นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 404

เฟิ่งชิงเฉินยังไม่รู้เรื่องเสด็จอาเก้ากล่าวประโยคเช่นนี้ออกไปแล้วทำให้นางกลายเป็นศัตรูต่อสตรีในราชวงศ์ตงหลิง ตัวนางในบัดนี้กำลังคิดหาหนทางปลอบใจ หนิงกั๋วกงฮูหยินอยู่

นางไม่กลัวที่จะเห็นสตรีต้องน้ำตานองหน้า น้ำตาของสตรีไม่อาจทำให้นานใจอ่อนได้ แต่น้ำตาที่หลั่งรินลงมาของหนิงกั๋วกงหูยิ่งกลับทำให้จิตใจนางสั่นไหว สตรีผู้ฉลาดปราดเปรื่องเช่นนางกลับตื่นตระหนกทำตัวไม่ถูกขึ้นมา รู้ว่าจะปลอบใจหนิงกั๋วกงฮูหยินเช่นไร ตั้งแต่ชาติที่แล้วจนปัจจุบัน นางไม่เคยมีประสบการณ์ได้รับความอบอุ่นจากแม่หรือผู้ใหญ่แบบนี้มาก่อน เมื่อเผชิญหน้ากับความเป็นห่วงกังวลและใส่ใจของหนิงกั๋วกงฮูหยิน นางจึงไม่รู้ว่าต้องจัดการเช่นไรดี

นางเกิดมาพร้อมกับการขาดแคลนความรักและความเอาใจใส่จากผู้ใหญ่ นางสามารถกล่าวถึงผลประโยชน์และความสูญเสียกับผู้อื่นได้อย่างใจเย็น นางสามารถหารือเกี่ยวกับความเจ็บป่วยและแผนการรักษาของสมาชิกครอบครัวผู้อื่นได้อย่างเรียบง่าย แม้แต่อยู่ต่อหน้าผู้บัญชาการชั้นใหญ่ของทหาร นางก็สามารถกล่าวออกมาได้อย่างจริงจังราบรื่น แต่ทว่าในตอนนี้กลับ......

นางไม่รู้ว่าควรจะสนทนาเยี่ยงไรกับผู้อาวุโสที่ดูเหมือนกับมารดาเช่นนี้ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับหนิงกั๋วกงฮูหยินที่ไม่อาจปกปิดซ่อนเร้นความรักความห่วงใยซึ่งมีต่อนางได้ดังนี้ เฟิ่งชิงเฉินเองท้ายที่สุดแล้วก็ยังไม่รู้จะทำเช่นไรและได้แต่ยืนงงอยู่ตรงนั้น

นางไม่เคยมีประสบการณ์เช่นนี้มาก่อน นางไม่รู้ว่าควรจะทำเช่นไรให้ผู้อาวุโสพึงพอใจ

ซื่อจื่อฮูหยินเป็นผู้ที่มีความพิถีพิถันและเอาใจใส่ผู้อื่นยิ่งนัก เมื่อเห็นว่าเฟิ่งชิงเฉินกำลังอยู่ในอาการตื่นตระหนกจึงได้ก้าวขึ้นไปปกป้องนาง

แม้ว่าเฟิ่งชิงเฉินจะมีชื่อเสียงที่ไม่ค่อยดีนักและได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางลบ แต่ซื่อจื่อฮูหยินเคยได้ยินจากปากของจิ้นหยางโหวฮูหยินว่าเฟิ่งชิงเฉินนั้นไม่ได้เป็นไปดังที่โลกภายนอกกล่าวขาน แท้จริงแล้วเฟิ่งชิงเฉินเป็นสตรีที่มีจิตใจอ่อนโยนและเข้มแข็งยิ่งนัก

ในตอนนั้นเพื่อช่วยชีวิตนาง เฟิ่งชิงเฉินเกือบจะต้องเสี่ยงเอาชีวิตตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยแล้ว สตรีเช่นนี้จะเป็นผู้ที่โหดร้ายไร้ยางอายหน้าด้านได้อย่างไร

"ดูข้าสิ เมื่อแก่แล้วอารมณ์ก็อ่อนไหวยิ่งนัก" หนิงกั๋วกงฮูหยินยิ้มขึ้นเพื่อหยุดน้ำตาของนางแล้วตบลงไปที่หลังมือเฟิ่งชิงเฉินเบาๆ "เด็กดีอย่าได้กังวลใจไป บนท้องฟ้ามีเทพเทวามากมายกำลังจับจ้องเจ้าอยู่ เจ้าจะไม่เกิดเรื่องอันตรายขึ้นอย่างแน่นอน"

ถึงอย่างไรนางก็เป็นฮูหยินจากจวนสูงส่ง เรื่องที่ว่าเสด็จอาเก้าขืนใจหลานสะใภ้นั้น หนิงกั๋วกงฮูหยินคงไม่อาจกล่าวออกมาได้ จึงทำได้เพียงเอ่ยถึงการสนับสนุนนางและจวนหนิงกั๋วกงจะยังคงคอยให้กำลังใจนาง พวกเขาสนับสนุนเฟิ่งชิงเฉิน ไม่ใช่เสด็จอาเก้า

"เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของฮูหยิน ชิงเฉินก็โล่งใจแล้ว" แม้เฟิ่งชิงเฉินจะไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น แต่นางรับรู้ได้ว่าจวนหนิงกั๋วกงสนับสนุนนาง ในตอนนั้นนางทำไปเพียงเพราะหน้าที่ของหมอคนหนึ่งก็เท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะได้รับการสนับสนุนเช่นนี้

