อ่านสรุป บทที่ 375 ทำให้อับอาย เสด็จอาเก้าเสียอาการ จาก นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย
บทที่ บทที่ 375 ทำให้อับอาย เสด็จอาเก้าเสียอาการ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายInternet นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย อาช้าย อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
เฟิ่งชิงเฉินไม่เคยชอบให้ตัวเองถูกจัดอยู่ในตำแหน่งของผู้ที่อ่อนแอกว่าและยิ่งรังเกียจที่จะต้องปฏิบัติราวกับเป็นผู้ใสซื่อและบอบบาง ถูกเห็นอกเห็นใจ ในขณะเดียวกันนางก็ไม่ได้คาดหวังให้เสด็จอาเก้าจะยื่นมือออกมาช่วยนาง เมื่อตี๋ตงหมิงบอกกับนาง นางก็เตรียมตัวพร้อมจะต่อสู้แล้ว
ขั้นตอนแรกในการต่อสู้คือการเอาชนะศัตรูด้วยท่าทางที่อยู่เหนือกว่า ให้อีกฝ่ายรู้ว่านางไม่กลัว เฟิ่งชิงเฉินจึงแต่งตัวอย่างเต็มที่โดยไม่ลังเล
อยากเห็นนางอับอายหรือ? นางไม่มีทางทำให้อีกฝ่ายสบายเกินไปแน่!
อาภรณ์บนร่างของเฟิ่งชิงเฉินนั้นถูกเตรียมให้นางโดยเฉพาะโดยซุนฮูหยิน มันคล้ายเสื้อผ้าที่นางเคยสวมใส่ก่อนหน้านี้ แต่พวกมันดูหรูหรางดงามกว่าเสื้อผ้าที่นางสวมก่อนหน้านี้
แขนเสื้อกว้าง คอเสื้อเปิดกว้าง แต่ไม่เผยผิวแม้เพียงครึ่งนิ้ว ดูเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และสง่างาม หากสวมมงกุฎหงส์ด้วยและทำท่าทางน่าเกรงขามก็มีท่าทางราวกับมารดาของแผ่นดินเลยทีเดียว
ชุดกระโปรงยาวสีแดงซ้อนทับกันเป็นชั้นๆ ในขณะที่เธอ สามารถมองเห็นสีแดงที่แตกต่างกันจากมุมที่ต่างกันได้ ทั้งสีชมพูอาจเข้ม อ่อนหรือสว่าง ทั้งหมดนี้ทำให้ผู้คนต้องรู้สึกหลงใหล
นางคาดเอวด้วยผ้าคาดเอวสีดำปักลายเมฆมงคลด้วยดิ้นทอง นอกจากที่ปลายกระโปรงและปกเสื้อแล้ว ส่วนอื่นๆ ล้วนเรียบง่ายไม่มีลวดลายพิเศษใดๆ บอกกับสีแดงสด เมื่อคนทั่วไปสวมใส่มันจะให้ความรู้สึกฉูดฉาดเกินไป แต่เมื่อมันมาอยู่บนร่างของเฟิ่งชิงเฉินแล้วกลับเต็มไปด้วยความหรูหราสง่างาม ชุดนี้ดูราวกับเตรียมไว้เพื่อนางอย่างเป็นธรรมชาติ
บนศีรษะมีเพียงปิ่นหยกสีขาว ผมบางส่วนยาวสยาคลอเคลียที่หลังบ่า นางเดินอย่างเชื่องช้า เสื้อผ้าสีแดงและผมสีดำขลับพลิ้วไหว
เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้บอบบางและผอมแห้งแรงน้อยเหมือนสตรีทั่วไป นางรูปร่างผอมเพรียว ผิวขาว นอกจากนี้ฝีก้าวของนางเบาแต่แข็งแรง ยามเดินช้าๆ ราวกับดอกโบตั๋นที่บานสะพรั่ง เพียบพร้อมไปด้วยความสง่างามอย่างแท้จริง
ผู้หญิงเช่นนี้มีเพียงหนึ่งไม่มีสองอย่างแท้จริง
นี่เป็นคำวิจารณ์จากทุกคน ณ ที่นั้นรวมถึงจักรพรรดิด้วย!
