สรุปตอน บทที่ 444 ขอเป็นศิษย์ กลิ่นอายของความเป็นราชินี – จากเรื่อง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย
ตอน บทที่ 444 ขอเป็นศิษย์ กลิ่นอายของความเป็นราชินี ของนิยายInternetเรื่องดัง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดยนักเขียน อาช้าย เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
เสียงของน้ำนั้นน่าตื่นเต้นนัก คลื่นปั่นป่วน ทะเลสีดำที่ดูกดดันอย่างมาก ดูเหมือนกำลังจะทำลายท้องฟ้านั้นไป หัวใจของทุกคนต่างก็กังวลตามกันไป และหายใจแทบไม่ออก และในวินาทีนี้ เสียงตุ๋ม คลื่นลดลง ผิวน้ำทะเลสงบเช่นเดิม เหลือเพียงคลื่นเล็กซัดอยู่บนพื้นผิวทะเลไปพร้อมกับสายลม
ในขณะที่ทุกคนคิดว่ามันกำลังจะจบลง พวกเขาเห็นเฟิ่งชิงเฉินยกมือขวาขึ้นและกวาดสายฉินจากซ้ายไปขวา......
เมื่อเสียงคลื่นดังเข้ามาในหู ทุกคนเห็นคลื่นน้ำไหลไปมาตามความพลิ้วไหวของแขนเสื้อเฟิ่งชิงเฉินเมื่อเฟิ่งชิงเฉินวางมือลง เสียงคลื่นก็หายไป และผิวน้ำที่ไหลไปด้วยความพลิ้วไหวของแขนเสื้อก็หยุดหายไปเช่นกัน.......
หากผิวน้ำที่พวกเขาเห็นก่อนหน้านี้เป็นอย่างที่พวกเขาจินตนาการ ในตอนนี้พวกเขาได้เห็น "น้ำ" จริงๆ
เพลงจบลง แต่ใจของทุกคนไม่สามารถสงบลงได้เป็นเวลานาน และสายตาของเฟิ่งชิงเฉินก็เปลี่ยนไปเช่นกัน
พวกเขาประเมินเฟิ่งชิงเฉินต่ำไปจริงๆ!
ทุกคนไม่สามารถเรียกสติคืนกลับมาได้อยู่เป็นเวลานาน จนกระทั่งเฟิ่งชิงเฉินลุกขึ้น ใช้แขนเสื้อสะบัดเอาฉินสายน้ำแข็งนั้นร่วงลงพื้น ทุกคนจึงได้สติคืนมา
“บูม…” ฉินสายน้ำแข็งร่วงลงมาจากแท่นตั้งฉินที่สูง เสียงดังเพี๊ยะ และหักเป็นสองท่อน
"นี่..." ทุกคนกลับมามีสติอีกครั้ง และมองไปที่เฟิ่งชิงเฉินที่ยืนอยู่บนแท่นฉิน จากนั้นมองไปที่ฉินที่อยู่บนพื้น และสิ่งสำคัญคือภายในฉินนั้นมีพระพุทธรูปกลิ้งออกมา
วันนี้มีเทพหลายประเภทเลย!
“เกิดอะไรขึ้น?” จักรพรรดิยกมือขึ้น ขันทีก้าวไปข้างหน้าทันที ถือซากปรักหักพังของฉินสายน้ำแข็งไปให้จักรพรรดิดู
เฟิ่งชิงเฉินเดินลงไปอย่างไม่เร่งรีบ และโน้มตัวลงเล็กน้อย "ฮ่องเต้ได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วย ชิงเฉินมิได้ตั้งใจที่จะทำสิ่งของที่ฮองเฮามอบให้พัง"
เฟิ่งชิงเฉินเน้นคำว่า “ฮองเฮา” อย่างร้ายกาจ
พระพุทธรูป?