ก่อนจะเดินทางจากไป จิ้นหยางโหวฮูหยินแอบกระซิบข้างหูเฟิ่งชิงเฉินว่า "คุณหนูใหญ่ตระกูลเวินออกเรือนไปสามปีแล้วยังไม่มีบุตร และอีกสามวันคุณหนูใหญ่ตระกูลเวินจะเดินทางไปที่จวนจิ้นหยางโหวเพื่อเยี่ยมเยียน

ประโยคหลังจากนั้นจิ้นหยางโหวฮูหยินไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา แต่เฟิ่งชิงเฉินเข้าใจดี จิ้นหยางโหวฮูหยินกำลังช่วยนางอยู่ แม้ตระกูลเวินจะไม่ได้อยู่ระดับสูงสุดเช่นตระกูลหวัง แต่ก็นับว่าอยู่ในชั้นรอง ตระกูลเวินมีน้ำหนักมากพอควร

"ขอบคุณท่านมาก" เฟิ่งชิงเฉินรับน้ำใจนั้นเอาไว้ เนื่องจากในตอนนี้นางจำเป็นต้องมีความสัมพันธ์เหล่านั้นจริงๆ

หลังจากที่ส่งหนิงกั๋วกงฮูหยินและอีกสองคนกลับไปแล้ว เฟิ่งชิงเฉินก็ได้แต่มือมองมือทั้งสองข้างของตน

ที่แท้ท่ามกลางเวลาที่ผันเปลี่ยน นางได้ใช้มือทั้งคู่นี้เข้าไปเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับบรรดาผู้มีอำนาจสูงส่ง มากมายเช่นนี้เชียว

ในอดีตตอนที่นางอยู่ในโรงพยาบาลทหาร เฟิ่งชิงเฉินเห็นผู้คนมากมายใช้ทักษะทางการแพทย์เพื่อปีนป่ายและประจบสอพลอบรรดาทหารระดับสูงเหล่านั้น และเห็นพยาบาลมากมายที่ใช้โอกาสทำให้บรรดาครอบครัวของผู้ป่วยโปรดปรานตน ในตอนนั้นทักษะทางการแพทย์กลายเป็นเครื่องมือชนิดหนึ่ง ที่ทำให้มีอนาคตอันสดใส

ในตอนนั้นตัวนางเองไม่รู้จักวิธีความยืดหยุ่น ประกอบกับที่ตัวนางยังเด็กนักหนา จึงไม่มีทางไปรักษาเหล่าทหารอาวุโส ดังนั้นนางจึงไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะใช้ทักษะทางการแพทย์ในการสร้างความสัมพันธ์ อีกอย่างนางจะไปคิดถึงเรื่องเหล่านั้นทำไม นางอยู่ตัวคนเดียวไม่จำเป็นต้องนึกถึงผู้ใด

ตัวนางในตอนนั้น อยู่ในโรงพยาบาลทหารมีเพียงคนรู้จักที่สนิทสนมเพียงคนเดียวเท่านั้น เขาเป็นทหารอากาศหนุ่มยศพันโท ใช้เวลาที่บินอยู่ในฟากฟ้าสามปีมากกว่าสามร้อยชั่วโมง และเป็นชายหนุ่มที่อายุน้อยที่สุดในกองทัพอากาศ ได้รับฉายาว่าเป็นดาวดวงใหม่แห่งการบิน

แทบจะทุกเดือนเขาต้องเดินทางไปโรงพยาบาลเพื่อรับการฟื้นฟูร่างกาย เนื่องจากว่าเขาหน้าตาดูดีแม้จะไม่รู้ว่าภูมิหลังเป็นเช่นไร แต่ก็มีแพทย์และพยาบาลสาวๆ เข้ามารุมล้อมมากมาย แต่ใบหน้าอันเยือกเย็นและเย่อหยิ่งของเขาทำให้หมอและพยาบาลเหล่านั้นได้แต่แอบมอง

ตอนที่เธอเพิ่งไปอยู่ที่โรงพยาบาล เนื่องจากท่าทางของเธอดูเย่อหยิ่ง ประกอบกับหน้าตาค่อนข้างโดดเด่น จึงกลายเป็นศัตรูของแพทย์มากมาย และมีคนจำนวนมากยากจะจัดการกับเธอ

เมื่อคิดถึงช่วงเวลานั้น มิตรภาพของทั้งสองก็ค่อนข้างน่าสนใจมากทีเดียว เรียกได้ว่าต่อสู้กันจนกลายเป็นเพื่อนสนิท ในตอนนั้นเฟิ่งชิงเฉินยังไม่ได้ไปที่สนามรบ และไม่ได้มีทักษะการต่อสู้ใดๆ เธอจัดการฝ่ายตรงข้ามด้วยยาในมือ ทำให้เขาล้มลงแล้วกดเขาลงกับพื้น สั่งให้อีกฝ่ายหนึ่งให้ความร่วมมือไม่อย่างนั้นจะจัดการทำลายเขาเสีย

คิดไม่ถึงเลยว่าการต่อสู้กันในครั้งนั้นจะทำให้กลายเป็นเพื่อนกันได้ เดิมทีเฟิ่งชิงเฉินไม่ได้สนใจคนคนนั้น และคิดว่าทั้งสองจะเป็นเพื่อนกันได้ตลอดชีวิต แต่คิดไม่ถึงว่าอีกครึ่งปีต่อมาแม่ของอีกฝ่ายก็ได้เดินทางมาหาเธอ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