เฟิ่งชิงเฉินไม่แน่ใจนักว่ารายละเอียดเรื่องโฉนดที่ดินของจวนเฟิ่งเป็นอย่างไรและนางก็ไม่กล้ามั่นใจนัก แต่จากสัญชาตญาณของผู้หญิงและความเข้าใจเกี่ยวกับแนวโน้มในเมืองหลวงแล้ว เฟิ่งชิงเฉินมั่นใจว่าเรื่องนี้มุ่งเป้ามาที่นางอย่างแน่นอนและจะต้องเกี่ยวข้องกับองค์ชายรองแห่งซีหลิงเป็นแน่
เมื่อพบประเด็นสำคัญแล้ว เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่กังวลอีกต่อไป ยิ่งนางกังวลมากเท่าไร อีกฝ่ายก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น หลังจากที่เฟิ่งชิงเฉินกลับมาจากจวนลู่ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ อีกและแสดงท่าทียอมแพ้อยู่ภายนอก
จิ้นหยางโหวฮูหยินและท่านชายหนิงกั๋วกงซื่อจื่อถอนหายใจด้วยความโล่งอกและรีบมาเยี่ยมนางพร้อมทั้งนำจวนสองสามหลังมาให้นางเลือก เฟิ่งชิงเฉินปฏิเสธด้วยรอยยิ้มและบอกว่าเดี๋ยวนางจะหาที่ดินสร้างจวนขึ้นใหม่เองในอนาคต
เฟิ่งชิงเฉินขอให้ซูเหวินชิงช่วยนางเช่าจวนที่มีสามห้องนอน เดิมทีนางต้องการจะซื้อ แต่เฟิ่งชิงเฉินพบว่านางไม่มีเงิน แม้ว่าซูเหวินชิงจะเสนอตัวซื้อให้นางอย่างใจกว้าง แต่นางก็ปฏิเสธไป
เฟิ่งชิงเฉินไม่ใช่นกขมิ้นในกรงที่ต้องให้ผู้อื่นเลี้ยงดูและต้องพึ่งพาผู้ชายเพื่อความอยู่รอด ค่าเช่าบ้านเป็นค่ารักษาที่หนิงกั๋วกงส่งมาให้หนึ่งพันตำลึงเงิน เฟิ่งชิงเฉินไม่ปฏิเสธและรับมันมาอย่างมีความสุข แพทย์รับค่ารักษาย่อมเป็นเรื่องปกติ
ในวันที่นางย้ายออกจากจวนซุน นางยังคงไม่ได้พบซุนเจิ้งเต้าจึงเพียงกล่าวอำลากับซุนฮูหยินเท่านั้น เฟิ่งชิงเฉินมักจะรู้สึกว่าซุนเจิ้งเต้ากำลังปิดบังบางอย่างจากนาง หลังจากเอ่ยถามหลายครั้งกลับถูกซุนฮูหยินไล่ออกมาด้วยรอยยิ้มและเพียงกล่าวว่าไม่เป็นไร ขุนนางในราชสำนักป่วย เขาที่เป็นหัวหน้าสำนักหมอหลวงจึงยุ่งมาก
เฟิ่งชิงเฉินไม่มีทางอื่นแม้ว่านางและซุนซือสิงได้เป็นอาจารย์และศิษย์ แต่นางก็ไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องในจวนของผู้อื่นได้ นางได้แต่เพียงแอบเตือนให้ซุนซือสิงให้ใส่ใจหน่อยเท่านั้น
ทิศตะวันออกและทิศตะวันตกมั่งคั่งมีราคาแพง ทิศใต้และทิศเหนือยากจนมีราคาถูก บ้านหลังใหม่ของเฟิ่งชิงเฉินตั้งอยู่ในพื้นที่ทางทิศตะวันตกของเมืองหลวงใกล้กับจวนของตระกูลซู ที่นั่นสภาพแวดล้อมสวยงามประณีต มีต้นไม้ร่มรื่นเย็นสบาย มีกลิ่นอายของเจียงหนาน เมื่อเทียบกับจวนเฟิ่งแล้ว เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกว่าจวนเล็กๆ แห่งนี้เหมาะสำหรับให้นางอาศัยอยู่มากกว่าเสียอีก
แม้ว่าจวนเล็กๆ จะดี แต่ที่นี่ไม่ใช่บ้านของนาง นางสาบานว่าจะเอาจวนเฟิ่งคืนมาให้ได้!
