นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 374

ได้หรือไม่?

ดูเหมือนจะตอบง่าย แต่ทุกคน ณ ที่นั้นล้วนเข้าใจดีว่าไม่ว่าเสด็จอาเก้าจะตอบอย่างไรก็ล้วนผิดทั้งสิ้น

ไม่ต้องพูดถึงความคิดที่จะพบเฟิ่งชิงเฉินของหนานหลิงจิ่นฝานเดิมก็คงไม่ได้เป็นเรื่องดีอยู่แล้ว แต่เขายังข้ามหน้าข้ามตาจักรพรรดิมาถามเสด็จอาเก้าโดยตรงก็เพื่อผลักเสด็จอาเก้าให้อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับจักรพรรดิ

หนานหลิงจิ่นฝานกำลังบอกจักรพรรดิว่าในสายตาของเขาไม่มีองค์จักรพรรดิแต่มีเพียงแต่เสด็จอาเก้าเท่านั้น หากจักรพรรดิและเสด็จอาเก้ามีความสัมพันธ์อันดี คำพูดของหนานหลิงจิ่นฝานก็จะไม่มีผล แต่ทุกคนต่างรู้ดีว่าจักรพรรดิสร้างกำแพงต่อเสด็จอาเก้าไว้สูงยิ่ง หนานหลิงจิ่นฝานกำลังยั่วยุจักรพรรดิอยู่

โชคดีที่องค์จักรพรรดิรู้ว่าควรหันกระบอกปืนไปยังศัตรูภายนอกร่วมกัน แม้ว่าเขาจะไม่พอใจเสด็จอาเก้าอย่างไร เขาก็จะไม่แสดงออกมาทางสีหน้า สีหน้าของเขายังคงประดับไปด้วยรอยยิ้มน่าเกรงขามตามธรรมชาติ สายตาของเสด็จอาเก้าก็ยังประดับไปด้วยรอยยิ้มเช่นกัน

ทุกคนในราชสกุลล้วนเชี่ยวชาญด้านการแสดง จักรพรรดิเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

สายตาของทุกคนมุ่งตรงไปที่เสด็จอาเก้าและรอคอยให้เขาตอบ แต่ราวกับเสด็จอาเก้าจะไม่ได้ยิน ดวงตาดำขลับนิ่งสงบเหมือนน้ำนิ่งจ้องมองหนานหลิงจิ่นฝานอย่างสงบ แต่กลับไม่ให้ใครอยู่ในสายตา

เมื่อเทียบกับหนานหลิงจิ่นฝานแล้ว ตำแหน่งของเสด็จอาเก้าไม่เพียงแต่สูงกว่าเขา เสด็จอาเก้าไม่ทำอะไรอื่น เพียงแค่จ้องมองไปเช่นนี้ เขาจ้องมองเช่นนี้ แต่กลับไม่มีเงาของเจ้าในดวงตาของเขา เสด็จอาเก้าใช้การกระทำบอกหนานหลิงจิ่นฝานว่าเขาไม่ชอบหนานหลิงจิ่นฝาน

ความหยิ่งทะนงและหยิ่งผยองของหนานหลิงจิ่นฝานถูกเสด็จอาเก้าเมินเฉยโดยสิ้นเชิงบวกกับเมื่อนึกถึงครั้งสุดท้ายที่เขาพ่ายแพ้ในกำมือของเสด็จอาเก้าแล้ว เขาจึงโกรธขึ้นมา...

ดวงตาเรียวยาวเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าราวกับหมาป่ากระหายเลือด หากไม่ใช่เพราะไม่ได้อยู่ในสถานที่ที่เหมาะสม หนานหลิงจิ่นฝานก็คงจะลงมือไปแล้ว เขาสูดหายใจเข้าลึกเพื่อระงับความโกรธ หนานหลิงจิ่นฝานฝืนยิ้มออกมาแล้วเอ่ยว่า "เสด็จอาเก้า หากท่านไม่ปฏิเสธ ข้าจะถือว่าเป็นอันตกลง"

