นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 443

ทันทีที่ผู้เชี่ยวชาญแสดง ก็จะรู้ได้เลยว่าของจริงหรือไม่

เฟิ่งชิงเฉินไม่รู้ว่าเพลงที่ซูหว่านบรรเลงนั้นเป็นบทเพลงประเภทใด ฉะนั้นก็ยิ่งมิต้องไปคิดเรื่องบรรเลงได้ดีหรือไม่ ที่นางรู้เพียงว่าเสียงฉินนั้นไพเราะเสนาะหูอย่างมาก ดูมีพลังและสง่างาม แต่ก็ดูเหมือนว่าจะขาดความแข็งแกร่งไปเล็กน้อย

นางฟังไม่เข้าใจ เฟิ่งชิงเฉินก็เลยตัดสินใจไม่ฟัง ไม่ว่าซูหว่านจะเล่นดีแค่ไหนก็ไม่เกี่ยวอะไรกับนาง เฟิ่งชิงเฉินหลับตาและนั่งอยู่ที่ของตนแสร้งทำเป็นลึกลับ ไม่ว่าจะสายตาที่มองจ้องมาหรือแอบมองจากทั่วทิศ นางล้วนทำเป็นมองไม่เห็น มีอารมณ์คล้ายว่าอยู่ในกลางเมืองที่วุ่นวาย แต่นางกลับสงบราวกับว่าอยู่คนละโลกกัน ทำให้คนอื่นๆ ไม่สามารถละเลยนางไปได้

อันที่จริง นอกจากซูหว่านที่กำลังจดจ่ออยู่กับการบรรเลงฉินแล้ว คนอื่นๆ จะมองไปที่เฟิ่งชิงเฉินบ้างบางครั้ง ไม่ใช่เพราะทุกคนสงสัยอย่างมาก แต่เพราะเฟิ่งชิงเฉินดูทรงพลังมากเกินไป อีกทั้งบวกกับเพลงที่ซูหว่านบรรเลง ทำให้คนอื่นๆ อดโยงไปที่เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้

เมื่อเผชิญกับการจ้องมองของทุกคน และยังคงสามารถสงบนิ่งได้ มิใช่ใครที่ไหนก็ทำเช่นนี้ คุณชายหยวนซีพยักหน้าอีกครั้ง และกล่าวในใจว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา!

ความรู้สึกที่ดีต่อเฟิ่งชิงเฉินค่อยๆ เพิ่มขึ้น

ไท่ฟู่ ไท่ซือและไท่เป่าได้ยินข่าวลือ และพวกเขาจึงมองเฟิ่งชิงเฉินไม่ดีเท่าไหร่นัก แต่เมื่อมองดูเฟิ่งชิงเฉินในวันนี้ พวกเขาแอบชื่นชมนาง สามารถทำให้เสด็จอาเก้าที่มีมาตรฐานสูงอย่างมากทรงโปรดปราน เฟิ่งชิงเฉินจะต้องมีจุดเด่นและดีอย่างแน่นอน และหญิงสาวคนนี้มีสิ่งที่แตกต่างจากคนธรรมดาจริงๆ

แน่นอน พวกเขาชื่นชมเฟิ่งชิงเฉิน ส่วนหนึ่งก็เพราะนางเป็นคนตงหลิง หากนางชนะซูหว่านตงหลิงก็มีหน้ามีตา พวกเขามีใจรักแผ่นดินอย่างมาก หากมองในแง่ผลประโยชน์ของแผ่นดินแล้ว จุดด้อยเล็กๆ น้อยๆ ของเฟิ่งชิงเฉินสามารถมองข้ามกันได้

“เจิ้ง...”

เพลงของซูหว่านจบลงในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง วินาทีที่จบลง ซูหว่านลืมตาขึ้น ดวงตาของนางเป็นประกาย สามารถเห็นได้ว่า นางพอใจกับการแสดงของตนอย่างมาก การแสดงออกเมื่อสักครู่นี้ถือว่านางทำได้ดีกว่าปกติอย่างมากแล้ว

หนานหลิงจิ่นฝานพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ ในบรรดาคนที่อยู่ตรงนั้น นอกจากเฟิ่งชิงเฉินแล้ว ทุกคนล้วนเชี่ยวชาญด้านท่วงทำนอง แม้ว่าพวกเขาจะเล่นไม่ได้ อย่างน้อยพวกเขารู้เรื่องดนตรี เพราะนี่เป็นวิชาที่เหล่าลูกหลานผู้ดีจะต้องเรียน

เพลงที่ซูหว่านบรรเลงนั้นไร้ที่ติ

มีคนดีใจย่อมมีคนกังวล องค์รัชทายาท ลั่วอ๋องกุ้ยเฟยและคนอื่น ๆ ต่างก็เป็นห่วงเฟิ่งชิงเฉินอย่างมาก เพลงที่ซูหว่านบรรเลงนั้นแม้แต่อาจารย์ฉินที่เก่งที่สุดก็คงสู้ไม่ไหว เฟิ่งชิงเฉิน.....