ตั้งแต่วินาทีที่นางเข้าไปในตำหนัก ทุกสายตาก็จับจ้องมาที่นาง รวมทั้งเสด็จอาเก้าด้วย
มุมปากของเฟิ่งชิงเฉินยกขึ้นเล็กน้อย นางพอใจมากกับการแสดงออกอันน่าประหลาดของทุกคน
ยามที่ซุนฮูหยินแต่งตัวให้นาง นางก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจเมื่อเห็นสตรีผู้สูงศักดิ์และสง่างามในกระจก
ใช่แล้ว น่าทึ่งอย่างยิ่ง!
เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกว่าแม้ว่านางจะรูปโฉมไม่เลว แต่นางก็ไม่ใช่หญิงงามโฉมสะคราญ แต่หลังจากผ่านการประทินโฉมจากซุนฮูหยินผู้มากฝีมือแล้ว เฟิ่งชิงเฉินได้เห็นตนเองในกระจกจึงได้ตระหนักว่าแม้นางจะไม่ได้เป็นสาวงามล่มเมือง แต่นางก็ยังพอมีลักษณะของสตรีผู้งดงาม
โดยเฉพาะเสื้อผ้าบนเรือนร่างของนางที่ดูเหมือนจะเรียบง่ายแต่กลับสามารถเผยจุดเด่นของร่างกายนางออกมาได้หมดสิ้น เมื่อมองดูแวบแรกสิ่งที่มองเห็นไม่ใช่รูปลักษณ์ของนาง แต่กลับเป็นออร่าที่เปล่งประกายของนาง
สิ่งที่ทำให้เฟิ่งชิงเฉินงงงวยก็คือท่าทางที่ซุนฮูหยินมองชุดนี้ราวกับแฝงไปด้วยความหวั่นเกรงและเคารพ เฟิ่งชิงเฉินคิดจะถามนางแต่สุดท้ายก็ไม่ได้ถาม แบบของชุดนี้ที่ด้านนอกก็มี เพียงมีรายละเอียดบางอย่างแตกต่างกันเท่านั้นเอง
มิเสียที่ที่เป็นเสด็จอาเก้า เมื่อทุกคนยังคงดำดิ่งอยู่ในคำสาปของเฟิ่งชิงเฉิน เสด็จอาเก้าก็ได้สติขึ้น ดวงตาสีดำไม่เคยเปลี่ยนแปลงเปล่งประกายโกรธขึ้นโดยที่แม้แต่ตัวเขาก็ไม่ได้สังเกต
หญิงนางนี้มาปรากฏตัวที่นี่และแต่งตัวงดงามถึงเพียงนี้สวยจัง นางไม่รู้หรือว่านางทำเช่นนี้จะสามารถดึงดูดใจผู้คนได้มากเพียงใด?
ที่สมควรตายก็คือเขาไม่ใช่คนแรกที่เห็นด้านที่สวยงามของนาง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะมีเขาเห็นเพียงคนเดียว หากไม่ใช่ว่ายังคงเหลือความมีเหตุผลอยู่ เขาคงจะลากตัวนางออกไปด้วยเกรงว่านางจะเป็นภัยอย่างแน่นอน
เสด็จอาเก้าโกรธมากและเมื่อเขาโกรธมากจึงทำให้เขาทำอะไรบางอย่างที่ทำให้ทุกคนคิดว่าพวกเขาตาฝาดไปหรือไม่...
เสด็จอาเก้ายืนขึ้นและก้าวเท้าเข้าไปหาเฟิ่งชิงเฉิน เฟิ่งชิงเฉินยิ้ม นางหยุดเดินและเตรียมจะทำความเคารพ
"ถวาย…" เพียงแค่เอ่ยปากนางก็ถูกเสด็จอาเก้าขัดจังหวะและไม่ให้โอกาสนางปฏิเสธ เขาจับมือนาง มือของเฟิ่งชิงเฉินเจ็บและกำลังจะดึงออก แต่เสด็จอาเก้าก็ฉวยโอกาสเลื่อนนิ้วทั้งสิบเข้ามาประสานแน่น โชคดีที่แขนเสื้อของเฟิ่งชิงเฉินกว้างจนคนนอกมองไม่เห็น
ทั้งตำหนักเงียบสนิท ทุกคนมองไปที่หนานหลิงจื่อฝาน จากนั้นก็หันไปมองตงหลิงจื่อชุน สุดท้ายสายตาของพวกเขาก็มองไปยังตงหลิงจื่อลั่ว...