เดิมคิดว่าเสด็จอาเก้าจะโกรธและแม้ว่าเขาจะไม่โกรธ อย่างน้อยเขาก็ควรจะพูดอะไรสักหน่อย แต่เสด็จอาเก้าไม่เห็นหนานหลิงจิ่นฝานอยู่ในสายตาเลย เสียงยั่วยุของหนานหลิงจิ่นฝานต่อหน้าเขาเป็นได้เพียงการแสดงไม่ต้องพูดถึงฝูงชน แม้แต่หนานหลิงจิ่นฝานเองก็ยังหาทางลงไม่ได้

หนานหลิงจิ่นฝานโกรธถึงขีดสุด ดวงตายาวรีของเขาเปล่งประกายเย็นเยียบ บรรยากาศรอบตัวเขาเคร่งขรึม ทุกคนล้วนหวาดกลัว พวกเขาก้าวถอยหลังอย่างเงียบเชียบด้วยกลัวว่าหากทั้งสองลงไม้ลงมือกันขึ้นมา ผู้โชคร้ายจะกลายเป็นเขา

ใครจะไปรู้ว่าหนานหลิงจิ่นฝานโกรธจัดแต่กลับหัวเราะออกมา "เสด็จอาเก้าช่างเป็นคนที่ยอดเยี่ยมนัก ข้าจะไม่รบกวนท่านแล้วก็แล้วกัน"

เขาสะบัดแขนเสื้อหันไปคำนับจักรพรรดิ "ฝ่าบาท เสด็จอาเก้าอนุญาตแล้ว ไม่ทราบว่าฝ่าบาทจะสามารถเรียกเฟิ่งชิงเฉินเข้าวังมาให้กระหม่อมพบหญิงประหลาดผู้นี้ได้หรือไม่"

คำว่า "ประหลาด" ถูกเน้นหนักเป็นพิเศษ เมื่อนึกถึงการเสียดสีก่อนหน้านี้ ทุกคนเข้าใจดีว่าเกิดอะไรขึ้น หากเฟิ่งชิงเฉินมาจะต้องถูกเขาฉีกหน้าอย่างแน่นอนและคงจะทำให้ตงหลิงพลอยขายหน้าไปด้วย เรื่องเช่นนี้จักรพรรดิย่อมไม่อยากให้เกิดขึ้น

จักรพรรดิไม่สนใจหนานหลิงจิ่นฝานและหันไปถามเสด็จอาเก้าอย่างดีแต่ที่แท้กลับมีเจตนาร้ายแอบแฝง "น้องเก้า?"

"พ่ะย่ะค่ะ" เสด็จอาเก้าลุกขึ้นและคารวะอย่างไม่ช้าไม่เร็ว

"องค์ชายสามยืนกรานที่จะพบเฟิ่งชิงเฉิน เจ้าเห็นว่าอย่างไร?" จักรพรรดิไม่พอใจเฟิ่งชิงเฉินเช่นกัน ชื่อเสียงของนางโด่งดังขึ้นอีกเล็กน้อยเมื่อเร็วๆ นี้ อีกทั้งการตายของหลี่เซี่ยง จักรพรรดิก็กริ้วเฟิ่งชิงเฉินเล็กน้อยเช่นกัน

"ขึ้นอยู่กับพระประสงค์ของฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ" เสด็จอาเก้าสบสายตาของพินิจพิเคราะห์ของจักรพรรดิ ดวงตาสีดำของเขาราวกับท้องฟ้ายามค่ำคืนเย็นยะเยือกราวกับน้ำ

จักรพรรดิรู้อยู่เสมอว่าไม่อาจอ่านอารมณ์จากใบหน้าหรือแม้กระทั่งดวงตาของเสด็จอาเก้าได้ ดังนั้นเขาจึงขี้เกียจเกินกว่าจะประเมิน เขาพยักหน้าและโบกมือให้เสด็จอาเก้านั่งลงพลางหันไปพูดกับหนานหลิงจิ่นฝาน "องค์ชายสาม เฟิ่งชิงเฉินเป็นสตรีที่ยังไม่ได้ออกเรือน ดังนั้นจึงไม่สมควรที่จะพบคนนอก"