ฮองเฮากำลังเตรียมจะตบโต๊ะ เพื่อให้ลงโทษเฟิ่งชิงเฉิน และโยงความผิดไปที่องค์รัชทายาท แต่มือของนางค้างอยู่กลางอากาศและไม่สามารถตบลงมาได้สักที
แม้ว่าการที่เฟิ่งชิงเฉินทำฉินสายน้ำแข็งร่วงนั้นจะเป็นอุบัติเหตุ แต่ภายในฉินนั้นจะมีพระพุทธรูปได้อย่างไร ทั้งๆ ที่นางใส่.....
ฮองเฮารีบปิดปาก และเก็บคำพูดที่กำลังจะพูดกลับไป และมองจ้องไปที่เฟิ่งชิงเฉินอย่างแรง
ได้ได้ เฟิ่งชิงเฉินนางตัวดี แผนอันประณีตเช่นนี้ เฟิ่งชิงเฉินยังสามารถดูออกได้ นางประเมินเฟิ่งชิงเฉินต่ำไปจริงๆ
ฮองเฮารู้ว่าองค์รัชทายาทและเฟิ่งชิงเฉินจะพบอย่างแน่นอนว่าฉินสายน้ำแข็งนั้นผิดปกติ แต่พบแล้วอย่างไร พวกเขาไม่รู้สาเหตุที่มา แม้ว่าจะรู้ว่ามันคือกับดัก แต่ก็ต้องโดดลงไปอยู่ดี
แต่ฮองเฮาประเมินตัวเองสูงเกินไป เฟิ่งชิงเฉินไม่เพียงพบปัญหาเท่านั้น และยังแอบเปลี่ยนสิ่งของที่อยู่ด้านใน ให้หน้าองค์รัชทายาทอย่างมาก
องค์ชายก็ตกตะลึงเช่นกัน ฉินนี้เขาเป็นคนสั่งให้สร้างขึ้นมา ทั้งๆ ที่ฉินนี้เป็นไม้แบบอัดเต็ม ข้างในจะมีสิ่งของได้อย่างไร? และยังเป็นพระพุทธรูปอีกด้วย
องค์รัชทายาทมองดูฮองเฮาเป็นอันดับแรก จากนั้นก็กวาดมองเฟิ่งชิงเฉินอย่างรวดเร็ว องค์รัชทายาทเข้าใจในพริบตา ดูเหมือนว่าฮองเฮาต้องการจะใส่ร้ายเขา แต่เฟิ่งชิงเฉินเห็น จึงถูกโต้กลับ
จักรพรรดิไม่ได้พูดกระไร แต่เหลือบไปที่เฟิ่งชิงเฉินและสายตานั้นดูเหมือนจะมองเฟิ่งชิงเฉินให้ทะลุ แต่น่าเสียดายที่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เฟิ่งชิงเฉินได้พบจักรพรรดิ ไม่ว่าฮ่องเต้จะยิ่งใหญ่แค่ไหน นางก็จะสามารถรับมือได้ นางยืนตัวตรง แวววตาแน่วแน่ ไม่ยอมไม่เกรงกลัว และให้ฮ่องเต้มองดูตามใจชอบ
คนที่จะได้รับผลประโยชน์มิใช่นาง นางจะร้อนตัวเพื่อการใด
ทุกสิ่งที่นำเข้ามาในพระราชวังได้ ต้องผ่านการตรวจสอบซ้ำแล้วซ้ำอีก นอกจากนี้ ฉินนี้คือของที่ฮองเฮามอบให้ ฉะนั้นฮ่องเต้เชื่อว่าเฟิ่งชิงเฉินไม่รู้เรื่องด้วย จากนั้นจึงหันไปถามฮองเฮาแทน " ฮองเฮา นี่มันเรื่องกระไรกัน?”
