นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 435

ปู้จิงหยุนเป็นคนจัดการเรื่องร้านค้าเหล่านั้น และช่วงนี้เกิดปัญหาไม่น้อยทีเดียว แม้จะกล่าวว่าไม่กระทบกระเทือนถึงรากลึก แต่เมื่อปัญหาเหล่านั้นรวมกันดูเหมือนจะมองข้ามไปไม่ได้

หลานจิ่วชิงเห็นว่าอาจทำลายชื่อเสียงของปู้จิงหยุนจึงไม่ได้กล่าวสิ่งใดมาก เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องเหล่านี้ หลานจิ่วชิงตัดสินใจว่าควรจะ กระทบกระทั่งเขาสักหน่อย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาใหญ่ขึ้นตามมา

“จิงหยุน เรื่องที่ยอดชุมชนซึ่งเจ้าจับตาดูเอาไว้ เส้นไหมและใบชาที่ถูกขโมยไปตามกลับมาได้แล้วหรือไม่? เป็นผลงานของผู้ได้ตรวจพบแล้วหรือยัง?”

“หา......” ปู้จิงหยุนรีบลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางตื่นตระหนก เขายกมือขึ้นขยี้ไปที่ศีรษะของตนแล้วกล่าวอย่างเคอะเขินว่า “เรื่องนี้ข้า......”

ยังไม่ทันกล่าวจบก็ถูกหลานจิ่วชิงกล่าวขึ้นขัดจังหวะว่า “เจ็ดวัน นับตั้งแต่เกิดเรื่องจนบัดนี้ผ่านมาเป็นเวลาเจ็ดวันแล้ว แต่เจ้ากลับไม่มีเบาะแสใดๆ เลย จิงหยุน หากว่าเจ้าไม่อาจจัดการเรื่องของชุมชนที่เมืองหลวงได้ เจ้าก็คงจะต้องกลับไปก่อนกำหนด เรื่องในเมืองหลวงนี้ข้าจะหาคนอื่นมาจัดการแทน”

ไม่ใช่ว่าเขาใจร้ายใจดำกับปู้จิงหยุนแต่คนประเภทนี้ ไม่สมควรที่จะมีความรู้สึกลึกซึ้งกับสตรี ปู้จิงหยุนมีสิทธิ์ในการชื่นชอบผู้คนหรือสิ่งของใดก็ตาม แต่จะส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตทั่วไปเพราะเรื่องเหล่านี้ไม่ได้ เนื่องจากความผิดหวังของปู้จิงหยุนอาจทำให้ผู้คนจำนวนนับร้อยหรือนับพันต้องบาดเจ็บและ สูญเสียชีวิตไป

พวกเขาแบกรับความหวังและชีวิตของผู้คนไว้จำนวนมาก พวกเขาไม่มีคุณสมบัติที่จะทำตามใจตนเองได้

“สามวัน ภายในเวลาสามวันข้าจะตรวจสอบเรื่องนี้ให้ชัดเจน” ปู้จิงหยุนก็รู้ดีว่าช่วงนี้ตัวเขาค่อนข้างย่ำแย่ จึงได้รับปากอย่างเด็ดขาด แน่นอนว่าเรื่องที่แท้จริงแล้วนั้นเพราะเขาไม่อยากเดินทางไปจากเมืองหลวง

“อืม ตกลง ภายในสามวันหากว่าเจ้าสืบความจริงออกมาไม่พบ จงมารับโทษด้วยตนเองแล้วกลับไปยังยอดชุมชนเสีย” หลานจิ่วชิงกล่าวคำนี้ออกมาจากนั้นก็หันหลังเดินไป......

ปู้จิงหยุนยืนตกตะลึงอยู่ที่เดิม ผ่านไปสักพักใหญ่กว่าจะได้สติกลับคืนมา เขาชี้ไปยังทิศทางซึ่งหลานจิ่วชิงเดินจากไป ปู้จิงหยุนกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเทาว่า “เหวินชิง จิ่วชิงจริงจังหรือไม่?”

“สหาย เจียมตนไว้เถิด” ซูเหวินชิงตบบ่าของปู้จิงหยุนแล้วกล่าวด้วยใบหน้าอันเห็นอกเห็นใจ

จิ่วชิงต้องการจัดการกับจิงหยุนมาเนิ่นนานแล้ว ตอนนี้เขามีโอกาสอันดีแน่นอนว่าจะไม่พลาดโอกาสนี้ไป เรื่องนี้ซูเหวินชิงก็เข้าใจ จิ่วชิงหวังดีต่อจิงหยุน เพราะหากว่าจิงหยุนยังไม่ตั้งอกตั้งใจทำงาน พวกเขาทั้งหลายอาจจะต้องสูญเสียชีวิตเพราะจิงหยุน......

เฟิ่งชิงเฉินนำสิ่งของที่จักรพรรดินีประธานให้ตรวจสอบดูทีละชิ้นทีละชิ้นด้วยความตั้งใจแต่ไม่พบสิ่งผิดปกติใด ทว่าแม้นเป็นเช่นนี้ นางเองก็ไม่กล้านำสิ่งของซึ่งจักรพรรดินีประทานมาให้นำมาใช้

นางได้จัดหากระดาษ หมึกและที่ฝนหมึกพร้อมพู่กันมาจากซูเหวินชิง อีกทั้งยังมีฉินซึ่งไม่ทราบชื่อ เมื่อเห็นสิ่งของที่ซูเหวินชิงน้ำมา เฟิ่งชิงเฉินก็พยักหน้าด้วยความพออกพอใจ เขาช่างเป็นพ่อค้าเก่งกาจที่สุดในโลกจริงดังว่า ของเหล่านี้ไม่ได้แย่ไปกว่าของพระราชทานเลย

แต่เฟิ่งชิงเฉินกลับมองกลวิธีของจักรพรรดินีง่ายเกินไป ในวันนั้นช่วงเช้าได้มีข่าวออกมาจากทางพระราชวังว่าภายในวันพรุ่งนี้ตอนเวลาสิบเอ็ดโมง เฟิ่งชิงเฉินจะใช้ฉินสายน้ำแข็งในการประลอง

“มองดูแล้วข้าคงไม่มีทางเลือกอื่น” เฟิ่งชิงเฉินจับไปที่สายฉินด้วยอาการมือสั่นเทา น้ำเสียงสูงเสียงต่ำถูกบรรเลงออกมา แม้จะไม่เป็นทำนองเพลงแต่ก็ไม่ได้แสบแก้วหูนัก

ทงจือและทงเหยาได้ยินเสียงเครื่องดนตรีมาแต่ไกลก็รู้สึกภูมิใจยิ่งนัก

คุณหนูของพวกนางในที่สุดก็ยอมซ้อมฉินสักที แต่สิ่งที่ทำให้พวกนางผิดหวังนั้นคือ เฟิ่งชิงเฉินบรรเลงออกมาเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

บ่าวรับใช้ทั้งสองนางมองหน้ากันไปมาด้วยความลังเลใจว่าจะเข้าไปสอบถามดีหรือไม่ ทว่าท้ายที่สุดพวกนางก็ละทิ้งความคิดนี้ คุณหนูมิได้เรียกให้พวกนางเข้าไป ต่อให้พวกนางเข้าไปก็เปล่าประโยชน์ เนื่องจากคุณหนูคงไม่คิดจะฟัง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