จักรพรรดิไม่ได้ปกป้องเฟิ่งชิงเฉิน แต่กำลังปกป้องชื่อเสียงของสตรีตงหลิง จะให้เฟิ่งชิงเฉินเพียงผู้เดียวทำให้ชื่อเสียงของตงหลิงมัวหมองไปไม่ได้

"ไม่พบคนนอกอย่างนั้นหรือ? เช่นนั้นข้าแต่งงานกับนาง" หนานหลิงจิ่นฝานโพล่งออกมา เห็นได้ชัดว่านี่เป็นสิ่งที่เขาคาดหวัง "ฝ่าบาท ตำแหน่งชายารองของข้ายังว่างอยู่ คงไม่ถือว่าเป็นการดูแคลนเฟิ่งชิงเฉินกระมัง ในเมื่อข้ายอมแต่งงานกับนาง เมื่อนางพบกับข้าก็จะไม่ถือว่าเป็นคนนอกอีก"

"ตั้งแต่สมัยโบราณ การแต่งงานล้วนเป็นคำสั่งของบิดามารดา ต้องมีแม่สื่อแม่ชัก การขอแต่งงานขององค์ชายสาม จักรพรรดิหนานหลิงรู้หรือไม่?" ตอนกลางวันตงหลิงจื่อชุนเพิ่งขอให้เฟิ่งชิงเฉินมาเป็นชายารองของเขา เขาโมโหตงหลิงจื่อชุนจนแทบไม่อยากมองหน้า ตอนนี้หนานหลิงจิ่นฝานก็มาขอนางแต่งงานอีก เขากลับอยากจะช่วยจับคู่ให้สองคนนี้เสีย

เขาอยากรู้ว่าเมื่อน้องเก้าของเขาได้ยินแล้วจะมีสีหน้าเปลี่ยนไปหรือไม่ จักรพรรดิมองไปที่เขาและเห็นว่าเสด็จอาเก้าไม่ได้ขยับชายเสื้อของเขาด้วยซ้ำ เขาแอบคิดว่าน้องเก้าของเขาช่างไร้อารมณ์จริงๆ แต่เมื่อเขาหันกลับไปกลับพลาดเจตนาฆ่าที่แวบขึ้นในสายตาของเสด็จอาเก้า

องค์รัชทายาทที่อยู่ใกล้ตกใจกับท่าทางแปลกประหลาดของเสด็จอาเก้า แต่เมื่อมองหน้าเสด็จอาเก้า เขากลับไม่พบอะไร องค์รัชทายาทจึงแอบบอกตนเองว่าเขาคงดูผิดไป

หนานหลิงจิ่นฝานก็เหมือนกับจักรพรรดิ เขาพูดไปพลางลอบสังเกตท่าทีของเสด็จอาเก้าจากหางตา แต่ก็เหมือนจักรพรรดิอีกเช่นกันที่เขาไม่เห็นอะไรเลย เขาแอบคิดว่าเสด็จอาเก้านั้นล้ำลึกยากหยั่งถึงเกินไป แต่ละครก็ยังต้องดำเนินต่อไป "ฝ่าบาทวางใจเถอะพ่ะย่ะค่ะ ก่อนมาที่นี่ข้าได้บอกเสด็จพ่อแล้ว เสด็จพ่อให้ข้าจัดการได้ตามใจ แม่นางเฟิ่งตามข้ากลับไปจะต้องได้เป็นชายารองของข้า หากฝ่าบาทไม่เชื่อข้า ข้าสามารถป่าวประกาศต่อโลกได้ บิดาและมารดาของแม่นางเฟิ่งล้วนจากไปแล้ว ข้าจึงมิอาจสู่ขอกับพวกท่านได้ มิสู้ข้าสู่ขอกับฝ่าบาทเป็นอย่างไร? ฝ่าบาททรงเห็นด้วยหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ"

แต่งชายารองยังต้องป่าวประกาศไปทั่วหล้าหรือ คงมีแต่หนานหลิงจิ่นฝานเท่านั้นที่กล้าพูดเช่นนี้ออกมาได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