เฟิ่งชิงเฉินต่างจากซูหว่าน นางไม่เพียงแต่กล่าวถึงไท่ฟู่ทั้งสาม และยังวางพวกเขาไว้ในตำแหน่งหน้า ต้องรู้เอาไว้ว่าไม่ว่าคุณชายหยวนซีจะมีชื่อเสียงเพียงใด แต่เขาเป็นแค่ผู้เชี่ยวชาญฉิน และใต้เท้าทั้งสามนั้นเป็นคนสำคัญและสูงส่งของตงหลิง
แน่นอนว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับที่ซูหว่านไม่ใช่คนตงหลิงอย่างแน่นอน ซูหว่านไม่จำเป็นต้องประจบประแจงกับขุนนางในตงหลิง แต่ชิงเฉินต้องทำ ส่วนทำเช่นนี้จะทำให้คุณชายหยวนซีโกรธเคืองหรือไม่นั้น มิต้องกังวล
ความสามารถที่นางแสดงออกมาเมื่อสักครู่นั้น มากพอที่จะทำให้ผู้เชี่ยวชาญนี้ตะลึง จะว่าไปคุณชายหยวนซูมิใช่คนที่หวังเรื่องชื่อเสียงเท่าไหร่นัก ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่บอกว่าตนเป็นแค่ที่สองหลังจากที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ช่ำชองฉินอันดับหนึ่งในใต้หล้า
"ข้าเกรงว่าจะไม่สามารถแสดงความคิดเห็นในบทเพลงนี้ "ท้องทะเลและฟ้าสีคราม” ได้ คุณชายหยวนซีเชิญขอรับ" ใต้เท้าไท่เป่าเอ่ยปาก ไท่ฟู่และไท่ซือกล่าวตาม คุณชายหยวนซีไม่ปฏิเสธ เพราะเขามีคำถามมากมายที่จะถามเฟิ่งชิงเฉิน
"ชิงเฉินเพื่อนน้อย บทเพลง " ท้องทะเลและฟ้าสีคราม” นี้เป็นผลงานของผู้ใดหรือ?” เขาจะต้องพบคนยอดฝีมือนี้ให้ได้ คุณชายหยวนซีตื่นเต้นอย่างมาก หลายปีที่ผ่านมานี้ บทเพลงนี้เป็นบทเพลงเดียวที่สามารถทำให้เขาประทับใจได้ เขาจะต้องหาคนแต่งให้เจอ
“ความลับ” เฟิ่งชิงเฉินส่ายหัวโดยไม่สนใจความร้อนใจและผิดหวังในสายตาของคุณชายหยวนซี
นางจะหาคนแต่งเพลงจากที่ใดกัน นี่เป็นบทเพลงที่ทางทหารทำมาเพื่อคลายความกดดันของเหล่าทหารที่อยู่ในสนามรบ นี่เป็นบทเพลงที่ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาและนักดนตรีระดับโลกแต่งขึ้นมาพร้อมกัน และเพลงแบบนี้มีแต่นางเท่านั้นที่จะใช้ ……
"แล้วเจ้าช่วยบอกบทบรรเลงกับข้าน้อยได้หรือไม่?” เขาเปลี่ยนจากคำว่าข้าเป็นข้าน้อย คุณชายหยวนซีถอยจนคนในเหตุการณ์ตะลึงอย่างมาก คุณชายหยวนซีเป็นคนหยิ่งผยองอย่างมาก แม้แต่การชักชวนของจักรพรรดิเขาก็มิให้ความสำคัญ
“ไม่ได้” เฟิ่งชิงเฉินปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา นางจะไปหาวิธีเล่นบทเพลงนี้มาจากไหน
คุณชายหยวนซีรู้สึกท้อแท้เล็กน้อย แต่เขาไม่อยากที่จะยอมแพ้ เมื่อเห็นใบหน้าที่มุ่งมั่นของเฟิ่งชิงเฉินเขากัดฟันและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น ข้าขอกราบเจ้าเป็นอาจารย์ แล้วเจ้าสอนข้าบทเพลงนี้ได้หรือไม่?”
ว่าอย่างไรนะ?
คุณชายหยวนซีจะกราบเฟิ่งชิงเฉินเป็นอาจารย์ของตน เพื่อฝึกการเล่นฉิน?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...