สถานการณ์ในภายนอกช่างวุ่นวายยิ่งนัก ทว่า ภายในจวนเฟิ่งกลับเงียบสงบหาได้ยากเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีผู้ใดเข้ามารบกวน ทั้งยังไม่มีผู้ใดมาสร้างความวุ่นวายที่หน้าประตูจวนดั่งเช่นเคยอีก ภายในไม่ถึงสิบวัน เฟิ่งชิงเฉินก็สามารถเดินลงจากเตียงได้แล้ว
แต่ทว่า การแสร้งป่วยนั้น อย่างไรก็ต้องทำทีนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงนอน สองเท้าของเฟิ่งชิงเฉินจึงแทบจะไม่เคยได้แตะพื้นเลยแม้แต่น้อย
ยามที่เฟิ่งชิงเฉินกำลังพักผ่อนอยู่นั้น นางพลันหันไปดูระบบการให้คะแนนจริยธรรมทางการแพทย์ในกระเป๋าเครื่องมือแพทย์อัจฉริยะของนาง พลางเห็นว่า คะแนนจริยธรรมทางการแพทย์ของนางเพิ่มขึ้นมาถึงห้าคะแนน
ถึงแม้ว่าคะแนนจริยธรรมทางการแพทย์ของนางนั้น จะเพิ่มคะแนนให้ได้ไม่ยาก แม้ว่าในยามปกตินางจะมิได้รักษาคนไข้ คะแนนในส่วนตรงนี้ก็จะไม่ลดลงไปเช่นกัน มิคิดเลยว่า ยามที่นางยื่นมือไปทำคลอดให้ฮูหยินซื่อจื่อนั้น คะแนนจะเพิ่มขึ้นมาถึงสามคะแนนเช่นนี้ เฟิ่งชิงเฉินมองแล้วมีความสุขยิ่งนัก
อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่มีเลย ถึงแม้ว่าคะแนนจริยธรรมทางการแพทย์ของนางจะน้อยมาก อย่างมากที่สุดคะแนนก็จะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ นอกเสียจากว่า จะเกิดโรคระบาดขึ้นมา มิเช่นนั้น หากนางจะต้องมาคอยรักษาคนไข้ทีละคนละก็ การที่นางจะมีคะแนนเพิ่มขึ้นชั่วข้ามคืน ย่อมไม่อาจเป็นจริงได้เลย
เฟิ่งชิงเฉินหาได้รู้ไม่ว่า ในอีกไม่นาน ความคิดของนางนั้น จะทำให้คะแนนจริยธรรมทางการแพทย์ของตนสูงขึ้นมาอย่างน่าใจหาย โดยที่ตนเองยังไม่อยากจะเชื่อเสียด้วยซ้ำ
ในช่วงสิบวันที่ผ่านมานั้น เฟิ่งชิงเฉินจึงได้แต่อยู่ในห้องนอนของตนอย่างสบายใจ หากแต่ผู้ที่เป็นทุกข์นั้น ย่อมต้องเป็นองค์จักรพรรดิและตงหลิงจื่อลั่ว เนื่องจากว่า พวกเขากำลังจับจ้องรอเสด็จอาเก้าลงมืออยู่ ทั้งยังรอฟังข่าวการตายของเฟิ่งชิงเฉินออกมาอีกด้วย ทว่า หลังจากที่พวกเขารอมาเป็นเวลานานพลันรู้สึกหมดหวังยิ่งนัก
ฝ่าบาทที่รอฟังข่าวอยู่ที่เรือนแยกหลวงหลีซานนั้น ก็พลันต้องเดินทางกลับพระราชวังไปในทันที พระองค์เข้าใจอาการของเฟิ่งชิงเฉินเป็นอย่างดี นางเป็นไข้ไปถึงสามวันเต็ม ๆ เช่นนี้ หากฟื้นขึ้นมา อย่างไรก็ย่อมกลายเป็นคนโง่ไปแล้ว เรื่องนี้ทำให้ฝ่าบาทรู้สึกเสียดายยิ่งนัก ที่พระองค์ต้องมาเสียหมากในมือไปเช่นนี้ แม้แต่ปลาสักตัวก็ไม่อาจตกขึ้นมาได้อีก