หนานหลิงจื่อฝานมองไปยังคนสองคนที่สมกันราวกับกิ่งทองใบหยกด้วยท่าทางขี้เล่น ดวงตาจิ้งจอกของเขาเต็มไปด้วยการคำนวณและความมาดร้าย ตงหลิงจื่อชุนเคลิ้มไปแล้วตั้งแต่ที่เฟิ่งชิงเฉินเดินเข้ามา จนป่านนี้ก็ยังไม่ได้สติ ส่วนตงหลิงจื่อลั่วนั้น...
องค์รัชทายาทเห็นความเสียดายและไม่เต็มใจภายใต้ใบหน้าที่พยายามควบคุมให้สงบของเขา
องค์รัชทายาทเผยยิ้มจากใจจริงออกมาครั้งแรกของคืนนี้ จื่อลั่ว ข้ามีลางสังหรณ์ว่าเจ้าจะต้องเสียใจเสียดายไปชั่วชีวิต
เสด็จอาเก้าพาเฟิ่งชิงเฉินไปยังใจกลางตำหนักและส่งสายตาให้เฟิ่งชิงเฉินคารวะ
เฟิ่งชิงเฉินขมวดคิ้วพลางเหลือบมองมือที่ทั้งสองคนจับกันอยู่เป็นนัยให้เสด็จอาเก้าปล่อยมือ มือเขาและนางประสานกันอยู่เช่นนี้แล้วนางจะคุกเข่าคารวะอย่างไร
แต่น่าเสียดายที่เสด็จอาเก้าเบือนหน้าหนีไปเสียก่อนและไม่ได้มองเฟิ่งชิงเฉิน เฟิ่งชิงเฉินจนปัญญาจึงได้แต่ย่อกายเล็กน้อยเพื่อถวายคำนับ "หม่อมฉันเฟิ่งชิงเฉิน ถวายพระพรองค์จักรพรรดิ ขอทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นหมื่นปี" นี่เป็นครั้งแรกที่นางเข้าเฝ้าจักรพรรดิโดยไม่ต้องคุกเข่า ต้องขอขอบคุณเสด็จอาเก้าอย่างยิ่ง
จักรพรรดิค่อนข้างรำคาญ แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมสำหรับการระบายอารมณ์ เขาจึงกล่าวเพียงว่า "ลุกขึ้นเถอะ" และไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติมอันไม่จำเป็นอีก เขาหันกลับไปกระซิบกระซาบข้างหูของฮองเฮาและปล่อยให้เฟิ่งชิงเฉินและเสด็จอาเก้ายืนอยู่ที่นั่น คิดว่าเดี๋ยวอีกครู่หนึ่งค่อยหันไปแกล้งดุว่าพวกเขาจะยืนตรงนั้นทำไม ให้รีบนั่งลง
การต้อนรับที่เย็นชาเช่นนี้เฟิ่งชิงเฉินประสบพบเจอมาบ่อยครั้งจึงไม่ใส่ใจ ก็เหมือนเช่นเคย จักรพรรดิไม่ได้บอกให้นางลุกขึ้น นางจึงต้องคุกเข่าเงียบๆ จักรพรรดิไม่ได้บอกให้นางนั่งลง นางก็เพียงยืนเงียบๆ ทั้งที่รู้ว่าเป็นการทำให้นางอับอาย แต่นางก็แสร้งทำเป็นไม่รู้ แม้จะเผชิญกับสายตาที่เย้ยหยันและเห็นอกเห็นใจของคนอื่น นางก็เพียงเผชิญหน้าด้วยรอยยิ้มเพื่อไม่ให้ผู้อื่นเห็นว่านางรู้สึกอับอายและเสื่อมเสียเกียรติเพียงใด
เพราะนางไม่เคยชินต่อการแสดงความอ่อนแอ
ความอับอายเช่นนี้มีมากมาย เฟิ่งชิงเฉินสามารถเผชิญหน้ากับมันอย่างสงบเสียนานแล้ว วันนี้ไม่มีอะไร นางเตรียมตัวมาอย่างดีและพร้อมที่จะยืนอย่างเงียบๆ จนกว่าจักรพรรดิจะพบว่านางยืนอยู่
แต่นางลืมไปว่าวันนี้นางไม่ได้อยู่คนเดียว ข้างกายนางยังมีเสด็จอาเก้าอยู่ด้วย และในเมื่อเขาออกโรงแล้วจะปล่อยให้นางถูกทำให้อับอายเช่นนี้ได้อย่างไร...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...