เฮ้อ ตอนนี้หวังเพียงแค่ว่านางจะไม่แพ้อย่างน่าเกลียดจนเกินไป

ทุกคนต่างก็ภาวนาอยู่ในใจ

ซูหว่านลุกขึ้น ดูสีหน้าของทุกคน นางกวาดสายตาจ้องไปที่เฟิ่งชิงเฉินเป็นเวลาสามสี่วินาที นางไม่เห็นสีหน้าที่ตื่นตระหนกของเฟิ่งชิงเฉิน ซูหว่านรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

ซู่หว่านถอยหลังไปสองก้าว ยืนอยู่ทางด้านซ้ายของฉิน จากนั้นก็คำนับไปทางจักรพรรดิและฮองเฮา แล้วคำนับไปที่หยวนซีและอาจารย์ทั้งสาม "หนานหลิงซูหว่าน ขอเชิญคุณชายหยวนซีติเตียน”

ทุกคนรู้ดีว่าในบรรดาคนที่อยู่ตรงนั้น มีเพียงคุณชายหยวนซีเท่านั้นที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะแสดงความคิดเห็นและตัดสิน เพราะเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตงหลิงและหนานหลิง

ในตอนนี้ ไม่เพียงแต่ซูหว่านเท่านั้น แม้แต่จักรพรรดิและคนอื่นๆ ก็ตั้งตารอความคิดเห็นของคุณชายหยวนซู คุณชายหยวนซีสามารถตัดสินผลลัพธ์ได้เพียงแค่พูดประโยคเดียวเท่านั้น ตอนนี้มีเพียงเฟิ่งชิงเฉินที่ยังคงดูเหมือนไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตัวเองเลย ท่าทีของนางราวกับว่าซูหว่านไม่ได้อยู่ในสายตาตนเลย

เมื่อเห็นภาพนี้ ทุกคนเดาไม่ออก แม้แต่คุณชายหยวนซีเองก็คิดว่าฝีมือการบรรเลงฉินของเฟิ่งชิงเฉินนั้นยอดเยี่ยมมาก จึงไม่แยแสซูหว่านเลย ฉะนั้นเมื่อแสดงความคิดเห็นเขาจึงระมัดระวังมากขึ้นอย่างมาก

"คุณหนูซูหว่านมีทักษะด้านการบรรเลงฉินที่ช่ำชอง บรรเลงความสูงส่งและความเป็นเอกลักษณ์ของบทเพลง “"ก่วงหลิงส่าน” ออกมาได้อย่างดี แต่สิ่งที่ยังคงไม่สมบูรณ์ก็คือ คุณหนูซูหว่านเน้นเรื่องทักษะการบรรเลงมากเสียจนเกินไป มิได้ผสมผสานความรู้สึกของตนเข้าไปในบทเพลงนี้ ทำให้บทเพลงนี้ขาดความน่าเกรงขามเร่าร้อนไปเล็กน้อย แต่ด้วยอายุของคุณหนูซูหว่าน สามารถบรรเลงได้ถึงขั้นนี้ หากเทียบในคนอายุร่วมราวคราวเดียวกัน ถือว่าพิเศษอย่างมาก”

ชื่นชมก่อนแล้วจึงวิจารณ์สุดท้ายก็ชื่นชมอีกเล็กน้อย คุณชายหยวนซีเป็นคนที่ยอดเยี่ยม เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกว่าคนนี้ไม่ใช่คนที่ชอบอวดดี ควรค่าแก่การเป็นมิตรด้วย เพียงแต่ไม่ทราบว่าหลังจากวันนี้ไป คุณชายหยวนซีจะยอมเป็นมิตรกับนางหรือไม่

ซูหว่านเดิมไม่มีความสุขเท่าไหร่ แต่เมื่อได้ยินคำสุดท้ายนางก็คำนับต่อคุณชายหยวนซีด้วยรอยยิ้ม "ขอบใจสำหรับคำแนะนำของคุณชาย”

ซูหว่านกลับไปนั่งที่เดิมอย่างสง่างามราวกับผีเสื้อสีชมพู นางแสดงความงามของตนภายใต้ดวงอาทิตย์ที่สองแสงจ้า

“ชิงเฉินซิ่ว ถึงตาเจ้าแล้ว” ไท่ฟู่เหล่ตาและยิ้ม ภายใต้ความคาดหวังของทุกคน เขาพูดช้าๆ

จิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์!

เมื่อเฟิ่งชิงเฉินลุกขึ้น นางเห็นรอยยิ้มเปล่งประกายในดวงตาของไท่ฟู่ ท่าทีของเขาเหมือนกำลังรอดูละคร นางจึงอดไม่ได้ที่จะด่าทอในใจ

อันที่จริงคนไม่ใช่แค่ไทฟู่คนเดียวที่รอดูนาง มีฮองเฮา ซีหลินเทียนเหล่ย หนานหลินจิ่นฝานล้วนมาดูนางเล่นตลกทั้งนั้น แม้แต่เสด็จอาเก้าของก็น่าสงสัยเช่นกัน

ช่วยไม่ได้ เพราะทุกคนต่างก็ไม่เชื่อในตัวเฟิ่งชิงเฉิน

เฟิ่งชิงเฉินถือฉินเอาไว้ และโค้งคำนับไปยังตำแหน่งของจักรพรรดิและคุณชายหยวนซี จากนั้นจึงขึ้นบันไดไป เมื่อก้าวเข้าสู่จุดวางฉิน นางกำนัลเข้ามารับฉินไป แต่เฟิ่งชิงเฉินปฏิเสธ “ไม่เป็นไร ข้าทำเอง”

เฟิ่งชิงเฉินเปิดกล่องฉินอย่างช้าๆ คุณชายหยวนซีนั่งตรงข้ามกับจุดบรรเลงเปียโน เฟิ่งชิงเฉินจึงใช้โอกาสนี้ดูชายผู้นี้ที่สามารถตัดสินชัยชนะของนางได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