หลังจากที่ฝ่าบาทเสด็จกลับพระราชวังในวันที่สองนั้น หลี่ซุนจึงได้เดินทางเข้าวัง เพื่อขอเข้าพบฝ่าบาทในทันที หากแต่ในครานี้ ฝ่าบาทหาได้มีท่าทีทำให้ลำบากใจไม่ พร้อมทั้งยังสั่งให้หมอหลวงออกมาดูอาการให้เฟิ่งชิงเฉินอย่างใจกว้าง
หลังจากที่หมอหลวงทั้งหลายต่างจับชีพจรให้กับเฟิ่งชิงเฉินแล้วนั้น สีหน้าพลันมืดครึ้มไปในทันที พร้อมทั้งยกมือขึ้นเขียนอะไรบางอย่างลงไปในกระดาษ พลางหันกายเดินกลับไปยังราชวังด้วยฝีเท้าที่หนักอึ้ง ทั้งยังแอบส่งสัญญาณบอกกล่าวกับผู้คนในจวนเฟิ่งว่า อาการของเฟิ่งชิงเฉินมิใคร่ดีนัก ให้เตรียมใจเผื่อกันไว้ด้วย
ทั้งทงจือและทงเหยา สาวใช้ทั้งสองต่างพากันร่ำไห้ออกมาราวกับหยาดน้ำตากลายเป็นสายเลือด จวนเฟิ่งในยามนี้ พลันตกอยู่ในความโศกเศร้าไปในทันที ราวกับว่า อีกไม่นานเฟิ่งชิงเฉินจะต้องจากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ
หากแต่ฝ่าบาทหาได้มีท่าทีแปลกใจอันใดไม่ เรื่องนี้อยู่ในความคาดการณ์ของพระองค์แล้ว แต่ทว่า พระองค์ยังคงแสร้งขู่หมอหลวงทั้งหลายว่า ให้ทำการชุบชีวิตของเฟิ่งชิงเฉินขึ้นมาให้ได้ หมอหลวงต่างก็มีสีหน้าหนักใจยิ่งนัก จึงได้แต่ขอตัวลากลับไป พร้อมกับข่าวลือที่กระจายออกมาว่า เฟิ่งชิงเฉินใกล้จะตายแล้ว
เพียงข่าวลือถูกแพร่กระจายออกมานั้น หวังจิ่นหลิงพลันรีบมุ่งหน้าไปที่จวนเฟิ่งในทันที แต่ทว่า เขากลับโดนหลี่ซุนขัดขวางเอาไว้ ยามที่มุ่งหน้าเข้าวังเพื่อไปขอเข้าเฝ้าต่อฝ่าบาท เพื่อต้องการเข้าไปเยี่ยมเยียนเฟิ่งชิงเฉินนั้น ฝ่าบาทกลับมิยินยอม เพียงกล่าวปลอบใจหวังจิ่นหลิงกลับมาว่า มีหมอหลวงอยู่เฟิ่งชิงเฉินมิอาจเป็นอันใดได้ ทั้งยังบอกกับหวังจิ่นหลิงว่ามิต้องเป็นกังวลและมิต้องไปเชื่อในข่าวลือมากนัก
ไม่เพียงแค่นั้น การลงมือของฝ่าบาทในครานี้ พระองค์พลันกล่าวว่า เกิดการลอบสังหารภายในจวนเฟิ่ง เฟิ่งชิงเฉินในยามนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมทั้งสั่งให้ทหารอีกห้าร้อยนายไปทำการปกป้องเฟิ่งชิงเฉินที่จวนในทันที
