เป็นไปตามที่เฟิ่งชิงเฉินต้องการ เพียงแค่ซูเหวินชิงออกจากจวนของนางไป เสด็จอาเก้าก็ได้รับข่าวว่านางกำลังจะหาสามี เรื่องใหญ่ขนาดนี้ไม่มีกล้าปิดบัง
"สามี? เฟิ่งชิงเฉินช่างกล้าคิด มิเสียทีที่เป็นถึงบุตรีแห่งแม่ทัพเฟิ่ง เพียงช่วงเวลาสั้นๆ นางก็คิดวิธียิงธนูนัดเดียวได้นกสองตัวได้"
เสด็จอาเก้านั่งอยู่ในห้องโดยหันหลังให้แสงสว่าง คนที่รายงานด้านล่างไม่เห็นสีหน้าของเขา แต่จากน้ำเสียงของเสด็จอาเก้า ชายชุดดำสามารถได้ยินถึงความไม่พอใจจึงรีบคุกเข่าลงด้วยเสียงอันดังก้อง
"แม่นางเฟิ่งบอกว่าภายในสามวัน ถ้านางไม่ได้รับโฉนดที่ดินของจวนเฟิ่งคืน นางจะหาสามีสืบทอดบรรดาศักดิ์โหวพ่ะย่ะค่ะ"
"บรรดาศักดิ์จงอี้โหวหรือ? ข้าลืมเรื่องนี้ไปเสียแล้ว" เสด็จอาเก้ากล่าวอย่างเชื่องช้า ในความสง่างามนั้นมีแววเฉื่อยชา ดูไม่กังวลและไม่แยแส ผู้ที่รู้จักเขาดีจะเข้าใจดีว่านี่เป็นสัญญาณความโกรธของเสด็จอาเก้า
ในโลกนี้มีผู้คนไม่มากนักที่สามารถทำให้เขาโกรธได้ เฟิ่งชิงเฉินนับเป็นอีกหนึ่งคน
ชายชุดดำคุกเข่าอยู่กับพื้นนิ่ง เขารู้ว่าเสด็จอาเก้าไม่เคยระบายโทสะกับผู้ใด แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นได้เสมอ ห้องหนังสือเงียบสงัดทำให้ผู้คนรู้สึกอึดอัดและอยากจะหนีออกไป
แปะ แปะ… เสียงหยาดเหงื่อตกลงกระทบพื้นดังขึ้นในห้องหนังสือ ชายชุดดำคุกเข่าลงกับพื้น เขาพยายามจะยื่นมือออกไปปาดเหงื่อหลายครั้งแต่ก็ไม่กล้า ได้แต่คุกเข่าเหมือนรูปปั้นอยู่ที่นั่นรอให้เสด็จอาเก้าเอ่ยปาก
"ใครเป็นคนปล่อยข่าว?" จู่ๆ เสด็จอาเก้าก็ถามขึ้นมาหนึ่งประโยค ชายชุดดำนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงค่อยเข้าใจสิ่งที่เสด็จอาเก้าเอ่ยถาม เขานึกย้อนไปถึงการกระทำของเฟิ่งชิงเฉินในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาและกล่าวประเด็นที่น่าสงสัยขึ้นมา "แม่นางเฟิ่งไปที่จวนลู่และพบท่านชายตี๋ระหว่างทาง ส่วนพวกเขาพูดคุยอะไรกันนั้น ข้าน้อยไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ"
"ลู่เส้าหลินหรือ? เขายังไม่มีความกล้าเช่นนั้น ตี๋ตงหมิง ดูเหมือนว่าท่านชายซื่อจื่อจะว่างงานเกินไป" เสด็จอาเก้าตัดสินใจเลือกผู้ต้องสงสัยอย่างง่ายดาย อันที่จริงการหาตัวผู้ปล่อยข่าวในเวลานี้ไม่สำคัญ ที่สำคัญคือเขาต้องการหาคนมาระบายความโกรธ ตี๋ตงหมิงเป็นทางเลือกที่ไม่เลวเลย
เสด็จอาเก้ายืนขึ้น แรงกดดันมหาศาลก็ตามมา เหงื่อที่หน้าผากของชายชุดดำหยดเร็วขึ้นและเร็วขึ้น เขาแอบบ่นในใจว่าข่าวต่อไปที่เกี่ยวข้องกับเฟิ่งชิงเฉิน ต่อให้ตายอย่างไรเขาก็จะไม่มารายงานด้วยตนเองอีก
"หาเรื่องให้ท่านชายตี๋ทำหน่อย" เสด็จอาเก้าเดินออกไปจากห้องหนังสือและสั่งยามเดินผ่านชายชุดดำ
"พ่ะย่ะค่ะ" ชายชุดดำยืนขึ้นและจากไปด้วยความเคารพ
"เตรียมเกี้ยว ข้าจะออกจากจวน"
เขาอยากจะเห็นว่าเฟิ่งชิงเฉินรู้มากแค่ไหนถึงได้กล้าใช้เรื่องการหาสามีมาขู่เข็ญเขา เห็นทีนางจะมีชีวิตอยู่จนเบื่อแล้ว
