวงไปด้านหน้ากุ้ยเฟยหนึ่งคำ บุตรที่เกิดมานั้นก็จะได้รับความยิ่งใหญ่กว่าเดิม" แต่ละคนล้วนมีความลับ เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่ได้ไตร่ถาม นางแสร้งทำเป็นไม่รู้แล้วกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงบางเบา

"แม้ว่ามารดาจะสร้างความมั่งคั่งด้วยบุตร แต่โดยมากแล้วบุตรจะมั่งคั่งได้ด้วยมารดา บุตรชายของหวงกุ้ยเฟยถึงอย่างไรก็ได้รับความเคารพนับถือมากกว่าบุตรของกุ้ยเฟยธรรมดา เพื่ออนาคตขององค์ชายแล้ว ตระกูลเซี่ยจะต้องพยายามอย่างแน่นอน......"

ไทเฮาและไทเฟย ต่างกันเพียงแค่คำเดียวแต่สิ่งที่ได้รับนั้นต่างกันราวฟ้ากับดิน

"เจากำลังกำจุดอ่อนของตระกูลเซี่ย" ผู้คนในพระราชวังเพียงแค่มีสมองบ้างเล็กน้อยก็พอจะเข้าใจว่าตระกูลเซี่ยตั้งใจทำสิ่งใด

พวกเขาหวังว่าองค์จักรพรรดิพระองค์ใหม่แห่งราชวงศ์ตงหลิงจะมีความเกี่ยวข้องกับตระกูลเขาไม่ใช่หรือ?

"หากต้องการความมั่งคั่งล้นฟ้าก็จะต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต คนในตระกูลเซี่ยเข้าใจในผลเสียผลดีของเหตุผลนี้ ไม่จำเป็นต้องให้พวกเรากล่าวมากความ และด้วยเหตุนี้เองข้าตัดสินใจว่าวันพรุ่งนี้จะเชิญหวังจิ่นหลิงมารับประทานอาหารสักหน่อย" มุมปากของเฟิ่งชิงเฉินเผยอเป็นรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์ขึ้นมา จากนั้นผ่อนคลายลง ความมุ่งมั่นหนักแน่นที่แผ่ซ่านออกมา มองจากภายนอกดูเหมือนเป็นเพียงหญิงสาวธรรมดาทั่วไป

ริมฝีปากของซุนเจิ้งเต้าเยอะยิ้มขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ ก่อนจะกำชับตามภาษาผู้หลักผู้ใหญ่ว่า "เจ้าเล่นใหญ่เพียงนี้ ไม่กลัวว่าองค์จักรพรรดิจะโมโหหรือ ของขวัญนี้อาจทำให้เขาโมโหจนแทบตาย"

"ไม่หรอก องค์จักรพรรดิจะดีใจสิไม่ว่า เพียงแค่หลี่เซี่ยงไม่ตาย คาดว่าองค์จักรพรรดิคงจะไม่โมโห เพียงแค่หลี่เซี่ยงไม่ตาย ฝ่าบาทจะไม่ทำการบุ่มบ่ามอย่างแน่นอน คนเรานั้นหากว่ามีความหวัง ก็จะเอาแต่ตั้งตารอคอย"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