นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 472

การแข่งทั้งหมด4รอบ เฟิ่งชิงเฉินอารมณ์ดีหลังจากชนะ 3 เกมไป ตอนนี้วิกฤตของนางจัดการเรียบร้อยแล้ว การแข่งขันต่อไป หากว่านานอีกหนึ่งเกม ผลการแข่งขันที่เลวร้ายที่สุดคือการเสมอกัน

ฮ่าฮ่าฮ่า... ในที่สุดนางก็ไม่ต้องกังวลว่านางจะเสียหน้าในการแข่งขันครั้งนี้แล้ว เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เฟิ่งชิงเฉินอารมณ์ดีขึ้นอย่างมาก แม้แต่อากาศก็สดชื่นขึ้นกว่าเดิม ซูหว่านก็ดูน่ารักกว่าเดิมไปมาก

ส่วนเรื่องเงื่อนไขที่จักรพรรดิเจรจากับหนานหลิงจิ่นฝานและหยานหลิงเทียนเหล่ยนั้น นางไม่สนใจเลย เมื่อนางเอาแผนภาพโครงกระดูกมนุษย์ออกมา นางรู้ว่านางไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ

เมื่อมองไปที่ซูหว่านที่สิ้นหวังอย่างมาก เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้ซ้ำเติมนาง ซูหว่านถูกหนานหลิงจิ่นฝานหักหลัง ตอนนี้นางกำลังเจ็บใจอยู่ นางจึงไม่อยากจะที่ซ้ำเติมคนอื่น

สำหรับซูหว่าน นางเคารพคู่ต่อสู้ในฐานะคู่แข่ง ดังนั้นนางจะไม่สงสารซูหว่าน เพราะสิ่งที่ซูหว่านไม่ต้องการมากที่สุด คือความสงสารจากนาง

เฟิ่งชิงเฉินเพิกเฉยต่อซูหว่าน นางโค้งคำนับขันทีที่ที่ส่งพรพราชโองการของฝ่าบาท และเดินออกจากพระราชวังไปอย่างสง่า เตรียมกลับบ้าน

ในสถานที่อย่างพระราชวัง การอยู่ให้ยาวนานและพยายามอยู่ห่างจากความปลอดภัย ตอนนี้เสด็จอาเก้ากำลังป่วย หาว่านางเกิดเรื่องอะไร ก็คงไม่มีใครช่วยนางได้

ตอนนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญของการแข่งขัน นางมีความชัดเจนเพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องหาเรื่องใส่ตน และไม่อยากมีปัญหาไปมากกว่านี้

น่าเสียดายที่ฟ้าไม่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้คนได้ ทันทีที่เฟิ่งชิงเฉินออกจากพระราชวัง เธอก็ถูกคนของเซี่ยกุ้ยเฟยสกัดเอาไส้ และบอกว่ากุ้ยเฟิยเชิญพบนาง

เฟิ่งชิงเฉินรู้ว่านางไม่สามารถปฏิเสธได้ แม้ว่านางจะไม่พอใจเท่าไหร่ แต่ก็เดินตามหลังนางกำนัลมาอย่างเงียบๆ และเดินเข้าตำหนักจาวเหยี่ยนนั้นไป

ตำหนักจาวเยี่ยนมีสิ่งของมากมายเพิ่มเข้ามา ดูหรูหรากว่าตำหนักของฮองเฮา เห็นท่าทีเช่นนี้แล้ว ฮองเฮาไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญในลูกของพระสนามเซี่ยกุ้ยเฟย

“ชิงเฉิน ขอคำนับฮองเฮา ขอพระองค์ทรงพระเจริญ” ท้องของเซี่ยกุ้ยเฟยยังไม่เห็นชัดเท่าไหร่นัก แต่นางกลับเอาแต่ยื่นท้องของตนออกมา ราวกับว่ากลัวคนอื่นไม่รู้ว่าเธอนั้นตั้งครรภ์