ท่านแม่พูดถูก หากไม่เลี้ยงผู้หญิงให้สุขสบายพวกนางก็จะกำเริบเสิบสาน เฟิ่งชิงเฉินช่างบังอาจนักถึงขั้นกล้าต่อรองกับเขา ต่อรองก็ไม่เป็นไร เขาไม่รังเกียจที่จะตามใจนาง แต่นางกลับเสนอเรื่องหาสามีเช่นนี้
เฮอะ... นางคิดออกเรือนก็ต้องดูด้วยว่ามีใครกล้าแต่งกับนางหรือไม่
ยามปกติเสด็จอาเก้าก็เย็นชาอยู่แล้วด้วยท่าทางถือตัวและผลักผู้คนออกไปเป็นพันลี้ วันนี้เขาเป็นเพียงก้อนน้ำแข็งเคลื่อนที่ได้ เขาไปที่ใด ไอเย็นก็แผ่กระจายไปที่นั่น
ขันทีคนสนิทก็กลัวเกินกว่าจะก้าวไปข้างหน้า กลัวว่าตัวเองจะถูกแช่แข็ง ดังนั้นเขาจึงวิ่งเหยาะๆ ไปเพื่อเตรียมเกี้ยวเฉพาะของชินอ๋อง เมื่อรอจนเสด็จอาเก้ามาถึงประตู คนแบกเกี้ยวและองครักษ์ก็แทบจะเกือบพันคน
นี่เป็นความเอิกเกริกยามที่ชินอ๋องออกไปข้างนอก ยามปกติเสด็จอาเก้าไม่ค่อยได้ใช้ วันนี้เขาเอามันมาใช้เป็นพิเศษเพื่อให้เฟิ่งชิงเฉินเข้าใจว่าในตงหลิงนี้ หากนางจะแต่งงานก็ต้องดูก่อนว่าเขาเห็นด้วยหรือไม่
ยายผู้หญิงโง่ เพียงแค่มาที่จวนอ๋องเก้าเพื่อขอร้องเขาสักครั้งมันยากนักหรือ?
เขาแค่ต้องการให้เฟิ่งชิงเฉินมาหาเขาที่จวนอ๋องเก้าก่อนเท่านั้นเอง คิดว่าเขาจะกินหัวนางหรืออย่างไร ระหว่างที่นั่งอยู่บนเกี้ยว เขายิ่งคิดก็ยิ่งโมโห
นางขอร้องคนอื่นได้ แต่กลับไม่ยอมขอร้องเขา มีเรื่องอะไรก็เอาแต่ไปหาวจล แต่ไม่เคยคิดถึงเขาเลย ไม่มาขอร้องเขาก็ช่างเถอะ แต่นี่นางกลับจะกล่าวประกาศหาสามีอย่างง่ายดาย เรื่องเช่นนี้พูดเล่นได้หรือ?
จากเขตตะวันออกจนถึงเขตตะวันตกของเมืองหลวง ถนนสายนี้ไม่ถือว่าสั้นนัก เสด็จอาเก้าเสด็จออกมาอย่างเอิกเกริกดึงดูดความสนใจจากผู้คนมากมาย หลายคนส่งคนไปคอยติดตามไปเพื่อดูว่าเสด็จอาเก้าจะไปที่ใด
เฟิ่งชิงเฉินได้ข่าวว่าเสด็จอาเก้ากำลังจะเสด็จมาก่อนหนึ่งก้าวจึงได้นำคนทั้งจวนเฟิ่งออกไปคุกเข่ารอต้อนรับ ช่วยไม่ได้ เขาเป็นถึงชินอ๋อง ที่นางออกไปคุกเข่ารอต้อนรับเป็นเพียงกฎพื้นฐาน หากไม่ใช่เพราะเสด็จอาเก้าเสด็จมาอย่างกะทันหัน นางจะต้องจุดเครื่องหอม ชำระล้างร่างกายและจัดจวนใหม่เพื่อรอต้อนรับเสียด้วยซ้ำ
"มาเร็วจริงๆ นี่คือแสดงความน่าเกรงขามออกมาให้ข้ากลัวหรือ" เฟิ่งชิงเฉินรู้ว่าไม่ควรไปยั่วโมโหเสด็จอาเก้า เมื่อเช้านางจึงได้บอกว่าภายในสามวัน ถ้านางไม่ได้รับโฉนดที่ดินของจวนเฟิ่งมา นางจะประกาศหาสามี ในตอนบ่ายเสด็จอาเก้าก็มา
ตอนแรกนางเพียงคาดเดาว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเสด็จอาเก้า แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าโฉนดที่ดินของจวนเฟิ่งจะเป็นฝีมือของเสด็จอาเก้าโดยสมบูรณ์
เฟิ่งชิงเฉินคุกเข่าอยู่นอกห้องและเห็นทหารม้าสูงใหญ่กำลังเปิดทาง ข้างหลังพวกเขามีกลุ่มทหารพกอาวุธ ตรงกลางมีชายฉกรรจ์แปดคนหามเกี้ยว ช่างสง่างามเหลือเกิน ไปที่แห่งหนใดเหล่าราษฎรก็คุกเข่าลงคำนับ
เฟิ่งชิงเฉินก้มศีรษะคำนับอย่างยอมรับในชะตาชีวิต เมื่อขันทีประกาศ เฟิ่งชิงเฉินก็นั่งอยู่บนพื้น "ขอให้ท่านอ๋องทรงพระเจริญพันปี พันปี พันพันปี"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...