ผู้คนภายนอกย่อมต้องมองว่า องค์จักรพรรดิทรงเอ็นดูเฟิ่งชิงเฉินยิ่งนัก หากแต่ผู้ใดจะล่วงรู้จิตใจของโอรสมังกรได้เล่า การกระทำของฝ่าบาทในครานี้ ถือเป็นการจับตาและส่งสัญญาณเตือนมิให้หวังจิ่นหลิงบุกเข้าไปที่จวนเฟิ่ง ในยามนี้ จวนเฟิ่งจึงมีองครักษ์เงาอยู่ภายในจวนมากมายมิต่างกับในวังหลวงเลยทีเดียว หากหวังจิ่นหลิงต้องการจะลักลอบเข้าไปนั้น ยังไงเขาก็ไม่อาจทำได้
การเคลื่อนไหวขององค์จักรพรรดิเช่นนี้ ผู้ที่มีแววตาเฉียบแหลมย่อมรับรู้ได้ว่า ฝ่าบาทกำลังพยายามบีบบังคับให้หวังจิ่นหลิงทำอะไรเกินเลยอยู่ ทั้งยังแสร้งปั่นหัวให้หวังจิ่นหลิงเกิดความกังวลใจ เพียงแค่ทำเรื่องบุ่มบ่ามขึ้นมานั้น ฝ่าบาทย่อมต้องจัดการตระกูลหวังในทันที
การที่ฝ่าบาทอยากจะจัดการตระกูลหวังนั้น มิอาจจัดการได้ภายในหนึ่งวันหรือสองสามวันนี้ไม่ แต่น่าเสียดายนัก เนื่องจากตระกูลหวังจะกระทำสิ่งใด มักจะทำด้วยความรอบคอบเสมอ จึงเป็นการยากที่พวกเขาจะเผลอพลั้งพลาดออกมาได้ง่าย ๆ แต่หากโอกาสตกมาอยู่ในมือของฝ่าบาทเมื่อใดแล้ว พระองค์ย่อมมิปล่อยโอกาสที่จะจัดการตระกูลหวังไปโดยง่ายอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าในคราแรก เป้าหมายของพระองค์หาใช่หวังจิ่นหลิงไม่ หวังจิ่นหลิงเป็นเพียงผลพลอยได้ในหมากตานี้เฉย ๆ
แต่เดิมฝ่าบาทต้องการยืมมือเรื่องของเฟิ่งชิงเฉิน เพื่อทำให้หมากในกระดานของเสด็จอาเก้าเกิดความสับสนวุ่นวาย ทั้งยังอยากให้เสด็จอาเก้าออกหน้าเพื่อช่วยเหลือเฟิ่งชิงเฉิน แต่ในความเป็นจริงแล้ว หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ ยามที่เสด็จอาเก้าได้ยินข่าวการใกล้ตายของเฟิ่งชิงเฉินนั้น พระองค์มีเพียงใบหน้าที่เศร้าหมองลงเท่านั้น นอกนั้นเสด็จอาเก้ายังทำตัวเป็นปกติดียิ่งนัก
ฝ่าบาทรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง แต่ในขณะเดียวกัน ฝ่าบาทก็คิดการณ์ใดด้วยความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น
สตรีงามในแผ่นดินใหญ่ ย่อมต้องอยู่เบื้องหลังของแว่นแคว้นเสมอ หากว่า เพียงเพราะสตรีนางเดียว ทำให้ตงหลิงจิ่วถึงกับขาดสติในการรับมือ นั่นย่อมมิใช่ตงหลิงจิ่วที่เขารู้จัก ทั้งยังมิใช่คนของตระกูลตงหลิงอีกด้วย บุรุษตระกูลตงหลิงนั้น มิมีวันยอมทำทุกอย่างเพียงเพราะสตรีนางหนึ่งอย่างแน่นอน
ชื่นชอบนับว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่เพียงเพราะสตรีนางเดียว ถึงกับทำให้สูญเสียตนเองไปนั้น บุรุษในตระกูลตงหลิงมิมีทางทำเช่นนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...