เมื่อเข้าพักให้จวนหลังเล็กแห่งนี้แล้ว เฟิ่งชิงเฉินก็ปิดประตูและใช้ชีวิตอย่างสงบสุข จวนหลังเล็กมีข้ารับใช้ที่ตระกูลซูส่งมา ผู้คุ้มกันที่ตี๋ตงหมิงส่งมา ดังนั้นนางจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของตนเองเลย
ทงเหยาและทงจือที่หวังจิ่นหลิงเคยนำตัวกลับไปก็ได้กลับมา มีสองสาวใช้อยู่ปรนนิบัติ เฟิ่งชิงเฉินจึงไม่ต้องเสียเวลายุ่งวุ่นวายไปกับเรื่องหยุมหยิมในชีวิตประจำวัน
ทุกอย่างเหมือนกับยามที่อยู่ในจวนเฟิ่ง แต่ยิ่งนางอาศัยอยู่ที่จวนหลังเล็กนี้นานเท่าไร นางก็ยิ่งคิดถึงจวนเฟิ่งมากขึ้นเท่านั้น เมื่ออยู่ที่นี่มาได้ครึ่งเดือนก็เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง เรื่องราวต่างๆ ก็เริ่มมีผลลัพธ์
สถานการณ์ความวุ่นวายในราชสำนักคลี่คลายลง มีขุนนางใหม่ปรากฏตัวขึ้นมากมาย มีทั้งคนของจักรพรรดิ มีคนจากตระกูลขุนนางและบางคนไม่เข้าพวก จำนวนคนหน้าใหม่เพิ่มขึ้น ตามธรรมชาติจึงทำให้ผู้คนรู้สึกถึงความมีชีวิตชีวาซึ่งสามารถคลายความอึมครึมของฤดูใบไม้ร่วงไปได้หลายส่วน แต่เฟิ่งชิงเฉินรู้ว่าหลังจากนี้อีกหนึ่งเดือน รอจนองค์ชายจากทั้งสามแคว้นจากไป เมืองหลวงคงจะถึงคราวนองเลือดอีกครั้ง
เมื่อมีขุนนางใหม่ ขุนนางเก่าเหล่านั้นบ้างก็ตาย บ้างก็ถูกเนรเทศ ฤดูใบไม้ร่วงก็เป็นเวลาเหมาะสมสำหรับการประหาร เมื่อเฟิ่งชิงเฉินได้ยินเรื่องนี้นางก็ถอนใจ นางเพียงแค่เป็นตัวเปิดเรื่องเท่านั้น เรื่องต่อมาหลังจากนั้นล้วนเป็นใต้เท้าเหล่านั้นที่เป็นผู้ผลักดัน มันไม่เกี่ยวอะไรกับนางเลย
นอกจากเรื่องในราชสำนักแล้ว เรื่องสำคัญหลายเรื่องก็มีบทสรุปแล้วเช่นกัน เช่น การแต่งงานระหว่างเป่ยหลิงเฟิ่งเฉียนและองค์หญิงอันผิง ว่ากันว่าเสด็จอาเก้าเป็นผู้สนับสนุนหลัก เป่ยหลิงเฟิ่งเฉียนได้กล่าวขอบคุณเสด็จอาเก้าหลายครั้ง ความสัมพันธ์ระหว่างเสด็จอาเก้าและเป่ยหลิงก็ดีขึ้นตามลำดับ เป่ยหลิงเฟิ่งเฉียนได้กลับแคว้นของตนไปแล้วเพื่อตระเตรียมงานแต่งงาน
ซีหลิงเหยาหวาบอกว่านางจะไม่แต่งงานกับตงหลิงจื่อชุนและขอให้ตงหลิงจื่อชุนแต่งงานเข้าสู่ราชสกุลซีหลิงแทน ทำให้จักรพรรดิโกรธจนสะบัดแขนเสื้อจากไป เสด็จอาเก้าออกหน้าไกล่เกลี่ยกับซีหลิงเทียนเหล่ย ซีหลิงเหยาหวาจึงต้องน้ำตาคลอเก็บข้อเสนออันไร้มารยาทของนางไปและกลับแคว้นไปเพื่อรอแต่งงาน แต่ซีหลิงเทียนเหล่ยกลับยังคงอยู่ที่นี่
"เสด็จอาเก้ายอดเยี่ยมยิ่งนัก เขาสามารถเอาชนะพวกเขาไปได้ทีละคน แล้วหนานหลิงเล่า? เกิดอะไรขึ้นกับหนานหลิงจิ่นฝานและซูหว่าน?" เฟิ่งชิงเฉินเห็นเรื่องสำคัญระดับชาติเป็นเรื่องซุบซิบนินทาและถามซูเหวินชิงอย่างเฉยเมย
ถูกต้องแล้ว ข่าวสารเหล่านี้ล้วนเป็นซูเหวินชิงที่นำมาบอกเล่าแก่นาง สำหรับจุดประสงค์ของซูเหวินชิงนั้น เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้ถามและไม่คิดว่าจำเป็นต้องถาม
"ไม่รู้สิ ข้าไม่ได้ยินเรื่องของหนานหลิงเลย ดูเหมือนว่าพวกเขาจะยังไม่ยอมแพ้เรื่องที่จะให้เสด็จอาเก้าแต่งงานกับซูหว่านและครั้งนี้เสด็จอาเก้าไม่ได้ปฏิเสธโดยตรงอย่างเชานคราวที่แล้ว" ดวงตาของซูเหวินชิงเป็นประกาย เขาจ้องมองเฟิ่งชิงเฉินโดยไม่กพริบตาราวกับว่าเขากำลังรอให้เฟิ่งชิงเฉินโมโห
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...