“ชิงเฉิน โปรดลุกขึ้นเร็วๆ” เซี่ยกุ้ยเฟยกล่าว แต่นางไม่ได้ลุกขึ้น นางเพียงตแต่เงยหน้าพยุงไปเล็กน้อยเท่านั้นเอง

“ขอบพระคุณเหนียงเหนียง ไม่ทราบว่าเหนียงเหนียงตามหาชินเฉินมีเรื่องกระไรหรือ?” เฟิ่งชิงเฉินไม่ชอบที่จะต้องพูดคุยกับเซี่ยกุ้ยเฟยเท่าไหร่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรู้ว่าเซี่ยกุ้ยเฟยสามารถไม่สนใจชีวิตของเด็กในท้องของตน และทำเพื่อแย่งชิงความโปรดปรานอย่างเดียว ณ วินาทีนั้นเฟิง่ชิงเฉินได้ตัดสินใจว่าจะอยู่ห่างจากเซี่ยกุ้ยเฟย

ผู้หญิงอย่างเซี่ยกุ้ยเฟยนั้นน่ากลัวอย่างมาก นางสามารถฆ่าแม้กระทั่งลูกชายแท้ๆ ของตน แล้วจะไว้ใจว่านางจะปฏิบัติต่อตัวอย่างจริงจังได้อย่างไร?

ในสายตาของเฟิ่งชิงเฉิน เซี่ยกุ้ยเฟยและอู่เจ๋อเทียนอยู่ในระดับเดียวกัน ต่างก็เป็นคนที่ทำเพื่อเป้าหมายของตนโดยไม่ยอมแพ้ การร่วมงานกับคนเช่นนี้ ไม่แตกต่างจากการขี่บนหลังเสื้อ หากไม่ระวัง ก็อาจถูกอีกฝ่ายกลืนกินไปได้

“ชิงเฉิน ช่วงนี้ข้าเหนื่อยล้าอย่างมาก สองสามวันก่อนมีเลือดออกด้วย ข้าเป็นห่วงเด็กคนนี้อย่างมาก” เซี่ยกุ้ยเฟยสัมผัสหน้าท้องของนางด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง

นับตั้งแต่เฟิ่งชิงเฉินกล่าวว่าเด็กคนนี้อาจมีบางอย่างผิดปกติ เซี่ยกุ้ยเฟยก็ไม่ค่อยใส่ใจกับเด็กคนนี้เท่าไหร่นัก แต่นางไม่กล้าทำให้เด็กนั้นแท้งไป เพราะนางกลัวว่าจะเป็นเหมือนที่เฟิ่งชิงเฉินกล่าวว่า ในอนาคตอาจไม่สามารถมีลูกได้อีก ถ้าเป็นเช่นนั้นคงแย่อย่างมาก

"หม่อมฉันจะขอวัดชีพจรจักรพรรดินีแล้วกัน" แม้ว่าเฟิ่งชิงเฉินจะไม่เคยเป็นแม่มาก่อน แต่นางก็เข้าใจความรู้สึกของเซี่ยกุ้ยเฟยดี เพราะเซี่ยกุ้ยเฟยคาดหวังกับเด็กคนนี้ไปมาก เมื่อได้ยินสิ่งที่นางพูดก็อาจรับไม่ได้

อันที่จริง ไม่มีแม่คนใดยอมรับได้ว่าลูกที่ตนตั้งท้องมา10เดือนนั้น จะไม่แข็งแรง

เป็นไปตามที่เฟิ่งชิงเฉินคาดเอาไว้ เซี่ยกุ้ยเฟยเอาแต่เคร่งเครียดเอง เช่นนี้ไม่เพียงแต่ไม่ดีต่อร่างกาย และไม่ดีต่อเด็กในครรภ์อีกด้วย เฟิ่งชิงเฉินเริ่มสงสัย ว่าการที่ตนกล่าวผลการวินิจฉัยโรคออกมานั้นดีหรือไม่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